"แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังไม่ฟื้น บุกไปนำราชนาวี ระยอง ก่อน 1-0 แต่โดนไล่ตีเสมอจบ 1-1 ส่วน บีอีซีเทโรฯ เปิดบ้านเฉือนหวิว "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท 1-0 ได้ประตูโทนจาก กองหลังอย่าง ปรัชญ์ สมัครราษฎร์ อีกคู่ ทีทีเอ็ม-พิจิตร เฝ้าบ้านเสมอ กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ไป 0-0 ในศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกสองเมื่อ 29 กย. 53 ที่ผ่านมา

 

       การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันพุธที่ 29 กันยายน 2553

 

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 0 - บางกอกกล๊าส เอฟซี  0

             

       ที่สนามกีฬากลาง จ.พิจิตร เวลา 18.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับ 11 มีอยู่ 28 แต้ม นัดล่าสุดแพ้ให้กับอินทรีเพื่อนตำรวจ 1-4 เปิดบ้านพบกับ "เดอะ แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5 มีอยู่ 39 แต้ม นัดล่าสุดแพ้บุรีรัมย์ พีอีเอ 0-3 ผลการพบกันเลกแรกปรากฏว่า เสมอกันมา 2-2

                 

เจ้าบ้านทัพใหญ่บีจีแบน3ราย

         เกมนี้ โจเซ่ อัลเวช เบอร์วิส กุนซือใหญ่ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร จัดผู้เล่นทัพใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึก ไม่ว่าจะเป็น เจษฎา บุญเรืองรอด, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี, ณรงค์ จันทร์เสวก, ไกรกิตติ อินอุเทน และ กอบเดช ชอบมโนธรรม  ขณะที่ คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโย่ เฮดโค้ชบางกอกกล๊าส หมดสิทธิ์ใช้งาน อนาวิน จูจีน, ภานุวัฒน์ ไฟใหล และทนงศักดิ์ ประจักกะตา ที่ติดโทษแบน แต่ยังมีทางด้านของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, ซามูเอล อาจายี่, ธฤติ โนนศรีชัย และ วิชะยา เดชมิตร ลงสู้ศึก
       
 

ช่วงแรกบีจีเหนือกว่าเล็กน้อย

       เปิดฉากเริ่มเกมทั้งสองทีมดูเชิงกันกันอยู่ และยังไม่ค่อยมีจังหวะพังประตูกันมากนัก น.3 เจ้าบ้านได้ทักทายก่อนจากการสับไกยิงนอกเขตโทษของ ณรงค์ จันทร์เสวก แต่ยังไม่ตรงกรอบ  น.7 บางกอกกล๊าสได้ลุ้นบ้าง จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา แต่ วิชะยา เดชมิตร ซัดไปตรงตัว แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม  น.17 ทีมเยือนตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว อาจายี่ ซามูเอล ใช้ความเร็วกระชากบอลไปทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนจะไหลเข้ากลางให้ เอ็คโคลโล่ บีคอมโบ้ ซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาข้ามคานออกไป
         น.21 ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ได้ลูกเตะมุม ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดเข้าเขตโทษ เจษฎา บุญเรืองรอด โหม่งตั้งให้ ฮิโรยูชิ ยามาโมโตะ โขกเช็ด แต่ว่าข้ามคานออกไป หลังจากนั้นเกมเริ่มช้าลงอีกครั้ง เมื่อทั้งสองทีมเน้นการครองบอลเป็นส่วนใหญ่ น.36 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านอีกครั้ง เมื่อ ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดฟรีคิกจากกราบขวาเข้าเขตโทษ แต่ไปติดหัวกองหลังบางกอกกล๊าสออกหลังไปอีก
         ช่วงนาทีสุดท้ายบางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ลูกฟรีคิกบริเวณด้านขวาระยะประมาณ 23 หลา พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ไหลให้ ศรัณย์ พรมแก้ว ล้มตัวยิงข้ามคานออกไปแบบได้เสียว และช่วงทดเจ็บทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ได้ลูกเตะมุม ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดโค้งเข้าหาประตูแล้วก็เป็นโคบินันที่ได้โหม่ง แต่ วสันต์ ฮมแสน กองหลังทีมเยือน โหม่งเคลียร์ทิ้งจากเส้นไว้ได้หวุดหวิด หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0

      

"แร็บบิต"เปลี่ยนซารูตะแทนอาจายี่

         เข้าสู่ครึ่งหลังเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น เจ้าบ้านลุยหนักทันที ณรงค์ จันทร์เสวก พาบอลเลี้ยงลุยเจาะเข้ากลางก่อนจะไหลให้ เจษฎา บุญเรืองรอด ซัดไปติดกองหลัง บอลกระดอนมาเข้าทาง ณรงค์ จันทร์เสวก ยิงซ้ำทันที แต่เบาเกินไปเข้ามือผู้รักษาประตู หลังจากนั้น น.51 บางกอกกล๊าสตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนแรก ส่ง ซารูตะ ฮิโรโนริ ลงเล่นแทน ซามูเอล อาจายี่

 

       น.55 ทีทีเอ็มได้ลุ้นต่อเนื่อง ไกรกิตติ อินอุเทน ไหลคืนให้ ดีเอโก้ มาร์ติน ซัดเรียดเต็มข้อ แต่ กฤษกร เกิดผล นายทวารทีมเยือนไม่พลาดพุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ น.63 เป็นโอกาสของเจ้าถิ่นอีกครั้ง เจษฎา บุญเรืองรอด พาบอลลุยเข้ากลางก่อนจะไหลให้ ไกรกิตติ อินอุเทน ซัดเต็มข้อติดขา กฤษกร เกิดผล ออกหลังไป หลังจากนั้นบางกอกกล๊าสแก้เกมด้วยการส่ง ไมเคิ่ล เบิร์น ลงสนามแทน ศรันย์ พรมแก้ว น.70 วิชะยา เดชมิตร หาจังหวะสับไกระยะ 30 หลาข้ามคานออกไป หลังจากนั้น น.75 ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกโดยส่ง สันติภาพ ศิริ ลงเล่นแทน เจษฎา บุญเรืองรอด

 

       น.79 บางกอกกล๊าสได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายระยะ 27 หลา ไมเคิ่ล เบิร์น บรรจงปั่นโค้งด้วยเท้าขวาข้ามคานไปแบบได้ลุ้น น.85 ไมเคิ่ล เบิร์น ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะเปิดเรียดไปที่เสาสอง แต่โคเบนานกองหลังทีมเยือนสกัดทิ้งไว้ได้หวุดหวิด ช่วงทดเจ็บบางกอกกล๊าสน่าได้ประตูชัยสุดๆ เมื่อ วสันต์ ฮมแสน เปิดบอลจากกราบขวาไปที่เสาสองแล้วก็เป็น ฟาบิโอ ดา ซิลวา ที่ได้โหม่งคนเดียวเน้นๆ แต่แรงเกินไปข้ามคานออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

 

        คะแนนความสามารถของนักเตะทั้ง 2 ทีม
         ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : แซมมวล ป.คันนิงแฮม 6, ฮิโรยูกิ ยามาโมโตะ 6.5, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี 6, ณรงค์ จันทร์เสวก 6.5 (ชัชปภพ อุสาพรม 6), ไกรกิตติ อินอุเทน 6.5 (กิตติพงศ์ มูลพงค์ 6), เจษฎา บุญเรืองรอด 6 (สันติภาพ ศิริ 5.5), กอบเดช ชอบมโนธรรม 6, วัชระ มหาวงศ์ 6.5, วัลซี่ จูเนียร์ 6, ดีเอโก้ มาร์ติน 6, โคเบนาน เอ็นกวตต้า 7          

        บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษกร เกิดผล 6.5, วสันต์ ฮมแสน 6.5, ธฤติ โนนศรีชัย 6.5, นพพล ปิตะฝ่าย 6.5, ซามูเอล อาจายี่ 6 (ฮิโรโนริ ซารูตะ 6), ศรัณย์ พรมแก้ว 5.5 (ไมเคิ่ล เบิร์น 6), พอล เอ็คโคโล่ 6, มูสซา ซิลล่า 6.5, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 6.5 (ฟาบิโอ ดาซิลวา 6), ประวีณวัช บุญยงค์ 6.5, วิชะยา เดชมิตร 6.5

 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : โคเบนาน ลีออน เอ็นกวตต้า ของ  ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร

 

ราชนาวี-ระยอง 1 - แบงค็อก ยูไนเต็ด 1

 
         ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง เริ่มแข่งขันเวลา 16.00 น. เป็นเกมสปอนด์เซอร์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก เป็นการพบกันระหว่างทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตารางลงสนามมาแล้ว 25 นัดมี 24 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม "แข้งเทพ" ทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง ลงสนามมาแล้ว 25 นัดมีเพียงแค่ 19 แต้ม ผลงานการพบกันในเลกแรกที่บ้านของแบงค็อก ยูไนเต็ด เสมอกับไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ผลงานในนัดที่ผ่านมาทีม ราชนาวี-ระยอง บุกไปเสมอทีม ชลบุรี เอฟซี 1-1 ขณะที่ทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับทีมการท่าเรือไทย เอฟซี 1-1

     

ราชนาวี ส่ง สมเจตร บู้ "แข้งเทพ"

 

       ในเกมนี้เป็นเกมที่ทั้งคู่ต้องการเก็บสามแต้มให้ได้ เพื่อขยับหนีโซนตกชั้นทางด้าน ราชนาวี-ระยอง ในเกมนี้ เริงศักดิ์ บุญประเสริฐ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างพร้อมหน้านำโดย สมเจตร สัตบุษ  กัปตันทีม, ติณภพ ศรีสถิตย์,  โกสินทร์  เหมบุตร และ จาง กิล ฮยอค ลงสนาม ส่วนทีมเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ของทีมไม่มีทางเลือกส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างพร้อมหน้า หวังเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้นตัดสินใจส่ง ปฏิภาณ  เพชรพูล, กรวิทย์  นามวิเศษ, อนนท์ บุญสุขโข  และ รุ่งโรจน์ สว่างศรี ลงยืนเป็นตัวหลักในแดนหลัง

     

ภานุวัฒน์  ยิงฟรีคิกให้เจ้าบ้านทักทายก่อน

         เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นทีมเจ้าถิ่นราชนาวี-ระยองที่พยายามทำเกมบุกเข้าใส่และมาได้ลุ้นประตูออกนำจากลูกฟรีคิกใน น.24 จากลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายระยะ 30 หลา เป็น ภานุวัฒน์  กองจันทร์ ที่รับหน้าที่ยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเข้าหาประตูแต่ยังเป็น วีระ เกิดพุดซา ที่ทุบบอลออกไปได้ จากนั้นมีฝนโปรยปรายลงมาทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมสู้กันอย่างไม่ยั้งและเป็น แม็คซิม กองหน้าของทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ไปปะทะกับ ปฎิภาณ เพชรพูล ลงไปนอนกับพื้นแต่สามารถลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
         เกมเปิดสู้กันอย่างสนุกใน น.29 เป็นทีมเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เกือบมาได้ประตูออกนำจากลูกหลุดขึ้นไปทางริมเส้นด้านขวาของ ซารีฟ สายนุ้ย  ก่อนที่จะลากเข้าหาประตูแล้วสับด้วยเท้าขวาเต็มข้อแต่ยังเป็น โกสินทร์  เหมบุตร นายทวารของทีมเจ้าถิ่น ราชนาวี-ระยอง ที่ใช้เท้าเซฟไว้ได้จากนั้นใน น.33 ทีมเจ้าถิ่น ราชนาวี-ระยอง ที่มาพลาดการได้ประตูจากการยิงจากแถวสองโล่งๆ แบบไม่มีใครประกบของ สิทธินันท์ นนที  แต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
         น.36 เป็นทีมราชนาวี-ระยอง ที่มาพลาดการได้ประตูออกนำอย่างไม่น่าเชื่อจากลูกโหม่งของ ภานุวัฒน์ กองจันทร์ บอลพุ่งไปที่เสาสองแต่ยังเป็น วีระ เกิดพุทซา นายทวารของ ทีมเยือนแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ยังไม่หลับพุ่งตัวปัดบอลออกข้างไปได้อย่างหวุดหวิดช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อจากนั้นทีมราชนาวี-ระยอง มีการปรับเท็กติกเปลี่ยน วุฒิชัย อะสุชีวะ เข้าเอา รัฐพร แซ่ตั๋น ที่วันนี้ยังเล่นได้ไม่ค่อยดีนักออกจากนั้นยังเป็นทีมเจ้าถิ่น ราชนาวี-ระยอง ที่ทำเกมบุกได้มากกว่า แต่ยังทำประตูออกนำไม่ได้ หมดครึ่งเวลาแรกทีมราชนาวี-ระยองยังเปิดบ้านเสมอกับทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด 0-0 
    

 เจ้าถิ่นราชนาวีบุกเยอะแต่ยิงไม่ได้

         เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง ฝนเริ่มหยุด ทั้งสองทีมปรับแผนมาสู้กันใหม่ และเป็นทีมราชนาวี-ระยอง ที่เปิดเกมเข้าใส่ไม่ยั้ง และมาได้ลุ้นประตูใน น. 46 จากการยิงไกลด้วยเท้าขวาระยะ 35 หลา ของ สุทธินันท์ นนที แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว จากนั้นใน น. 50 ทีมราชนาวี-ระยอง เกือบมาได้ประตูนำจากการขึ้นบอลทางด้านขวาของวิลสัน ก่อนที่จะเปิดบอลมาหน้าประตูให้ วุฒิชัย อาสชีวะ ได้โหม่งโล่งเต็มกบาล แต่เป็น วีระ เกิดพุดชา ผู้รักษาประตูแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ปัดบอลออกข้างไปได้อีกครั้ง ช่วยเซฟให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูเป็นครั้งที่ 2 ของเกม
         ต่อมาใน น. 54 เป็น ทรงศักดิ์ เฮมเขียว กองหลังแบงค็อกที่มาได้ใบเหลืองจากการเข้าบอล สมเจตร สัตบุษ ทางด้านหลังกรรมการเป่าเป็นลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เป็น สุทธินันท์ นนที ที่รับหน้าที่ยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว ซาริฟ ยิงประตูให้แบงค็อกนำก่อน 1-0
         จากนั้นใน น. 69แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องช็อกเป็นทีมเยือนแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มาได้ประตูออกนำจากลูกโหม่งของ วุฒิพงษ์ เกิดกุล บอลไปติดกองหลังของทีมราชนาวี-ระยอง กระเด็นมาเข้าทางปืนของ ซารีฟ สายนุ้ย ซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาตูมเดียว บอลพุ่งตุงตาข่ายหมดสิทธิ์ที่ โกสินทร์ เหมบุตร นายทวารของราชนาวี-ระยอง จะป้องกันไว้ได้ทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด บุกมานำ 1-0 ถัดมาเพียงแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่น ราชนาวี-ระยอง มีการปรับแผนเปลี่ยนเอา ภาณุวัฒน์ กองจันทร์ ออก และเอา เจษฎา งามเมือง เข้าไปแทน จากนั้นทีมเจ้าถิ่นราชนาวี-ระยอง โหมเกมบุกอย่างหนักหวังทวงประตูคืน

    

วิลสันยิงประตูตีเสมอ1-1ให้เจ้าถิ่นอย่างสุดสวย

         ต่อมาใน น.77 แฟนบอลเจ้าถิ่นราชนาวี-ระยอง มาได้เฮบ้าง เมื่อมาได้ประตูตีเสมอจากการเปิดฟรีคิกทางด้านขวาของ ชณธวัฒน์ ศรีสุข ผ่านมาหน้าประตูให้วิลสันพักบอลด้วยอก ก่อนที่จะตะวัดยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายอย่างสวยงาม วีระ เกิดพุดชา นายทวารแบงค็อก ยูไนเต็ด ได้แต่มองราชนาวี-ระยอง ตามมาตีเสมอเป็น 1-1 เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นประตูออกนำใน น. 83 จากการเปิดบอลจากทางด้านฝั่งซ้ายของ จาง กิล ยอง มาหน้าประตูให้ วุฒิชัย อาสชีวะ ได้โขกลงพื้นบอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ยังเป็น วีระ เกิดพุดชา ที่รับไว้ได้สบาย ใน น.85 ราชนาวีมาได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากลูกเปิดของ เจษฎา งามเมือง มาให้ ติณภพ ศรีสถิตย์ ได้ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่ยังไม่ผ่ายมือนายทวารแบงค็อก ยูไนเต็ด

    

แบงค็อกเกือบได้เฮช่วงท้ายเกม

         เวลาที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก และเป็นทีมเยือนที่เกือบมาได้ประตูจากลูกโต้กลับเป็นแม็กซิม กองหน้าตัวเก่งของทีมที่ได้บอลแล้วลากลุยเข้าหาประตูก่อนที่จะตัดสินใจยิง แต่เป็น โกสินทร์ เหมบุตร นายทวารราชนาวี-ระยอง ยังป้องกันไว้ได้ เวลาที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก ยังคงเป็นทีมราชนาวี-ระยอง ที่ทำเกมบุกได้มากกว่า มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ทำไม่ได้ จบเกมเสมอกันไปอย่างสุดมันส์ 1-1

         คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม
         ราชนาวี-ระยอง : โกสินทร์ เหมบุตร 5.5, รัฐพร แซ่ตัน 5 (น.39 วุฒิชัย อาสชีวะ 6, ชณธวัฒน์ ศรีสุข 5.5, สมเจตร สัตบุษ 6, วิลสัน 6, สุทธินันท์ นนที 6, ภาณุวัฒน์ กองจันทร์ 6 (น.71 เจษฎา งามเมือง 5.5), ยันนิค จอร์จส์ 6, ติณภพ ศรีสถิตย์ 5.5, กุศล เพ่งผล 5.5, จาง กิล ยอง 6
 
       แบงค็อก ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา 6, กรวิทย์ นามวิเศษ 5.5, ปฏิภาณ เพชรพูล 5, กิตติศักดิ์ ศรีริแวน5, ฟูคาซาวะ 5.5, ทรงชัย เฮมเขียว 5, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 5.5 (น.60 วุฒิพงษ์ เกิดกุล 6), ชาริฟ สายนุ้ย 5.5, อนนท์ บุญสุขโข 5.5, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 5.5, แม็กซิม 6

 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ :วิลสัน ผู้ทำประตูตีเสมอให้กับทีมราชนาวี-ระยอง

 

 

บีอีซี เทโรศาสน 1- ทีโอที แคท เอฟซี 0

 
          ที่สนามเทพหัสดิน เป็นการพบกันระหว่าง "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 10 ลงสนาม 24 นัดมี 28 แต้ม เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ทีมอันดับ 12 ลงสนาม 25 นัดมี 27 แต้ม โดยผลงานการพบกันในช่วงเลกแรกก็ปรากฏว่า บีอีซีบุกไปถล่มทีโอที แคทคารัง 5-0

      

เทโรไม่มี ชลากร, วิหคไร้ทอธ

         เกมนี้ทางด้าน "เฮอร์เก้ อยาม่า" กุนซือชาวชิลี ของทีม "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ที่สถานการณ์ของทีมตอนนี้ก็ยังไม่ปลอดภัยต่อการตกชั้น จึงหวังเน้นเต็มที่กับเกมนัดนี้ด้วยการจัดผู้เล่นที่ฟิตสมบูรณ์ที่สุดลงสนาม โดยมีแกนหลักอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย, อานนท์ สังสระน้อย รวมถึง พิชิต ใจบุญ ลงสนามเป็นแกนหลัก ส่วนทางด้าน ชลากร สงวนดี เกมนี้ติดโทษแบนไม่สามารถลงสนามได้
         ขณะที่ฝั่ง "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ที่ต้องการ 3 แต้มเพื่อขยับหนีโซนท้ายตารางก็มาเยือนแบบไม่ค่อยฟูลทีมสักเท่าไหร่เมื่อ 2 นักเตะต่างชาติซึ่งถือเป็นกำลังหลักของทีมอย่าง มิโรสลาฟ ทอธ และ มาเรียน จูฮาส ติดโทษแบนในเกมนี้ทั้งคู่ แต่ก็ยังมี โจเซฟ ไทเลอร์, ยุทธนา ไชยแก้ว และ แอนตัน คูบาล่า ลงช่วยทีมได้เหมือนเช่นเคย และก่อนที่เกมคู่นี้จะเริ่มคิกออฟ ก็ได้มีพายุฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักเกือบ 30 นาที จนทำให้สภาพสนามเทพหัสดินเจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ท่วมขัง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เกมการแข่งขันต้องยกเลิกแต่อย่างใด
         เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมต่างก็พยายามเล่นเกมตามที่ตัวเองถนัด แต่เนื่องด้วยพื้นสนามที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขังจึงทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถคอนโทรลบอลลูกเรียดได้อย่างที่หวังพื้นสนามที่ค่อนข้างลื่นจึงทำให้การเข้าบอลแต่ละจังหวะดูจะใส่กันแบบไม่ยั้ง น.10 มาริอาโน่ กลางรับเทโรฯมาโดนเหลืองแรกของเกม หลังจากที่พุ่งเสียบสองเท้าใส่ ชูศักดิ์ สุวรรณา อย่างน่าเกลียด สุรศักดิ์ คุณดิลกสิโรดม ผู้ตัดสินไม่รอช้าแจกใบเหลืองให้แก่ มาริอาโน่ ทันที

       

อานนท์ได้ส่องแต่ยังไม่คม

         น.13 เป็นโอกาสแรกของมังกรไฟที่ได้ลุ้นทำประตู จากการควบบอลหลุดขึ้นไปทางขวาของ ธีรเทพ วิโนทัย ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจสับไกยิงนอกกรอบ แต่ลูกนี้ก็ยังยิงบดแบบไม่สิทธิ์ลุ้น อีกครั้งกับจังหวะหวาดเสียวของเจ้าถิ่น น.18 กีย์ อูแบร์ แบ็กซ้ายจอมลุยได้บอลแทงช่องบริเวณสุดเส้นหลังด้านซ้าย ก่อนที่จะตวัดบอลเข้าในใส่พานให้ อานนท์ สังสระน้อย ที่ ยืนตั้งป้อมซัด แต่ก็โดนแนวรับทีโอที แคทเข้าบีบเร็วจนทำให้ยิงพลาดไปในจังหวะนี้

       

"คูบาล่า" ซัด 2 หลาหลุดกรอบ

         น.29 เป็นโอกาสแรกของทีโอที แคท เอฟซี ที่น่าจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ยุทธนา ไชยแก้ว จิ้มต่อมาที่หน้าประตูให้กับ แอนตัน คูบาล่า กลับตัวยิง แต่ลูกนี้ก็ยังหลุดกรอบออกหลังไปเพียงนิดเดียว เหมือนจะได้ใจสำหรับทีโอที แคท เอฟซี และ น.31 ก็น่าที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างถึงที่สุด เมื่อ โจเซฟ ไทเลอร์ ยิงไกลนอกกรอบด้านขวา บอลพุ่งแรงก่อนที่ พิศาล ดอกไม้แก้ว จะบินปัดไปชนคานกระดอนออกมาเข้าทาง แอนตัน คูบาล่า ที่เติมขึ้นมาซ้ำจ่อๆ ระยะไม่เกิน 2 หลา แต่เจ้าตัวดันวางเท้าไม่ดีส่งบอลหลุดออกนอกกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ 

      

จบ 45 นาทียังเจ๊า 0-0

         น.41 เทโรฯได้ฟรีคิกนิกกรอบเขตโทษเยื้องไปทางขวา และเป็น แองเจโล่ มาซูก้า ที่รับอาสาปั่นด้วยซ้าย บอลเกือบที่จะฮุกเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ ยีน มาร์ค นายด่านทีโอที แคทยังโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันเอาไว้ได้ในจังหวะนี้ ช่วงท้ายครึ่งแรกนักเตะทั้งสองทีมเริ่มที่จะเข้าบอลกันหนักชนิดหวิดมีจะเรื่องกันหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ จบ 45 นาทีแรก เทโรฯยังเสมออยู่กับ ทีโอที แคท 0-0
         กลับมาลุยกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ไม่ทันไร ลูกทีมของ "ฮอร์เก้ อมาย่า" ก็มาเบิกสกอร์แรกของเกมนี้ได้เป็นผลสำเร็จใน น.53 จากการเก็บบอลแถวสองของ ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ ปราการหลังที่ดันขึ้นสูง ก่อนที่เจ้าตัวจะล็อกหลบ 2 ผู้เล่นทีโอที แคท แล้วสับไกไปแฉลบขาแนวรับทีโอที แคท ส่งบอลเปลี่ยนทิศเข้าซุกกลางประตู ชนิดที่ ยีน มาร์ค นายด่านทีโอที แคท
พุ่งไปผิดทาง ช่วยให้บีอีซี เทโรศาสน ออกนำ 1-0
         หลังจากที่ได้ประตูออกนำก็ดูเหมือนว่าช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเทโรฯ ในการเดินเกมบุกในช่วงที่เหลือ น.70 มังกรไฟก็มีโอกาสอีกครั้งจากการลากบอลกว่าครึ่งสนามของ นเรศ กาพย์ไกรแก้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดไกลในระยะหวังผล แต่จังหวะนี้ก็ยังยิงไม่ดีพอ 

      

โค้ชต้อมสั่งลุยแต่ยังไร้ผล

         น.79 วิหคเพลิงน่าจะได้ประตูตีเสมอเป็นอย่างยิ่ง จากการประสานงานของบรรดาแนวรุก วีระวัฒน์ พลเชียงขวาง ปีกซ้ายตัวสำรองเปิดย้อนกลับมาหน้าปากประตู และเป็น โจเซฟ ไทเลอร์ ที่วิ่งเข้าแปแบบโล่งๆ แต่ก็ยังโดนไม่ดีส่งบอลเหินโด่งข้ามคานออกไป  ช่วงท้ายเกม "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือทีโอที แคท ก็ได้สั่งให้ลูกทีมเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่เจ้าถิ่นแบบเต็มตัว เพื่อหมายจะทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบเกมบีอีซี เทโรศาสน เปิดบ้านเฉือนทีโอที แคท เอฟซี 1-0 ท่ามกลางสภาพสนามที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขัง
 

 

       รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
         บีอีซี เทโรศาสน - พิศาล ดอกไม้แก้ว 7, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ 7.5, ธีรเทพ วิโนทัย 7, ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ 6 (แทน น.33 ทัศนา แช่มสะอาด 7), อานนท์ สังสระน้อย 7, กีย์ อูแบร์ 7, พิชิต ใจบุญ 7, เอเวอร์ เบนิเตซ 7, มาริอาโน่ 6.5 (แทน น.53 กิตติภูมิ ปาภูงา 6.5), มาริโอ เนโต้ 6.5 (แทน น.53 นเรศ กาพย์ไกรแก้ว 6.5), แองเจโล่ มาซูก้า 7
         ทีโอที แคท เอฟซี - ยีน มาร์ค 6.5, ปวริศร์ แสนสุข 6.5, ชูศักดิ์ สุวรรณา 6.5, ครรชิต ชลรัตน์อมฤต 6.5 (แทน น.62 วิชาญ นันทะศรี 6), วิชา นันทะศรี 6.5, โจเซฟ ไทเลอร์ 6.5, ยุทธนา ไชยแก้ว 6.5, แอนตอน คูบาล่า 6.5, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 6.5, อาทิตย์ ดาวสว่าง 6.5, อาทร ใสงาม 6.5 (แทน น.58 วีระวัฒน์ พลเชียงขวาง 6 )     
 
          แมน ออฟ เดอะ แมตช์ - ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ ปราการหลังผู้ซัดประตูชัยให้เทโรฯ