"ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ยังแกร่งในบ้าน ไล่เชือด "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน 1-0 จากประตูโทนของ โอโบเด้ เอฟเฟ่ กองหน้าชาว ไนจีเรีย ด้าน "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี โชว์ฟอร์มสุดสะเด่า ถล่ม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี สุดมันส์ 6-3 ศึกลูกหนัง ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา

 

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553

   

สมุทรสงคราม เอฟซี 1-0 บีอีซี เทโรศาสน

 

ที่สนาม กีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 8 ของตาราง แข่งมาแล้ว 24 นัด มี 31 คะแนน เปิดบ้านรับมือ "มังกรไฟ"  บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 9 แข่งมาแล้ว 23 นัด มี 28 คะแนน
 
เกมนี้ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ เอสซีจี สมุทรสงคราม ส่ง โนงูชิ ปินโต้ ผู้รักษาประตตูจอมหนึบลูกครึ่ง บราซิล-ญี่ปุ่น ลงเฝ้าเสา ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร กัปตันทีมตัวเก่งลงคุมเกมในแดนกลาง และ เอฟเฟ่ กองหน้าตัวเก่งลงล่าตะข่าย
 
ด้านของ ฮอร์เก้ อมาย่า กุนซือ บีอีซี เทโรศาสน ก็ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสู้เช่นกัน นำโดย ธีรเทพ วิโนทัย, อานนท์ สังสระน้อย และ มาเรียโน่ โซเรนติโน่
 
เริ่มเกมครั้งแรก ได้ไม่ถึงนาทีเป็นทาง บีอีซี เทโรศาสน ที่ได้ทักทายก่อน จากการยิงของ อังเจโล่ มาชูก้า ที่ลุยขึ้นมาจากทางฝั่งซ้าย ทว่าบอลหลุดเสาสองออกไป น.3 เอสซีจี สมุทรสงคราม มาได้ลุกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ หลังจากที่ โอโบเด้ เอฟเฟ่ กองหน้าของทีมไปโดนทำฟาล์วและเป็นทาง ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ที่รับอาสาปั่นเองทว่าไปติดกำแพง
 
น.15 บีอีซี เทโรศาสน เกือบมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ กีย์ ฮูเบิร์ต วางบอลยาวจากแนวหลังขึ้นหน้าให้กับ อานนท์ สังสระน้อย หลุดกับดักล้ำหน้าควบไปเอาบอลได้ ก่อนที่จะซัดด้วยขวาเน้นๆ โนงูชิ ปินโต้ ผู้รักษาประตู เอสซีจี สมุทรสงคราม ปัดออกมาได้ แต่ยังไม่พ้นอันตราย อานนท์ สังสระน้อย เก็บบอลได้อีกครั้ง ก่อนที่จะไหลต่อให้ ธีรเทพ วิโนทัย ที่พยายามวิ่งมาแปเน้นๆ ด้วยซ้าย แต่แรงเกินไป บอลเช็ดคานบอลออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
ถัดจากนั้นอีกเพียงไม่นาน น.18 เกมต้องหยุดยาวไปกว่า 5 นาที ทีเดียวเมื่อ สุขสยาม ชาญมณีเวช กองหลัง เอสซีจี สมุทรสงคราม ได้รับบาดเจ็บ ต้องทำการปฐมพยาบาลกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนตัวออก และส่ง ประหยัด บุญญา ลงไปเล่นแทน
 
น.25 พานุวัฒ ยิ้มสง่า พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายของสนาม ก่อนที่จะจ่ายต่อให้กับ โอโบเด้ เอฟเฟ่ ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อคหาจังหวะ แล้วจัดการยิงทันที พิศาล ดอกไม้แก้ว ผู้รักษาประตู บีอีซี เทโรฯ ได้แต่ยืนมองแล้ว ทว่าเป็น ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ ที่สกัดบอลออกมาได้ทัน
 
น.35 บีอีซี เทโรศาสน มาได้ลุกฟรีคิกอีกครั้ง จากจังหวะที่ ประสาร พันธ์สาลี ไปทำฟาล์ว ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ก่อนที่ ประสาร จะรับใบเหลืองไป และเป็นทาง อังเจโล่ มาชูก้า รับหน้าที่ปั่นเองอีกครั้งก็หลุดเสาสองออกไปอีก
 
น.40 ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ของบีอีซี เทโรศาสน ลากพาบอลจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษของ เอสซีจี สมุทรสงคราม ก่อนที่จะโดนกองหลัง สมุทรสงคราม เข้าสกัดก่อนที่ ณธฤษภ์ จะทิ้งตัวล้มลง แต่กรรมการไม่ว่าอะไร
 
ช่วงท้ายครึ่งแรก แฟนๆ บีอีซี เทโรศาสน เฮกันเก้อเมื่อ อังเจโล่ มาชูก้า เปิดบอลจากทางด้านขวาของสนามเข้ามาให้ ธีรเทพ วิโนทัย ได้พุ่งเข้าชาร์จเน้นๆ ตุงตาข่าย ทว่าไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไป พลาดโอกาสไปอีกครั้งสำหรับ บีอีซี เทโรศาสน
 
ครึ่งหลัง น.50 โอโบเด้ เอฟเฟ่ ก็มาทำให้แฟนๆ "ปลาทู" คะนองกันได้ทั้งสนาม เมื่อโชว์เสตปเทพ ด้วยการกระดกบอลข้ามหัว ชลากร สงวนดี ก่อนที่จะวิ่งแซงไปเอาบอล แล้วลากยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจัดการหวดด้วยขวาแบบไม่มองหน้าใคร บอลพุ่งผ่านมือ พิศาล ดอกไม้แก้ว ผู้รักษาประตู เทโรฯ ตุงตะข่าย ส่งให้ เอสซีจี สมุทรสงคราม ทะยานขึ้นนำ บีอีซี เทโรศาสน ไปก่อน 1-0
 
น.60 บีอีซี เทโรฯ มาได้ลูกฟรีคิกอีกครั้ง จากระยะ 25 หลาเยื้องไปทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษเล็กน้อย อานนท์ สังข์สระน้อย ซัดด้วยขวาเน้นๆ ทว่าไม่ผ่านกำแพงบอลหลุดออกหลังไป
 
น.66 บีอีซี เทโรศาสน บุกระลอกใหญ่ใส่ เอสซีจี สมุทรสงคราม เป็นชุดจากลุกคอนเนอร์ ทางฝั่งขวาของสนาม อังเจโล่ มาชูก้า เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษกองหลัว สมุทรสงคราม สกัดออกมาได้ เก็บบอลได้โดย มาเรียโน่ โซเรนติโน่ พยายามยิงไกลยัดเข้าไปอีกครั้ง กองหลังสกัดออกมาได้รอบนี้มาเข้าทางปืนของ กีย์ ฮูเบิร์ต วอลเลย์สวนเน้นๆ แบบไม่จับ บอลพุ่งแรง ทว่าไปตรงตัวของ โนงูชิ ปินโต้ เซฟได้สบาย
 
น.70 สถานการณ์ของ บีอีซี เทโรศาสน ดูจะแย่ลงไปกว่าเดิมเมื่อ มาเรียโน่โซเรนติโน่ กองกลางของทีม ที่โดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้แล้ว ไปทำฟาล์วหนักใส่ ประหยัด บุญญา อีกครั้ง กรรมการแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที บีอีซี เทโรศาสน เหลือ10 คน
 
น.75 กองหลังของ บีอีซี เทโรศาสน ดูเหมือนจะมีปัญหา เมื่อเจอกับลูกโยนยาวบ่อยๆ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร โยนบอลยาวขึ้นหน้าให้กับ ดิยุฟ บิราม ควบไปเอาบอลได้ ก่อนจะลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ทว่ายิงไม่ดีพอ บอลออกเสาแรกไปเหลือเชื่อ
 
น.81 อภินันท์ แก้วปีลา สาดบอลยาวขึ้นหน้า ดิยุฟ จับบอลงได้สวยก่อนก่อนที่จะลากขี้หากรอบเขตโทษอีกครั้ง โดยมี เอฟเฟ่ วิ่งทำทางไปทางขวา แต่ว่าไม่จ่าย เลือกยิงเองด้วยซ้าย บอลเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้นอะไร
 
น.87 เอสซีจี สมุทรสงคราม น่ามาได้ประตูตอกฝาโลงสุดๆ เมื่อบอลยาวจากแนวหลังอีกครั้ง ให้กับ ดิยุฟ บิราม ควบไปเอาบอลได้ ก่อนจะเลี้ยงจี้แล้วหลบ ชลากร สงวนดี มาได้ แล้วจัดการจ่ายต่อให้ สิทธิพันธ์ ชุมชวย ที่สอดขึ้นมาโล่งๆ ทว่าช้าไป พิศาล ดอกไม้แก้ว ผวาออกมาตัดบอลไปได้ทัน
 
ช่วงเวลาที่เหลือ ยังคงเป็นทางเจ้าบ้าน เอสซีจี สมุทรสงคราม ที่เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ บีอีซี เทโรศาสน อย่างหนัก ทว่าไม่สามารถที่จะทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน เอสซีจี สมุทรสงคราม เอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ โอโบเด้ เอฟเฟ่

 

วาทะโค้ช 
สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ เอสซีจี สมุทรสงคราม - วันนี้ช่วงแรก นักเตะยืนตำแหน่งกันผิดพลาด ทำให้เกมตรงกลางไม่ดี ก็เลยโดน เทโรฯ บุกครองบอลได้มากกว่า พอมาในครึ่งหลัง ก็มาปรับการยืน และแก้ไขใหม่ก็เลยดีขึ้น ต้องชมลูกยิงของ เอฟเฟ่ ด้วยที่ยิงได้อย่างดีเยี่ยม พอถึงตรงนี้เราไม่ต้องพะวงกับการตกชั้นแล้ว ก็จะพยายามทำอันดับให้ดีขึ้น โดยหวังที่จะติด 1 ใน 6 ให้ได้ รวมไปถึงรายการโตโยต้า คัพ ที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้เน้น ก็จะเน้นเต็มที่เช่นกัน 
ฮอร์เก้ อมาย่า กุนซือ บีอีซี เทโรศาสน - มันเป็นเกมที่สูสีมาก เรามีโอกาสในครึ่งแรกมากมาย โดยเฉพาะลูกจุดโทษที่เราน่าจะได้ ซึ่งต้องติงผู้ตัดสินด้วย ที่วันนี้มีหลายจังหวะเป่าผิดพลาด อีกจุดหนึ่งคือ ที่เราต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทำให้สถานการณ์ของเราย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมอีก ก็ยอมรับว่าการแพ้ในนัดนี้ ทีมยังต้องลุ้นเหนื่อยกันต่อไป แต่ก็ยังมั่นใจว่าทีมจะรอดจากการตกชั้นได้

 

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม 
เอสซีจี สมุทรสงคราม : โนงูชิ ปินโต้ 7, ประสาร พันธ์สาลี 6.5, สุขสยาม ชาญมณีเวช 6 (ประหยัด บุญญา 6.5) , ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร 7 (สิทธิพันธ์ ชุมชวย 6), พานุวัฒ ยิ้มสง่า 6.5 , ชุมพล บัวงาม 6.5, อภินันท์ แก้วปีลา 7, โอโบเด้ เอฟเฟ่ 8 (อรรณพ ชัยแป้น -) , พัชรินทร์ สุกใส 7, ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น 6.5, ดิยุฟ บิราเม่ 7 
บีอีซี เทโรศาสน : พิศาล ดอกไม้แก้ว 6.5, กีย์ ฮูเบิร์ต 7, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ 7, เอเวอร์ เบนิเตซ 6, ชลากร สงวนดี 6, ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ 6 (มาริโอ เนโต้ 6), อังเจโล่ มาชูก้า 7.5 (นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว -), มาเรียโน่ โซเรนติโน่ 5.5, พิชิต ใจบุญ 6, ธีรเทพ วิโนทัย 6.5, อานนท์ สังสระน้อย 6

 

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : โอโบเด้ เอฟเฟ่ กองหน้าชาว ไนจีเรีย ของ เอสซีจี สมุทรสงคราม

 

 

 

โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 6-3 ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี

 

ที่สนาม อบจ.สระบุรี "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ทีมอันดับ 7 ของตาราง เล่นไป 24 นัด มีอยู่ 31 คะแนน เปิดบ้านรับมือ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 14 แข่งไป 24 เกม เก็บได้ 20 แต้ม ผลงานที่ทั้งสองทีมเจอกันมาเลกแรก ผลปรากฏว่า เสมอกันมา 0-0
 
เกมนี้ "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือเจ้าถิ่น "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ได้ คัพฟ้า บุญมาตุ่น กองกลางหัวใจสำคัญ ลงมาจับคู่กับ โอลอฟ วัตสัน และให้ อภิภู สุนทรพนาเวส ลงเล่นทางริมเส้นตามเดิม
 
ด้าน วิสูตร วิชายา เฮดโค้ช ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เกมนี้ต้องการคะแนน เพื่อการหนีตาย จัดทัพใหญ่ลงบู๊ นำโดย ปิยะวัฒน์ ทองแม้น, วุฒิชัย ทาทอง, คิม ยุน ดอง, เทวา ธรรมมานุสาร และ ปรัชญา หงส์อินทร์
 
เริ่มเกมครึ่งแรก น.2 ทีมเยือนพลาดการได้จุดโทษ ในจังหวะที่ทำชิงกันของ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น มาให้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ซัดบอลไปติดมือกองหลัง โอสถฯ แต่ผู้ตัดสินยังเฉย
 
ถัดนั้นอีกนาทีเดียว เจ้าบ้าน เป็นฝ่ายได้ทักทายบ้าง เมื่อ สุรเดช ธงชัย ปีกซ้ายตัวจี๊ด ได้ซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลยังไปเข้ามือนายทวาร ศีรสะเกษ
 
น.10 วุฒิชัย ทาทอง พาบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนที่จะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าปากประตู ยังดีที่ ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตู โอสถฯ ยังออกมาตัดบอลได้พอดี
 
น.12 "พลังเอ็ม" พลาดการได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ สุรเดช ธงชัย กระชากบอลขึ้นมาที่กราบซ้าย ก่อนตัดสินใจเปิดบอลไปที่เสาแรกและเป็น ไพฑูรย์ เทียบมา ที่วิ่งเข้ามาเอาขาแย่บอล กะหวังให้เปลี่ยนทางเข้าประตู ยังดีที่ วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายทวารของ ศรีสะเกษ ยังเหินมาคว้าบอลได้อย่างรวดเร็ว
 
น.14 จากจังหวะโต้ กลับเร็วของทีมเยือน ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ลากบอลไปที่กราบซ้าย แล้วเปิดบอลเข้ามาให้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ วิ่งโฉบเข้ามาใช้เท้าสะกิดบอลนิดเดียว ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้ "กูปรีอันตราย" ออกนำ 1-0
 
น.19 โกศวัต ว่องไวลิขิต แบ๊กขวาร่างโย่งของ โอสถฯ เปิดบอลจากริมเส้นเข้ามาให้ ไพฑูรย์ เทียบมา โหม่งบอลไปเข้าซองของผู้รักษาประตู ศรีสะเกษ
 
นาทีถัดมา เจ้าบ้านได้สวนกลับเร็ว อภิภู สุนทรพนาเวศ ลากบอลจากแดนของตัวเอง มาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน ก่อนตัดสินใจกระหน่ำด้วยซ้าย บอลยังคงไปเข้ามือของ วัชรพงษ์ ใจหาญ
 
น.23 แฟนบอลเจ้าบ้านได้โอกาสเฮบ้าง เมื่อ คัพฟ้า บุญมาตุ่น รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะวางเท้าสับไกลกว่า 35 หลาทันที บอลแหวกอากาศชนคานแล้วเด้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ให้ โอสถฯ ตีเสมอเป็น 1-1
 
น.28 จากการต่อบอลอันสวยงามของ "พลังเอ็ม" มาที่ อภิภู สุนทรพนาเวศ ซึ่งรับบอลในกรอบเขตโทษเยื้องไปทางซ้าย แล้วเจ้าตัวจัดการซัดด้วยซ้าย ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่าย แบบสวยงาม ให้เจ้าบ้านแซงขึ้นนำ 2-1
 
น.30 กลายเป็นทีมเยือน ที่มาได้จุดโทษ หลัง ประชุม ชูทอง ไปเสียบ คิม ยุน ดอง ในกรอบเขตโทษแบบโจ่งแจ้ง ผู้ตัดสินไม่รอช้า ชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็นดาวเตะเกาหลี รับหน้าที่สังหารเอง แต่บอลกลับไปชนเสาเด้งออกมาเข้าทางปืนของ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ตามซ้ำ แต่เหินข้ามคานออกไป แบบน่าเสียดาย
 
น.36 วิคเตอร์ อมาโร่ กองกลางของ "กูปรีอันตราย" ได้จังหวะซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลยังหลุดออกหลังไปอีก
 
น.39 เจ้าบ้านได้เฮกันเก้อ เมื่อ อภิภู สุนทรพนาเวศ เปิดบอลจากทางด้านขวา เข้ามาหน้าปากประตูให้ โอลอฟ วัตสัน โหม่งจ่อๆ ส่งบอลเข้าตาข่าย แต่ไลน์แมนกลับยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
 
จากนั้นทั้งสองทีม ยังไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบครึ่งแรก โอสถฯ ออกนำ ศรีสะเกษ อยู่ 2-1
 
ครึ่งหลัง น.49 ทีมเยือนได้ลุ้นก่อน กิตติศักดิ์ ใจหาญ ไหลบอลสั้นๆ มาให้ เทวา ธรรมมานาสาร ซัดบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบขากองหลัง โอสถฯ ก่อนที่จะไปเข้ามือของ ฉัตรชัย บุตรพรม
 
น.53 กลับเป็น "พลังเอ็ม" ที่ได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง เมื่อ โกศวัต ว่องไวลิขิต เปิดบอลเลียดจากริมเส้นด้านขวา ตัดหลังแผงแนวรับของ ศรีสะเกษ เข้าไปถึง โอลอฟ วัตสัน ชาร์จบอลหน้าปากประตูไม่เหลือซาก ช่วยให้ โอสถฯ หนีห่างเป็น 3-1
 
น.56 ทีมเยือนก็มาไล่ยิงตีคืน จากการเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตดทษของ คิม ยุน ดอง เข้าไปถึง วุฒิชัย ทาทอง จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วหวดด้วยซ้าย พาบอลเข้าไปกระทบกับตาข่ายทำให้ "กูปรีอันตราย" ตีตื้นมาเป็น 2-3
 
น.58 จากการพาบอลกระชากขึ้นมาทางกราบซ้ายของ สุรเดช ธงชัย ก่อนที่เจ้าตัวจะลากบอลเลาะเส้นหลัง แล้วยิงทันทีบอลเสียบใต้คานอย่างสวยงาม ช่วยให้ โอสถฯ หนีห่างอีกครั้ง เป็น 4-2
 
น.61 ตัวสำรองของทีมเยือน ที่เพิ่งลงมาใหม่อย่าง หัตฐพร สุวรรณ ได้จังหวะล็อกบอลหลบนักเตะ โอสถฯ แล้วตัดสินใจยิงไปที่เสาสอง ฉัตรชัย บุตรพรม ยังทะยานปัดบอลข้ามคานไปไว้ได้ทัน
 
เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งแรง น.65 ไพฑูรย์ เทียบมา เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปให้ คัพฟ้า บุญมาตุ่น จับบอลด้วยซ้าย แล้วดีดด้วยขวา ส่งบอลเข้าประตูไปทำให้ "พลังเอ็ม" หนีไปเป็น 5-2
 
น.66 ศรีสะเกษ พลาดการได้ประตูตีตื้น เมื่อ ไพโรจน์ อนัตณรงค์ ตัวสำรอง ที่เพิ่งถูกส่งลงมา ได้โอกาสกระหน่ำบอลในกรอบเขตโทษ แต่บอลกลับพุ่งไปชนคานอย่างจัง
 
น.70 "กูปรีอันตราย" มาได้จุดโทษหนที่ 2 จากการทำแฮนด์บอลของ มาซิโอ้ โรเบอร์โต้ ดาซิลวา และเป็น กิตติศักดิ์ ใจหาญ ที่อาสาซัดลูกนี้ไม่พลาด ช่วยให้ ศรีสะเกษ ไล่มาเป็น 5-3
 
น.74  หลังจากที่เกมนี้ผู้ตัดสินมีการทำหน้าที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง ทำให้ "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือ "พลังเอ็ม"  ตัดสินใจขึ้นมาถามเหตุผลการตัดสินของกรรมกับผู้ประเมินผู้ตัดสิน แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจงแต่อย่างใด
 
น.77 เจ้าบ้านเกือบมาได้ประตูหนีห่าง เมื่อ อีวานส์ เมนซ่าห์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อภิภู สุนทรพนาเวศ กระหน่ำด้วยซ้าย แต่บอลกลับเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว
 
น.81 กองเชียร์ของ "พลังเอ็ม" ได้สยายปีกเฮกันอีกครั้ง เมื่อ คัพฟ้า บุญมาตุ่น เปิดบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ กฤษฏา เก็นเด็ม ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมา ยิงเข้าไปแบบง่ายๆ ให้ โอสถฯ หนีห่างเป็น 6-3
 
น.84 เป็นอีกครั้งที่เจ้าบ้านพลาดการได้ประตูแบบน่าเหลือเชื่อ เมื่อ อีวานส์ เมนซ่าห์ จ่ายบอลจากเส้นหลังฝั่งขวาไปให้ โอลอฟ วัตสัน ซัดแบบไม่ต้องจับแต่บอลกลับไปชนเสาอย่างจัง
 
น.87 ศรีสะเกษ มาได้จุดโทษเป็นหนที่ 3 จากการที่กองหลังของเจ้าบ้านไปเสียบ กิตติศักดิ์ ใจหาญ จากด้านหลัง เจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารพลาด โดน ฉัตรชัย บุตรพรม ปัดออกมาเข้าหัวของ คิม ยุน ดอง โหม่งจ่อๆ แต่บอลกลับหลุดออกหลังไป
 
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แม้ว่า โอสถฯ จะเปิดเกมบุกอยู่เพียงฝ่ายเดียว แต่ก็ไม่สามารถควานหาประตูเพิ่มได้ จบเกม "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี จะเปิดบ้านเอาชนะ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ไปแบบสนุก 6-3 เก็บ 3 แต้มไว้ได้สำเร็จ แต่ยังคงอยู่ในอันดับที่ 7 ตามหลัง พัทยา ยูไนเต็ด อยู่ถึง 4 คะแนน

 

วาทะโค้ช 
ไพโรจน์ บวรวัฒดิลก กุนซือ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี - เป็นเกมที่ลูกทีมเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ต้องขอชมนักเตะทุกๆ คน ที่เล่นได้อย่างมีระบบ ซึ่งเรายังคงวางเป้าหมาย ขึ้นไปอยู่ที่ 1 ใน 5 ตามเดิม 
วิสูตร วิชายา กุนซือ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - วันนี้เรามาเล่นเกมบุก ทำให้อาจจะเกิดช่องโหว่ในเกมรับไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือเป็นที่น่าพอใจที่ลูกทีม เล่นกันได้แบบยอดเยี่ยมจริงๆ

 

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม 
โอสถสภา เอ็ม150 สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม 5.5, โกศวัต ว่องไวลิขิต 6, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง 5, ประชุม ชูทอง 5.5, มาซิโอ โรเบอร์โต้ ดา ซิลวา 5.5, อภิภู สุนทรพนาเวศ 5.5 (กฤษฏา เก็นเด็ม 5.5), เจษฏา พั่วนะคุณมี 5.5, คัพฟ้า บุญมาตุ่น 7, สุรเดช ธงชัย 6, โอลอฟ วัตสัน 5.5 (วิศรุต ไวงาน 5), ไพฑูรย์ เทียบมา 5.5 (อีวานส์ เมนซ่าห์ 5.5) 
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : วัชรพงษ์ กล้าหาญ 5, ประลอง สาวันดี 5.5 (หัตฐพร สุวรรณ 5.5), ปรัชญา หงส์อินทร์ 5.5, เอกพันธ์ จันดากรณ์, โกเศษ เกิดสุข 5 (สุพรรณ หาดคำ 5), วิคเตอร์ อมาโร่ 5.5 (ไพโรจน์ อนัตณรงค์ 5.5), เทวา ธรรมมานุสาร 6, วุฒิชัย ทาทอง 6, คิม ยุน ดอง 6, กิตติศักดิ์ ใจหาญ 6, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น 5.5

 

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : คัพฟ้า บุญมาตุ่น เพลเมกเกอร์ของ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี