โค้งสุดท้ายหาทีมตกชั้นในไทยพรีเมียร์ลีก "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ต้องการพิฆาต ราชนาวี-ระยอง ด้าน "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ส่งสารท้ารบทีมจากแดนอีสานอย่าง ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี อีกคู่ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ออกอาการหน้าบาน หลังจากที่ได้ปราการหลังจอมแกร่งอย่าง สมภพ นิลวงศ์ สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาบัญชาการในเกมรับ พร้อมต้องการถีบเหล่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ให้ร่วงตกชั้นไปในเกมนี้ 

  การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 วันที่ 10 ต.ค.นี้

"โปลิศ" ขอดับ "นาวี" ในรังตัวเอง

 ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นเกมระหว่าง "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ อันดับที่ 9 มี 33 คะแนน เกมล่าสุดบุกไปเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี แบบน่าชนะ 3-3 ซึ่งจะเปิดรังรับการมาเยือนของ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง อันดับที่ 13 ในตาราง มี 26 คะแนน แมตช์ที่แล้วบุกไปแบ่งแต้มมาได้จากโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ด้วยสกอร์ 1-1 โดยผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งคู่เจอกันนั้น ปรากฏว่า อินทรีเพื่อนตำรวจ บุกไปแพ้มาก่อน 0-1 และที่สำคัญ ฟุตบอลสยามทีวี ดีทีวี 50 จะดำเนินการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 18.00 น.

 สภาพความพร้อมเกมนี้ของทางเจ้าถิ่น ที่มี "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม นั่งแท่นเป็นกุนซือใหญ่นั้น ไร้ปัญหาผู้เล่นที่ติดโทษแบน หรือได้รับอาการบาดเจ็บใดๆ ส่วนนักเตะที่คาดว่าน่าจะลงสนามนั้น คงน่าจะยืนหยัดชุดที่บุกไปเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี อาทิ ธนพัต ณ ท่าเรือ เครื่องจักรในแดนกลาง, ชาคริต บัวทอง ปีกขวาที่เพิ่งซัดแฮตทริกไปในเกมที่แล้ว รวมทั้ง จักรพันธ์ พรใส ปีกซ้ายความเร็วสูง

 โดย "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ช "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ กล่าวว่า "เกมนี้เราได้ศึกษาการเล่นของพวกเขาเป็นอย่างดี และรู้อีกด้วยว่า ราชนาวี เป็นทีมที่เล่นนอกบ้านในฤดูกาลนี้ไม่ดีนัก ซึ่งผมคงจะต้องสั่งให้ลูกทีมเล่นบอลแบบทะลุทะลวง และเก็บชัยชนะให้ได้"

"โค้ชเรือง" วางแข้งนอกลง 5 ราย

ส่วน "โค้ชเรือง" น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว หัวเรือใหญ่ของ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ยันชัดออกมาแล้วว่าเกมที่จะออกไปเยือนนี้ จะให้นักเตะต่างชาติที่อยู่ในทีม 5 คน ลงสนามในเกมนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นฝาแฝดจากแดนกิมจิอย่าง จาง จิล ฮยอค กับ จาง จิล ยอง, วิลสัน เจมส์ โดส ซานโตส หรือ ราติญโญ่ เพลเมกเกอร์ตัวหลักจากบราซิล, ยานนิค จอร์ช กองหลังจอมแกร่ง และ จีเนป้า ดีดี้ หัวหอกป้ายแดงจากไอวอรี่โคสต์

  ซึ่ง "โค้ชเรือง" น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว เฮดโค้ช "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ให้สัมภาษณ์ว่า "ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำทีมนี้ บอกได้เลยว่าการไปเล่นเป็นทีมเยือน ล้วนแต่เจอสโมสรที่แข็งแกร่งทั้งนั้น แต่ในเกมนี้เราไม่มีทางเลือกอีกต่อไปแล้ว นอกจากจะต้องคว้า 3 แต้ม เพื่อสู้ในเรื่องการรอดตกชั้นให้ได้"

"น้าฉ่วย" ท้า "กูปรี" มีดีก็มาหยิบชัย

     ขณะที่สนามกีฬา จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม อันดับที่ 7 มี 37 คะแนน เกมล่าสุดเพิ่งบุกไปแพ้ ทีโอที เอฟซี มา 1-2 เปิดบ้านต้อนรับ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่ 14 มี 23 แต้ม นัดก่อนบุกไปชนะ บีอีซี เทโรฯ มาได้ 3-2 โดยผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งคู่เจอกันนั้น ปรากฏว่าเสมอกันไปแบบสนุก 1-1 ซึ่งนัดนี้ช่อง สยามกีฬา เอ็นบีที 19 รับหน้าที่ถ่ายทอดสดเวลา 16.30 น.

    ในนัดนี้ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม จะไม่มีนักเตะที่ติดแบนถึง 4 ราย ประกอบไปด้วย โนงูชิ ปินโต้, ประหยัด บุญญา, พัชรินทร์ สุขใส และ ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ทว่า พวกเขายังคงมี 3 แข้งต่างชาติ ที่คาดว่าโค้ชใหญ่แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง น่าจะส่งลงสนาม ทั้ง ฌอง มาร์ค เบนนี่, บิเรเม่ รวมไปถึง เอฟเฟ่ ที่กลายเป็นลูกเขยศรีสะเกษ สดๆ ร้อนๆ

  ทั้งนี้ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม บอกว่า เรารู้ดีว่านัดนี้ค่อนข้างจะเป็นปัญหาสำหรับทีมเรามาก เนื่องจากผู้เล่นตัวสำคัญเกิดติดโทษแบน หากว่าทาง ศรีสะเกษ คิดว่ามีดีที่จะมาสยบพวกเรา ก็น่าจะมาลองสู้กันดูสักตั้งว่าใครจะแน่กว่ากัน
'
                                                "วิสูตร" เน้นเกมรุกเปิดแลกเต็มสูบ

  ด้าน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ภายใต้การกุมบังเหียนของ วิสูตร วิชายา เกมนี้ไม่มีปัญหาเรื่องของผู้เล่นที่บาดเจ็บ หรือติดโทษแบนที่ต้องน่าหนักใจอีกทั้งเตรียมที่จะส่งชุดบุกไปปราบ บีอีซี เทโรฯ มา 3-2 นำโดย เทวา ศรีธรรมมานุสาร จอมทัพตัวหลัก, ประลอง สาวันดี แบ็กซ้ายจอมบุก และน่าจะใช้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ตามเดิม

 ซึ่ง วิสูตร วิชายา เฮดโค้ชของ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เผยว่า ตนอยากจะให้นักเตะทุกคนมีสมาธิ พร้อมกับสุขุมให้มากที่สุด เนื่องจากตนต้องการให้ผู้เล่นเปิดเกมรุก โจมตีทาง สมุทรสงคราม เพื่อการคว้า 3 แต้ม และดิ้นการหนีตกชั้นได้ต่อไป

พัทยาได้ "สมภพ" กลับมายืนเกมรับ

        คู่สุดท้ายที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ เจ้าถิ่น "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด อันดับที่ 6 มี 39 แต้ม เกมที่แล้วเปิดบ้านพ่ายให้กับการท่าเรือไทย เอฟซี ไป 0-1 จะพบกับ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด บ๊วยสุดของตาราง มีเพียงแค่ 20 คะแนน นัดก่อนบุกไปแพ้ บางกอกกล๊าส เอฟซี มาแบบหมดรูป 0-4 โดยผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งคู่เจอกันนั้น ปรากฏว่า พัทยา บุกไปชนะมาได้ก่อน 1-0 ที่สำคัญสตาร์ซอคเก้อร์ทีวี ดีทีวี 51 จะดำเนินการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 18.00 น.

นัดนี้ "วังลันตา" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เฮดโค้ช "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด จะไม่มีกองกลางอย่าง ธีระเวคิน สีหวงศ์ ที่ติดโทษแบน แต่เตรียมจะได้ สมภพ นิลวงศ์ กลับมาบัญชาการในเกมรับคู่กับ อาร์รินโด้ แถมยังจะมี สันติ ไชยเผือก กับ อิทธิพล พูลทรัพย์ เดินเครื่องแดนกลางตามเดิม ขณะที่คู่หน้า ปฏิพณ เพชรวิเศษ ลงกะซวกตาข่ายในแดนหน้าคู่กับ ลูโดวิค ทาคาม ดาวซัลโวของทีม

  โดยที่ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เกมนี้ผมคิดว่าเราน่าจะกลับมาพร้อมกว่านัดที่ผ่านๆ มา เพราะเราได้ สมภพ นิลวงศ์ กลับมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอีกครั้ง ทำให้เกมรับของเราสมดุลขึ้น และต้องการที่จะเอาชนะให้ได้ เพื่อรักษาการเป็นอันดับที่ 6 เช่นนี้ต่อไป"

"น้าเหม่ง" หลังพิงฝาต้องการ 3 แต้ม

  ส่วน "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช เจ้านายใหญ่แห่ง "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องกุมขมับหลังจากที่ 2 กองหลังจอมเก๋าอย่าง ปฏิภาน เพชรพูล กับ รุ่งโรจน์ สว่างศรี นัดกันติดโทษแบน ทำให้น่าจะจำเป็นต้องใช้ มูสซ่า ซาอิบ โคเน่ ยืนคู่กับ รูเบน กุสตาโว่ พร้อมกับในแดนหน้ามีทั้ง แม็กซิม, ซารีฟ สายนุ้ย พร้อมด้วย มาซาฮิโระ ฟูกาซาระ ลงล่าตาข่าย

 ซึ่ง "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด เผยว่า ตนไม่มีทางเลือกอีกต่อไปแล้ว เพราะหากแพ้นัดนี้โอกาสที่จะตกชั้นเข้าข่าย 100 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว อีกทั้งตนจำเป็นต้องสั่งให้ลูกทีมเดินหน้าฆ่าลูกเดียว