"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กร้าวเปิดรังอัด "โปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ เก็บ 3 แต้ม เพื่อต่อยอดสู่การลุ้นแชมป์ ขณะที่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ รับมือ "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ลั่นขอทำสถิติไม่แพ้ทีมไหนในบ้านจนจบฤดูกาล ฝั่ง "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 โวฟูลทีม รอดับ ราชนาวี ระยอง ส่วน "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ขาดอื้อ แต่ขอบุกหักปีก "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ศึกไทยลีก วันที่ 3 ต.ค. นี้

 

       ศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เกมวันอาทิตย์ มีฟาดแข้ง 4 คู่ จาก 4 สนาม เริ่มต้นที่สนาม สพล.ชลบุรี "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูง เปิดรังรับการมาเยือนของ "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ โดยคู่นี้สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสด เวลา 18.00 น. ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาในเลกแรก ปรากฏว่าเป็นทางด้าน ชลบุรี เอฟซี ที่บุกไปเอาชนะถึงถิ่น 4-0
         ทีมรองจ่าฝูงยังไม่หมดลุ้นในการคั่วแชมป์กับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด อีก 4 นัดสุดท้ายจากนี้ หรือ อย่างน้อยจบรองแชมป์ ก็ยังอาจจะได้โควตาไปลุยศึกฟุตบอล "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก" รอบเพลย์ออฟ เกมนี้แม้ไม่ มีใครติดโทษแบนแต่ จเด็จ มีลาภ หมดสิทธิ์ใช้งาน เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่กล้ามเนื้อกระตุกพร้อมกันนั้น อดุลย์ หละโสะ ยังเจ็บบริเวณหัวไหล่ ส่วน อาทิตย์ สุนทรพิธ ยังมีอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ
         ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล แบ้กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ เซนเตอร์ฮาล์ฟ สุทธินันท์ พุกหอม กับ ชลทิตย์ จันทคาม แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ แผงมิดฟิลด์ริมเส้นด้านซ้าย ศุภเสกข์ ไก่แก้ว คู่กลาง ภูริทัต จาริกานนท์ กับ ภานุวัฒน์ จินตะ ได้ขับเคลื่อนเกมรุก ส่วนริมเส้นขวา เอกพันธ์ อินทเสน คู่หน้า เนย์ ฟาเบียงโน่ กับ สเตฟาน บราก้า ไล่ทะลวงเป้า
         จากการเปิดเผยของ จเด็จ มีลาภ กุนซือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กล่าวถึงความพร้อมของลูกทีมก่อนลงดวลกับ อินทรีเพื่อนตำรวจ ว่า "เพื่อนตำรวจ น่าจะมาตั้งรับแล้วโต้กลับเร็วตามสไตล์ของทีมเยือน ซึ่งแน่นอนว่าเรา ต้องเล่นกันให้รัดกุม เป้าหมายก็ต้องสามแต้มเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้รูปเกมออกมาสนุก"

    

อินทรีเพื่อนตำรวจกร้าวต้องมีอย่างน้อย 1 แต้ม

         ด้าน "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 9 เกมนี้ไม่มีนักเตะติดโทษแบน แต่ อี เซง ฮุน กองหน้าชาวเกาหลีใต้ เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่เจ็บในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ
         โดยจะมาในระบบ 4-4-2 ผู้รักษา ประตู สมพงษ์ ยอดอาจ แบ้กซ้าย กฤษฎี ประกอบของ เซนเตอร์ฮาล์ฟ วู ฮุน กับ ชาง ซึง วอน แบ็กขวา สุรชาติ สารี พิมพ์ แดนกลางริมเส้นด้านซ้าย จักรพันธ์ พรใส คู่กลาง ธนพัตร ณ ท่าเรือ กับ อัสมิง แม ริมเส้นด้านขวา ชาคริต บัว ทอง คู่กองหน้า พิเชษฐ์ อินทร์บาง กับ เฟลิเป้ เฟอร์ไรร่า
         "โค้ชยงค์" ชัยยงค์ ขำเปี่ยม กุนซือ "โปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ กล่าวถึงความพร้อมของลูกทีม ก่อนยกพลบุกรัง "ฉลามชล" ว่า "เราไม่มองถึงการตกชั้นแล้ว เพราะว่าเวลานี้มีคะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้นไกล เกมนี้ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุดเก็บอย่างน้อย 1 แต้มให้ได้ หรือวัดไปเลย 3 แต้ม เพื่อทำอันดับที่ดีกว่านี้"

    

บุรีรัมย์ฯ ลั่นขอ 3 แต้ม ไม่แพ้ใครในบ้าน

         ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมอันดับสาม เปิดรังรับการมาเยือนของ "สิงห์ เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับ 11 โดยคู่นี้จะถ่ายทอดสดทางฟุตบอลสยามทีวี เวลา 16.00 น. ทั้งสองทีมเคย เจอกันมาในเลกแรกที่บ้านของ ทีทีเอ็มฯ ปรากฏว่าจบด้วยการเสมอกัน 0-0
         เจ้าบ้านขาดนักเตะแกนหลักในแนวรับอย่าง โคเน่ เซย์ดู ที่ติดโทษแบน ขณะเดียวกันกองหน้าตัวจบสกอร์อย่าง "ดูดู้" หลุยส์ เอดูอาร์โด้ ยังมาติดโทษแบนอีกต่างหาก นอกจากนั้นยังต้องเช็กความฟิตของ กีรติ เขียวสมบัติ กับ อภิ เชษฐ์ พุฒตาล ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ
         ในส่วนของผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามภายใต้ระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ ไพรัช ทับเกตุแก้ว, ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร แบ็กขวา วีระยุทธ จิตรขุน ทด มิดฟิลด์ริมเส้นซ้าย คนึง บุราณสุข คู่กลาง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กับ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ริมเส้นด้านขวา สุเชาว์ นุชนุ่ม กองหน้าคู่ กีรติ เขียวสมบัติ กับ สุริยา ดอมไธสง
         จากการเปิดเผยของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือบุรีรัมย์ พีอีเอ ถึงความพร้อมของลูกทีมว่า "เกมรุกริมเส้นเรามีปัญหาแน่นอนภายหลังจาการขาด หลุยส์ เอดูอาร์โด้ ซึ่งติดโทษแบนขณะเดียวกันเกมรับยังต้องขาด โคเน่ เซย์ดู ก็ยังต้องโรเตชั่นนักเตะกันพอสมควร เล่นในบ้านไม่มีทางเลือกยังงัยก็ต้องได้ 3 แต้ม พร้อมกับ รักษาสถิติไม่แพ้ใครในบ้านไปจนจบฤดูกาล"

    

ทีทีเอ็มฯ ทัพใหญ่บุกเยือน "ปราสาทสายฟ้า"

         ส่วน "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร คู่ต่อกรไร้ปัญหา ในเรื่องของนักเตะติดโทษแบน แต่มีเพียงแค่ ฮิโรยูกิ ยามาโมโตะ ฮีโร่แนวรับ "แดนปลาดิบ" รายเดียวที่ยังเจ็บข้อเท้า ขณะเดียวกันยังเป็นการวัดชะตากรรมของ โจเซ่ อัส เวส เบอร์วิส ที่คุมทีมมา 10 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ไปถึง 6 พาทีมรั้งอันดับ 11 ของตาราง
         เกมนี้กุนซือชาว "แซมบ้า" บราซิล วางระบบ 4-4-2 บุกรัง "ปราสาทสายฟ้า" มีผู้รักษาประตู แซมมวล ป.คัน นิ่งแฮม แบ็กซ้าย วัชระ มหาวงศ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ โคเบนาน ลิออน กับ ยามาโมโตะ ฮีโร่แบ็กขวา พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี มิดฟิลด์ริมเส้นซ้าย ณรงค์ จันทร์เสวก คู่กลาง กอบเดช ชอบมโนธรรม กับ ดิเอโก้ มาร์ตินส์ ริมเส้นด้านขวา เจษฎา บุญเรืองรอด คู่หน้า ไกรกิตติ อินอุเทน กับ วัลซี่ จูเนียร์
         จากการเปิดเผยของ โจเซ่ อัสเวส เบอร์วิส กุนซือ "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ว่า "ยังต้องเช็กอาการบาด เจ็บของ ยามาโมโตะ ฮีโร่ที่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างไรก็ดีคงจะต้องเข็ญลงสนามเพราะตำแหน่งดังกล่าว เราไม่มีแล้ว เกมนี้อย่างน้อยต้อง 1 แต้ม"

    

"พลังเอ็ม" ฟูลทีมหวังดับนาวี

         ที่สนาม อบจ.สระบุรี "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ทีมอันดับ 8 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ  "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 คู่นี้จะถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7 สี เวลา 16.30 น. ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาในเลก แรกปรากฏว่าเป็นทางด้านขุนพลโอสถฯ ที่บุกเอาชนะ 2-1
         เกมนี้เจ้าถิ่นได้ ประทุม ชูทอง กับ วันใหม่ เศรษฐนันท์ พ้นโทษแบนกลับมาอีกทั้ง เจษฎา พั่วนะคุณมี ก็หายไข้ ฟิตพร้อมช่วยทีมอีกคำรบ ผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามของ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ประกอบไปด้วย
         ผู้รักษาประตู ฉัตรชัย บุตรพรม แบ็กซ้าย บุญมี บุญรอด เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ ประทุม ชูทอง กับ มาริโอ แบ็กซ้าย วันใหม่ เศรษฐนันท์ มิดฟิดล์ 5 รายประกอบไปด้วย อภิภู สุนทรพนาเวส, เจษฎา พั่วนะคุณมี, โอลอฟ วัตสัน, คัพฟ้า บุญมาตุ่น, สุรเดช ธงชัย กองหน้าตัวเป้า เคลียตัน ดา ซิลวา
         "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรรัฒนดิลก กุนซือ "พลังเอ็ม" เปิดเผยถึงความพร้อมของลูกทีมว่า "เกมนี้ฟูลทีมแน่นอน เพราะเราได้นักเตะแกนหลักกลับมาครบครัน เจอกับราชนาวีฯ ซึ่งเป็นทีมที่เรียกได้ว่าหนีตกชั้น ดังนั้น แล้วเราจะมาเล่นเหยาะแหยะเพื่อเป็นข้อครหา ว่าไม่จริงจังไม่ได้ มั่นใจต้องสามแต้ม"

    

"ม้ามังกร" ห้าวโว 3 แต้มการันตีไม่ตกชั้น

         ด้านขุนพล "ม้ามังกร" ราชนาวี ระยอง เกมนี้ยังขาดดาวยิงผิวสีชาวไอเวอร์รี่โคตส์ อย่าง เจนิป้า ดีดี้ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บจากเกม "มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ" ที่ผ่านมา พร้อมกันนั้น จาง กิล ยอง กับ วุฒิชัย ทาทอง ยังติด โทษแบนแต่จะได้ ศุภชัย ขำทรัพย์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยขับเคลื่อนเกมรุกแดนกลาง
         สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ในระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ เหมบุตร แบ็กซ้าย จาง กิล ยอง เซนเตอร์ฮาล์ฟ สุรเดช เสาไธสง, ยันนิค จอร์จ แบ็กขวา ชณธวัฒน์ ศรีสุข มิดฟิลด์ริมเส้นซ้าย ติณภพ ศรีสถิตย์ คู่กลาง สุทธินันท์ นนทรี กับ ศุภชัย ขำทรัพย์ ริมเส้นขวา วิลสัน โดส ซานโตส กองหน้าคู่ พิศาลสิน ซ่าอินทร์ กับ สม เจตร สัตถบุษ
         "ผู้การเรือง" น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว กุนซือของทีม ราชนาวี ระยอง เปิดเผยถึงความพร้อมของลูกทีมว่า "เกมนี้เราต้องปรับกระบวนทัพกันพอสมควร เนื่องจากนักเตะแกนหลักเราติดโทษแบน แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะว่าได้ วิลสัน โดส ซานโตส กลับมาช่วยเกมรุกแดนกลาง ไปเยือนเขาอย่างน้อยก็ต้องได้ 1 แต้มการันตีการอยู่ รอด"

    

ทีโอทีฯ เจ็บอื้อลั่นขอ 3 แต้มรอดชัวร์

         ปิดท้ายที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ทีมอันดับ 12 เปิดรังรับมือ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 7 ที่ผลงานสุดหรูเอาชนะมา 4 นัดติด คู่นี้ สทท.11 กรมประชาสัมพันธ์ จะถ่ายทอด สดเวลา 18.00 น. ทั้งสองทีมเจอกันในเลกแรก ปรากฏว่าเป็นทางด้าน ทีโอทีฯ ที่บุกไปแพ้ 2-0
         เจ้าบ้านจะไม่มี โจเซฟ ไทเรอร์ ตัวจบสกอร์ที่ติดโทษแบน แต่ก็จะได้ มาเรียน จูฮัส แนวรับกลับมาอุดรอยรั่ว ขณะ เดียวกัน ยุทธนา ไชยแก้ว แม้จะไม่ค่อยฟิตแต่ทางด้าน "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ น่าจะเข็ญลงสนามช่วยงาน แดนหน้าเพราะไม่มีใครให้ใช้งานแล้ว
         โดยผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนาม แนวรับมี มาเรียน จูฮัส, พลวัฒน์ วังฆะฮาด, ครรชิต ชลรัตน์อมฤต เป็นแกนหลัก แดนกลางได้ ธีรชัย งามเจริญ, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ ปั้นเกม ขณะที่คู่หน้า ยุทธนา ไชยแก้ว จะถูกโยกไปยืนเป็นหัว หอกคู่กับ มิโลสลาฟ ทอธ
         "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี เผย "บอกได้คำเดียวว่าหมดตูด เพราะนักเตะเรามีให้ใช้งานน้อยมาก อย่างกองหน้ายังต้องจับเอา ยุทธนา ไชยแก้ว ที่ยังมีอาการบาดเจ็บไปเล่นแทน เรียกได้ว่านักเตะ ทีโอทีฯ ชั่วโมงนี้ใครฟิตได้ลง อย่างไรก็ตามเกมนี้คงต้องสามแต้มเพื่อการันตีไม่หนีตกชั้น ซึ่งน่าจะ รอดชัวร์ๆ"

    

"แม่กลอง" ปัญหาอื้อทั้งเจ็บแบนไปแต่งงาน

         ด้าน "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 7 ทีไม่มีลุ้นใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว ทว่า 4 นัดที่ผ่านมาพวก เขาโชว์ฟอร์มเยี่ยมเอาชนะมา 4 นัดรวด เก็บ 12 แต้มเต็ม เกมนี้ทีมเยือนยังขาดตัวหลักในเกมรับอย่าง ประสาร พันธ์ สำลี, อภินันท์ แก้วปีลา, กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ ใน
         ขณะที่ ประหยัด บุญญา ไม่ฟิตแต่จะได้ เอกศักดิ์ บัวเบา ซึ่งเจ็บ ไปนานฟิตกลับมาอุดรอยรั่วอีกครั้ง ในขณะที่กองหน้าชาวไนจีเรียอย่าง เอฟเฟ่ โอโบเด้ เดินทางไปแต่งงานที่ จ. ศรีสะเกษ วันเดียวกันไม่ได้ลงแน่นอน
         ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ปินโต้ แบ็กซ้าย ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น เซนเตอร์ฮาล์ฟ ชุมพล บัวงาม, เอกศักดิ์ บัวเบา แบ็กขวา ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร มิดฟิลด์ 3 รายมี พัชรินทร์ สุกใส, พานุวัฒ ยิ้มสง่า, มิเชล ชาร์ริน กองหน้า 3 รายมี สิทธิพันธ์ ชุ่มช่วย, ดิยุฟ บิเรเม่, ฌอง มาร์ค เบนี่
         จากการเปิดเผยของ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุ่ม กุนซือ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เผย ถึงความพร้อมของลูกทีมในเกมนี้ว่า "น่าจะเป็นโชคดีของ ทีโอทีฯ ที่มาเจอกับเราในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งแบน ทั้งเจ็บ และไปแต่งงาน เรียกได้ว่ามีปัญหาครบ
         ใจจริงก็อยากจะเต็มที่ เพื่อเอาชนะให้ได้ 5 นัดติดและทำสถิติไปเรื่อยๆ  เพราะได้เงินอัดฉีดจากคุณ สมศักดิ์ ศิริธรรม นัดละ 1 แสนบาท และหนีข้อครหาว่าเอาไม่จริง แต่เมื่อทรัพยากรนักเตะ ไม่พอก็ต้องวัดใจ อย่างไรก็ดีการได้ 1 แต้มนอกบ้านนับว่าคุ้มค่า"