โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ บุกไปเฉือนเอาชนะ โคโลญจน์ หวุดหวิด 2-1 ชนิดที่ได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผงาดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนที่ผ่ามา

ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน
วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2553
โคโลญจน์ 1 - 2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
สนาม : ไรน์-เอเนอร์กี้ สตาดิโอน

 
     โคโลญจน์ ทีมอันดับ 16 ของตารางคะแนนบุนเดสลีกา เปิดไรน์-เอเนอร์กี้ สตาดิโอนพบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูงที่ฟอร์มการเล่นร้อนแรงชนะมา 6 เกมติดต่อกัน
 
     ซโวนิเมียร์ ซอลโด้ เทรนเนอร์ชาวโครเอเชียของ โคโลญจน์ส่ง มาร์ติน ลานิค, มาโต้ ยายาโล่ และ อดัม มาตูชีค นำเกมรุก ลูคัส โพดอลสกี้ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน เป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ส่ง ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ และ เควิน โกรสครอยท์ซ เป็นสามประสานแนวรุก ลูคัส บาร์ริออส ดาวยิงทีมชาติปารากวัย เป็นคีย์แมนแดนหน้า
 
     เกมครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 6 ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ มิดฟิลด์ดอร์ทมุนด์ได้บอลก่อนโยนแม่นยำมาเข้าหัว ลูคัส บาร์ริออส โหม่งเผาขนข้ามคานไปอย่างหวุดหวิด
 
     นาทีที่ 9 โคโลญจน์น่าได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ มิโซ่ เบรคโก้ ทำทางให้ ลูคัส โพดอลสกี้ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนคานอย่างจัง
 
     และห้านาทีถัดมา เจ้าบ้านได้บอลบุกขึ้นมาอีกครั้ง อดัม มาตูชีค ผ่านบอลให้ มาร์ติน ลานิค ซัดเท้าขวาระยะไกลมากกว่า 35 หลา บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
 
     นาที 16 เสือเหลืองมีโอกาสใกล้เคียงมากที่สุดที่จะได้ประตู นูริ ซาฮิน โยนบอลมาเข้าหัว ลูคัส บาร์ริออส โขกชนคานอย่างน่าเสียดาย
 
     ดอร์ทมุนด์เป็นฝ่ายครองบลอมากกว่า หลังจากนั้น โดยนาที 29 ชินจิ คากาวะ โยนไปให้ บาร์ริออส โหม่งระยะเพียง 6 หลาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งชนเสา
 
     และแล้วความพยายามของ ดอร์ทมุนด์เป็นผลได้ประตูนำ 1-0 นาที 20 ชินจิ คากาวะ ทำชิ่งให้ ลูคัส บาร์ริออส เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาแรก ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ โหม่งเผาขนตุงตาข่าย
 
     หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่นหวังตามตีเสมอให้ได้ นาที 28 มาร์ติน ลานิค ผ่านบอลให้ โพดอลสกี้ ซัดเท้าซ้ายระยะไกลไปติด โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวารกัปตันทีมเซฟไว้ได้
 
     นาที 39 เจ้าถิ่นได้บอล ฟาบริซ เอห์เร่ต์ ทำชิ่งให้ มาโต้ ยายาโล่ ยิงในกรอบเขตโทษ บอลออกเส้นหลังไปอย่างน่าเสียดาย และนาที 45 นูริ ซาฮิน กองกลางเสือเหลืองเปิดลูกเตะมุม บอลมาเข้าหัว มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โหม่งเผาขน บอลพุ่งเข้าข้างประตู จบครึ่งแรก ดอน์ทมุนด์นำ 1-0
 
     เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 48 ดอร์ทมุนด์รุกใส่ทันที ท่ามกลางสายฝนที่ยังตกลงมาโดยตลอด นูริ ซาฮิน โยนบอลให้ ลูคัส บาร์ริออส โหม่งหน้าประตู บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลาเท่านั้น
 
     นาที 57 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ มาร์ติน ลานิค โหม่งตั้งให้ อดัม มาตูชีค โขกหน้าประตูข้ามคานไม่กี่หลา
 
     และสองนาทีต่อมา เสือเหลืองโต้ใส่ทันที ซาฮิน ทำทางให้ เควิน โกรสครอยท์ซ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าข้างประตู โดยนาที 61 อาร์มันโด้ เปอตีต์ กองกลางเจ้าถิ่นได้ซัดระยะไกลติด โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ตะครุบบอลไว้ได้อยู่หมัด
 
     นาที 68 เปอตีต์ ได้บอลเปิดมาเข้าทาง โพดอลสกี้ ซัลโวเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษติดกองหลังเสือเหลือง สกัดบอลออกเส้นหลังไปได้
 
     จากนั้น ดอน์ทมุนด์เปลี่ยนผู้เล่นสำรองคนแรก ถอดเอา ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์ญี่ปุ่นออกจากสนาม และส่ง มาริโอ ก็อตเซ่ ลงเล่นแทนนาที 72 โดยไม่กี่วินาทีต่อมา ก็อตเซ่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้บอลเปิดเร็วไปให้ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ ยิงเท้าขวาระยะไกล บอลเข้าข้างตาข่าย
 
     และแล้วนาที 82 โคโลญจน์ ตีเสมอ 1-1 เมื่อ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ กองกลางดอร์ทมุนด์โหม่งสกัดไม่ดี บอลมาเข้าทาง ลูคัส โพดอลสกี้ ซัดเท้าซ้ายระยะ 19 หลา บอลพุ่งเสียบมุมอย่างสวยงาม
 
     เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เสือเหลืองก็มาได้ประตูชัยจนได้ จาก นูริ ซาฮิน หมดเวลา ดอร์ทมุนด์ บุกมาเอาชนะ โคโลญจน์ 2-1 ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงฟุตบอลบุนเดสลีกา เรียบร้อย โดยมี 21 คะแนนเท่ากับ ไมนซ์ แต่ประตูได้-เสียดีกว่า
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     โคโลญจน์ : มิโร วาร์โวดิช - มิโซ่ เบรคโก้, ยูสเซฟ โมฮาหมัด (กัปตันทีม), เปโดร เกโรเมล, ฟาบริซ เอห์เร่ต์ - อาร์มันโด้ เปอตีต์ - คริสเตียน คลีเมนส์, มาร์ติน ลานิค, อดัม มาตูชีค, มาโต้ ยายาโล่ - ลูคัส โพดอลสกี้

     สำรอง : ดาเนี่ยล ชวาบเค่ (ผู้รักษาประตู), อังเดรซินโญ่, ทาเนอร์ ยัลซิน, เควิน เพซโซนี่, อาดิล ชิฮี, ไซม่อน เตร็อดด์, มิลิโวเย่ โนวาโควิช
  
     โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (กัปตันทีม) - ลูคัส พิซเซ็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, นูริ ซาฮิน - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ, เควิน โกรสครอยท์ซ - ลูคัส บาร์ริออส

     สำรอง : มิทเชลล์ ลังเกรัค (ผู้รักษาประตู), เดเด้, เฟลิเป้ ซานตาน่า, มาริโอ ก็อตเซ่, มาร์คุส ฟอยล์เนอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อันโตนิโอ ดา ซิลวา
  
     ผู้ตัดสิน : กุนเตอร์ เพิร์ล