ดาร์บี้แมตช์แดนบูรพา "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ระส่ำแข้งหลักเจ็บอื้อ รับมือ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ที่หวังมาสร้างเซอร์ไพรส์ แต่ จเด็จ มีลาภ กุนซือฉลามชล ยังมั่นใจ เล่นในบ้านได้เฮแน่ ฝั่ง "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ออกปากอย่างมั่นใจ จะเก็บชัยเหนือ บีอีซี เทโรฯ ได้แน่ ขณะที่ "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือ โอสถฯ เตรียมทัพใหญ่ ลงโซ้ยศรีสะเกษ 25 ก.ย. นี้

  

ศึกลูกหนังสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เกมวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. นี้ มีดวลแข้งกันถึง 4 คู่ 4 สนาม เริ่มต้นที่สนาม สพล.ชลบุรี "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง ในตารางเปิดบ้านต้อนรับ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง เริ่มคิกออฟในเวลา 18.00 น. โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้ชมกันถึงบ้านทาง สทท. กรมประชาสัมพันธ์

เกมนี้เจ้าบ้าน ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ "เซอร์เด็ด" จเด็จ มีลาภ หมดสิทธิ์ใช้งาน สุทธินันท์ พุกหอม กับ สุรีย์ สุขะ ที่ติดโทษแบน ทั้งยังไม่มี เกียรติประวุฒิ สายแวว, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, เอกพันธ์ อินทเสน ที่บาดเจ็บ แต่ยังคงจัดทัพชุดใหญ่ตามเดิมในระบบ 4-4-2

ซึ่ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล จะกลับมาเฝาเสา แบ็กซ้ายเป็น ณัฐพงษ์ สมณะ ทางขวาให้ เจษฎากรณ์ เหมแดง ทำหน้าที่ เซนเตอร์เป็นการจับคู่กันของ ชลทิตย์ จันทคาม กับ เค็นเน็ต อัคปูเอเช่ แดนกลางใช้ ภูริทัต จาริกานนท์ คอยตัดเกม ปล่อยให้ ภานุวัฒน์ จินตะ ทำเกมร่วมกับ เดฟ ซิมสัน และ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว กองหน้าเป็นการจับคู่กันของ ฌูลส์ บากา กับ พิภพ อ่อนโม้

โดย จเด็จ มีลาภ กล่าวถึงความพร้อมก่อนลงทัพศึกนัดนี้ว่า "ต้องบอกว่านักเตะของเรามีทั้งการติดโทษแบน และอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เยอะ จากการที่เราต้องลงเตะในหลายรายการติดต่อกัน แต่นัดนี้เราคงจะเปิดเกมบุก เพราะการได้เล่นในบ้าน แฟนบอลย่อมมีส่วนการกระตุ้นผู้เล่น ทำให้น่าที่จะคว้าชัยชนะได้ในท้ายที่สุด"

                                                          เรืองฤทธิ์ต้องการผลชนะออกมาเท่านั้น

 ด้าน "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ที่มี น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รับบทเป็นกุนซือใหญ่อยู่นั้น มีเพียงแค่ ยันนิค จอร์จส์ เท่านั้นที่ได้รับการติดโทษแบน โดยจะเล่นในระบบ 4-4-2 ให้ โกสินทร์ เหมบุตร ลงเฝ้าเสาตามเดิม แบ็กซ้ายเป็น เจษฎา งามเมือง ทางขวาให้ ชณธวัฒน์ ศรีสุข ทำหน้าที่

กองหลังเป็นการจับคู่กันของ กุศล เพ่งผล กับ สุระเดช เสาไธสง ขยับมาแดนกลางให้ ติณภพ ศรีสถิตย์ ยืนเป็นปีกซ้าย ด้านขวาใช้ ราติญโญ่ ปล่อยให้ สุทธินันท์ นนที เดินเกมร่วมกับ ศุภชัย ขำทรัพย์ กองหน้า สมเจตร สัตบุษ กับ เจเนป้า ดิดี้ ลงล่าตาข่าย

น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว กุนซือใหญ่ของราชนาวี เผยความพร้อมของทีมว่า เกมนี้ตนมองว่าอาจจะเป็นจุดเปลี่ยน ที่น่าจะทำให้ตนรู้ถึงอนาคต การอยู่รอดปลอดภัยในไทยลีก ซึ่งเราหวังว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และตนต้องการที่จะสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ ด้วยการเก็บ 3 แต้มให้ได้

                                                       "ปลาทู" ขอ 3 แต้ม เจอเทโรฯ ในบ้าน

 อีกคู่ที่สนามกีฬา จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เปิดบ้านต้อนรับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรฯ อดีตมหาอำนาจแห่งวงการลูกหนังไทย โดยจะเล่นกันในเวลา 16.30 น. ซึ่งช่องทรูสปอร์ต จะดำเนินการถ่ายทอดสด

เกมนี้ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม เฮดโค้ช "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม จะไม่มีนักเตะที่ติดโทษแบนหรือบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น และจะเล่นในระบบ 4-3-1-2 ให้ ปินโต้ จอมหนึบจากบราซิล รับบทเป็นผู้รักษาประตู

แผงแบ็กโฟร์ทางซ้ายให้ กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ ขวาเป็น ประสาร พันธ์สำลี คู่เซนเตอร์ใช้ สุขสยาม ชาญมณีเวช กับ ชุมพล บัวงาม กองกลาง 3 คน ประกอบไปด้วย ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น, พัชรินทร์ สุขใส, พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า กองกลางตัวรุกใช้ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร ขณะที่แดนหน้ามี บิเรเม่ กับ เอฟเฟ่ คอยกะซวกตาข่าย

"น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กล่าวถึงเกมนี้ว่า "ผมต้องการให้ลูกทีมเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน อย่าผลีผลามในการเล่นมากนัก อีกทั้งเรายังมีสภาพทีมที่ค่อนข้างจะลงตัวอย่างมาก และเกมนี้จะเก็บชัยชนะได้อย่างแน่นอน"

                                                           กุนซือ "มังกร" ขอบุกตั้งแต่เริ่ม

 ด้าน เฮอร์เก้ อมาย่า กุนซือชาวชิลีของ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรฯ จะมาเล่นแบบฟูลทีมในระบบ 4-4-2 วาง พิศาล ดอกไม้แก้ว เฝ้าเสา ให้ ปรัชญ์ สมัคราษฏร์ กับ เอเวอร์ เบนิเตซ จับคู่ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ แบ็กซ้ายเป็น ชลากร สงวนดี ขวาเป็น กีย์ อูแบร์ ขยับขึ้นมาแดนกลางใช้ พิชิต ใจบุญ กับ อังเจลโล่ ปาชูก้า เดินเกมขนาบข้างด้วย มาริโอ เนโต้ ทางซ้าย และ ทัศนา แช่มสะอาด ด้านขวา กองหน้งยังคงเป็น อานนท์ สังสระน้อย กับ ธีรเทพ วิโนทัย ตามเดิม

เฮอร์เก้ อมาย่า ให้สัมภาษณ์ว่า "ถือได้ว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว เพราะการเจอกับสมุทรสงคราม คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถบุกไปเอาชนะ แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าลูกทีมทุกคนมีความสามารถที่ดีกว่าคู่แข่ง และจะเบียดเอาชนะไปได้ไม่ยากนัก"

                                                          โค้ชเบ๊จัดหนักหวังผลงานกระฉูด

 ขณะเกมที่สนาม อบจ.สระบุรี เวลา 16.30 น. เป็นการพบกันระหว่าง "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ทีมอันดับ 7 ที่จะเปิดบ้านรับมือ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 14 ซึ่งผลงานการพบกันในเลกแรกก็ปรากฏว่า โอสถสภาฯ บุกไปยันเสมอมาได้ก่อน 0-0 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 53 โดยเกมนี้ฟุตบอลสยามทีวี ช่องดีทีวี 50 จะทำการถ่ายทอดสดให้ชมอีกด้วย

ความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับความพร้อมของทีม "พลังเอ็ม" ทางด้าน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือใหญ่โอสถสภาฯ ก็ได้เผยถึงความพร้อมก่อนเกมที่จะรับมือ ศรีสะเกษ เมืองไทย ว่า "จากเกมนัดล่าสุดในศึกโตโยต้า ลีก คัพ รอบสอง นัดที่ 2 ที่เปิดบ้านถล่มเอาชนะอินทรีเพื่อนตำรวจ 7-3 ก็ดูจะช่วยสร้างความมั่นใจ ให้กับผมเองรวมถึงผู้เล่นหลายๆ คนกับการลงสนามในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นต่อไป

โดยเกมนี้ผมเองไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใด ซึ่งนักเตะกำลังสำคัญอย่าง เจษฎา พั่วนะคุณมี, อภิภู สุนทรพนาเวศ และ เคลตัน ซิลวา ฯลฯ ก็น่าจะมีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้"

                                                              กูปรีไร้ "ดิวิเน่" วิสูตรเน้นรัดกุม

 ด้าน "โค้ชวิสูตรหวานเจี๊ยบ" วิสูตร วิชายา กุนซือใหญ่ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ก็ได้เผยถึงความพร้อมก่อนเกมที่จะยกทัพบุกไปเยือนโอสถฯ ว่า "เกมนี้เราจะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นตัวหลักอย่าง เอ็นยี่ ดิวิเน่ ที่ต้องมาติดโทษแบนในเกมนี้ ซึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบอยู่พอสมควร

ขณะที่รายอื่นๆ ไม่มีปัญหา สามารถลงสนามได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น ประลอง สาวันดี, เทวา ศรีธรรมานุสาร, หัฐพร สุวรรณ และ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น โดยเกมนี้เราคงต้องระมัดระวังให้มากที่สุด ซึ่งหากเราเน้นความรัดกุม รอรับพร้อมกับหาจังหวะโต้กลับได้อย่างเข้าฝัก ผมเองก็เชื่อว่าเราน่าจะมีแต้มในเกมนี้แน่นอน"

                                                            ยุทธนาเจ็บชวดคุมทัพวิหคเพลิง

 ส่วนเกมอีกหนึ่งคู่ ในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. 53 ณ สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น. โดยเป็นการพบกันระหว่าง "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ทีมอันดับ 12 เปิดบ้านซด "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมรองบ๊วยของตาราง โดยผลงานการพบกันในเลกแรกก็ปรากฏว่า ทีโอที แคท บุกมาเฉือนเอาชนะไปได้ก่อน 1-0 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 53 และเกมนี้ สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 จะทำการถ่ายทอดสดให้ชมอีกด้วย

โดยความพร้อมของทีมเจ้าถิ่น "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ก็ได้เผยว่า "แย่เหมือนกันสำหรับเกมนี้ เพราะเราจะไม่มีมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะของทีมอย่าง ยุทธนา ไชยแก้ว ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่งก็คงต้องเช็กอาการอีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะทัน

และในฐานะที่เราเป็นเจ้าบ้านรวมถึงสถานการณ์ตอนนี้ ที่เราจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อขยับอันดับไปสู่กลางตาราง เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่างทหารบก ที่ยังคงลุ้นหนีตกชั้น แต่ก็คงขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสว่าใครจะเฉียบคมกว่ากัน"

                                                        ธาตรีคืนทัพทบ.,น้าอำสั่งลุยแหลก

 ขณะที่ พ.อ.อำนาจ เฉลิมชวลิต กุนซือคนใหม่แต่หน้าเก่าของทีม "ตรากงจักร" ทหารบก ก็ได้เผยถึงไม้เด็ดในการเตรียมตัวบุกรังทีโอที ในครั้งนี้ว่า "ช่วงที่เหลือต่อจากนี้เราคงต้องเน้นเต็มที่ แม้ผมจะเพิ่งเข้ามาสานต่อแต่ระบบทีม รวมถึงแท็กติกต่างๆ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก

โดยเกมนี้เราจะไก้นักเตะแนวรุกกำลังสำคัญอย่าง ธาตรี สีหา ที่พ้นจากโทษแบนกลับมาปักหลักในแดนหน้าอีกครั้ง ขณะที่นักเตะที่ยังติดโทษแบนอยู่ก็เป็นรายเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์, สมพร ธัญญเจริญ และ ศุภชาติ อภิชาตยานนท์ แต่ก็ดูจะไม่เป็นปัญหา เพราะตอนนี้เราทุกคนต่างก็มุ่งเป้าที่ไปที่การอยู่รอดในลีกสูงสุดให้ได้ และเกมนี้ก็ไม่มีอะไรนอกเสียจากการเปิดฉากเล่นเกมรุกใส่เจ้าถิ่นเพื่อคว้า 3 แต้มกลับบ้านให้ได้อย่างที่หวัง"