สเปอร์ส ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดรังเอาชนะ ทเวนเต้ จากฮอลแลนด์ 4-1 โดย ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กองกลางเจ้าถิ่นโดนไล่ออกจากสนามด้วย ด้าน อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี ก็เปิดรังไล่ถล่ม เบรเมน สโมสรจากเยอรมัน ขาดลอย 4-0 ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
วันพุธที่ 29 กันยายน 2553
สเปอร์ส (อังกฤษ) 4 - 1 ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์)

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

 
     "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ตัว เล็ดลี่ย์ คิง กัปตันทีมหายบาดเจ็บโคนขาหนีบลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ เซบาสเตียง บาสซง ได้
รวมทั้งได้ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ หายเจ็บเข่าลงมายืนแบ็คซ้าย
 
     ในแดนหน้าส่ง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ลงมาช่วยงาน ปีเตอร์ เคร้าช์ ขณะที่แดนกลางมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ทำเกมทางกราบขวา อีกฟากเป็น แกเร็ธ เบล พร้อมให้ ลูก้า โมดริซ เป็นตัวบงการเกมกลางสนาม
 
     ด้าน ทเวนเต้ ให้ ไบรอัน รูอิซ, เดนนี่ ลันต์ซาต และ เอมีร์ บาจรามี่ ช่วยกันทำเกมรุกสนับสนุน มาร์ค ยานโก้ หัวหอกตัวเป้า
 
     ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ 12 นาที โอกาสของทเวนเต้ มาก่อน เมื่อ วูท บราม่า จ่ายทะลุให้ ไบรอัน รูอิซ หลุดเข้าเขตโทษ แต่ เฮเรลโญ่ โกเมส นายทวารคลับไก่ออกมาบล็อกมือเดียวได้อย่างเยี่ยมยอด
 
     ถัดมา ไก่เดือยทองตอบโต้บ้าง ลูก้า โมดริช ไหลเข้ากลางให้ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นด้วยขวาติดเซฟ นิโคไล มิไฮลอฟ นายทวารทีมเยือน
 
     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 27 ทเวนเต้ จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา เอมีร์ บาจรามี่ ที่มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าออกแล้วส่ง นาเซอร์ ชาดลี่ ลงมาเล่นแทน
 
     กระเถิบมาถึงนาทีที่ 31 ชาดลี่ ตัวสำรองทีมเยือนเปิดบอลให้กับ ไบรอัน รูอิซ หลุดเข้าไปชิปด้วยซ้ายไม่ผ่าน โกเมส ที่ออกมาเซฟไว้ได้
 
     ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 5 นาที สเปอร์ส ได้จุดโทษเมื่อ ปีเตอร์ วิสเกอร์โฮฟ ไปเหนี่ยว ปีเตอร์ เคร้าช์ ล้มลงในเขตโทษ ทว่า ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ซัดด้วยซ้ายไปติดปลายมือ มิไฮลอฟ ปัดออกหลังไปได้ ครบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
 
     มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียว สเปอร์ส เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ ทอม ฮัดเดิลสตัน เปิดข้ามมาให้กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ โหม่งชงให้กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท พักอกแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายเสียบตาข่าายอย่างเด็ดขาดให้ไก่เดือยทอง นำก่อน 1-0
 
     หลังจากนั้นเกมของไก่คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล ลากหนี โรเบร์โต้ โรซาเลส ไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายได้แล้วแต่โดนชนคว่ำ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที คราวนี้เจ้าบ้านเปลี่ยนให้ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ซัดบ้างไม่พลาดช่วยให้สเปอร์ส นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 50
 
     เกมแลกกันสนุกทีเดียว นาทีที่ 56 ทเวนเต้ มาได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 เมื่อ ดั๊กลาส ยิงติดบล็อคกระดอนมาเข้าทาง นาเซอร์ ชาดลี่ ตัวสำรองจิ้มด้วยซ้ายบอลติดไซด์ก้อยลอยเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม
 
     สเปอร์ส โหมแล้ว พาฟลิวเชนโก้ เปิดให้กับ ทอม ฮัดเดิลสตัน ยิงไกลด้วยขวาจากนอกเขตบอลหลุดเสาซ้ายไป ในนาที 58
 
     หนึ่งชั่วโมงของเกม สเปอร์ส เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ไปกระโดดกระแทกใส่ โรเบร์โต้ โรซาเลส เลยโดนใบเหลือง-แดง ไล่ออกจากสนามไป
 
     อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สามในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ยิงไปโดนมือของ นิคกี้ ไคเปอร์ ผู้เล่นของทีมเยือน ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ เจ้าเก่าจะยิงด้วยขวาเข้ากลางประตูช่วยให้ สเปอร์ส นำห่าง 3-1 เป็นประตูที่สองของ พาฟลิว ในเกมนี้
 
     มาถึงนาทีที่ 72 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง ลุค เดอ ย็อง ตัวสำรองยิงด้วยซ้าย ทว่าโดน โกเมส นายด่านไก่เดือยทอง เซฟได้
 
     เจ้าถิ่นที่มีผู้เล่นน้อยกว่า มาได้ประตูปิดท้ายจากการหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายของ แกเร็ธ เบล จบเกม สเปอร์ส เปิดรังถล่ม ทเวนเต้ขาดลอย 4-1
  
     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     สเปอร์ส (4-4-2) : เอเรลโญ่ โกเมส , อลัน ฮัตตัน, เล็ดลีย์ คิง, เซบาสเตียง บาสซง, เบอนัวต์ อัวซู เอก็อตโต้ , แกเร็ธ เบล, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ลูก้า โมดริช , โรมัน พาฟลิวเชนโก้, ปีเตอร์ เคร้าช์

     สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู), เจอร์เมน จีนัส, ร็อบบี้ คีน, นิโก้ ครานชาร์, อารอน เลนน่อน, เวดราน ชอร์ลูก้า, วิลสัน ปาลาซิออส
  
     ทเวนเต้ (4-2-3-1) : นิโคไล มิไฮลอฟ , โรเบร์โต้ โรซาเลส, ปีเตอร์ วิสเกอร์ฮอฟ, ดั๊กลาส ฟรังโก้, นิคกี้ ไคเปอร์ , วุต บราม่า, ธีโอ แยนส์เซ่น, เดนนี่ ลานด์ซาต , เอเมียร์ บาจรามี่, ไบรอัน รูอิซ, มาร์ก ยานโก้

     สำรอง : ซานเดอร์ บอชเกอร์ (ผู้รักษาประตู), เบอร์นาร์ด พาร์คเกอร์, ราสมุส เบงต์สัน, นาเซอร์ ชาดลี่, ดาริโอ วูยิเชวิช, ลุค เด ยองก์, มิชาเอล ชิมเพลแบร์เกอร์
  
     ผู้ตัดสิน : เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)

 

อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 4 - 0 เบรเมน (เยอรมัน)

สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า

 

     เริ่มเกมมา 4 นาที ทีมเยือนได้ทักทายก่อน ดาเนี่ยล เยนเซ่น ผ่านบอลไปให้กับทาง ฮูโก้ อัลเมด้า กดด้วยซ้าย ชูลิโอ เซซาร์ ต้องออกแรงปัดออกหลังไป
 
     ถัดมา 5 นาที เป็นทีของงูใหญ่บ้าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ไหลบอลให้กับ เวสลี่ย์ สไจเดอร์ ได้ยิงด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านมือ ทิม วีเซ่ ที่ปัดออกหลังไปได้
 
     แต่แล้วเป็น อินเตอร์ ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 21 เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ปั๊มบอลแย่งมาได้ก่อนจะไปเข้าทาง ซามูเอล เอโต้ ที่หลุดเข้าไปจิ้มลอดขา ทิม วีเซ่ เข้าประตูไป
 
     ถัดมา 6 นาทีสกอร์ไหลเป็น 2-0 ลูซิโอ สาดยาวขึ้นมาเข้าทาง ซามูเอล เอโต้ ที่เอาบอลลงสวยแล้วกระชากเข้าเชตโทษก่อนกดเข้าเสาแรกให้กองเชีนร์ในสนามได้เฮอีกครั้ง
 
     เบรเทน ต้านไม่อยู่นาทีที่ 34 มาเสียลูกที่สาม ซามูเอล เอโต้ ไหลบอลตามช่องให้กับทาง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ หลุดเข้าไปซัดผ่านตัว ทิม วีเซ่ เข้าไปให้ทีมนำในครึ่งแรก 3-0
 
     พักครึ่งทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นฝั่งละคน โดยทางเจ้าบ้าน เบนิเตซ ส่ง ลูก้า คาสเตลลาซซี่ ลงมาเฝ้าเสาแทนที่ ชูลิโอ เซซ่าร์ ด้านทีมเยือน ชาฟ ส่ง เพทรี่ พาซาเน่น ลงไปแทนที่ ทิม โบรอฟสกี้
 
     เกมครึ่งหลังยังเป็นทาง งูใหญ่ ที่ครองบอลบุกได้ตลอด นาที 53 คูตินโญ่ ลากบอลเข้ามาโยกหลอก แมร์เตซัคเกอร์ ก่อนซัดด้วยขวายัดไปที่เสาแรกทันที ทว่า วีเซ่ ล้มตัวตะครุบรับบอลไว้ได้ทัน
 
     นานๆที เบรเมน จะมีโอกาสลุ้นบ้าง เวสลี่ย์ ตบบอลเจข้ามากลางให้ มาริน ลองส่องไกล ทว่าบอลก็ไม่ตรงกรอบ
 
     อินเตอร์ ผ่อนเกมและเน้นครองบอลถ่ายกันไปมาทั่วสนาม ขณะที่ เบรเมน ก็ไม่ฮึดสู้ที่จะไล่เข้าไปแย่งบอล นาที 68 สแตนโกวิช ได้ซัดไกลเก็บตกลูกที่กองหลังทีมเยือนเคลียร์ออกมาไม่ดี ทว่าโด่งข้ามคานออกไป
 
     งูใหญ่ เกือบได้สกอร์ที่สี่ จากจังหวะที่ คูตินโญ่ ที่เกมนี้โดดเด่นเหลือเกิน ลากบอลตัดเข้ามาในก่อนยิงไปติดบล็อคแผงหลังทีมเยือนออกหลังไป
 
     นาที 81 เจ้าบ้านก็มาได้ลูกที่สี่จนได้ ชไนเดอร์ จ่ายบอลมาให้ เอโต้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ วีเซ่ ก่อนลากหลบเข้าไปแปสู่ก้นตาข่ายโล่งๆอย่างสบาย อินเตอร์ มิลาน ฉีกห่าง 4-0 และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้
 
     ช่วงเวลาที่เหลืออยู่เจ้าถิ่นเน้นการครองบอล จบเกม อินเตอร์ มิลาน เปิดรังเอาชนะ เบรเมน 4-0 เก็บ 3 แต้มเต็มสบายๆ
  
     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     อินเตอร์ มิลาน (4-2-3-1) : ชูลิโอ เซซาร์ , ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, อีบัน คอร์โดบ้า, คริสเตียน คิวู , เดยัน สแตนโควิช, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ , โจนาธาน เบียเบียนี่, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , ซามูเอล เอโต้

     สำรอง : ลูก้า คาสเตลลาซซี่ (ผู้รักษาประตู), ซุลลี่ย์ มุนตารี่, อเลสซานโดร มันชินี่, แม็คโดนัลค์ มาริก้า, ดาวิเด้ ซานตอน, โชแอล ชุควูม่า โอบิ, เฟลิเช่ นาตาลิโน่
  
     เบรเมน (4-2-3-1) : ทิม วีเซ่ , เวสลี่ย์, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, มิกาแอล ซิสแวสต์ , ดาเนี่ยล เยนเซ่น, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้ , ทิม โบรอฟสกี้, มาร์โค มาริน , ฮูโก้ อัลเมด้า, มาร์โค อาร์เนาโตวิช

     สำรอง : เซบาสเตียน มีลิตซ์ (ผู้รักษาประตู), เพทรี่ พาซาเน่น, อารอน ฮันท์, ซานโดร ว้ากเนอร์, ซาอิด ฮูไซโนวิช, เฟลิกซ์ โครส, โดมินิก ชมิดต์
  
     ผู้ตัดสิน : อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้ (สเปน)

สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง
กลุ่มเอ
- สเปอร์ส (อังกฤษ) - ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) 4-1
- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) - แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน) 4-0

กลุ่มบี  
- ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) - ลียง (ฝรั่งเศส) 1-3
- ชาลเก้ (เยอรมัน) - เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 2-0

กลุ่มซี  
- บาเลนเซีย (สเปน) - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0-1
- กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) - บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี) 1-0

กลุ่มดี
- รูบิน คาซาน (รัสเซีย) เสมอ บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-1
- พานาธิไนกอส (กรีซ) - เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) 0-2