ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ไทยลีกระอุ!!ฉลามชลเฝ้ารังฟัดบุรีรัมย์ช่อง11ยิงสด

ไทยลีกระอุ!!ฉลามชลเฝ้ารังฟัดบุรีรัมย์ช่อง11ยิงสด

Posted 17/10/2010 by siamsport

 

     สะท้านปฐพี บิ๊กแมตช์ไทยลีก 2 ทีมลุ้นแชมป์ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง เปิดบ้านรับมือ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ อันดับ 3 ของตาราง จเด็จ มีลาภ กุนซือยอดทีมแดนบูรพา โวลั่นแผนการเล่นของทีมเยือนมาแบบหมดไส้หมดพุงแล้ว ฝั่ง "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม นายใหญ่ของทีมจากแดนอีสาน ฟุ้งขอบุกเก็บชัย เพื่อขึ้นรองจ่าฝูง และชิงเข้าป้ายคว้าแชมป์ให้ได้ เอ็นบีที 11 กรมประชาสัมพันธ์ รับหน้าที่ยิงสด เวลา 18.00 น. วันที่ 17 ต.ค. นี้ 

       ศึกลูกหนัง "สปอนเซอร์ พรีเมียร์ลีก 2010" วันอาทิตย์ที่ 17 ต.ค.นี้ คู่ไฮไลท์ อยู่ที่สนาม สพล.ชลบุรี ศึก "บิ๊กแมตช์" ระหว่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง ที่เล่นไป 28 นัด มี 58 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมแกร่งจากแดนอีสาน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่อยู่อันดับ 3 ของตาราง เตะไปเพียง 27 นัด มี 56 คะแนน ซึ่งผลงานการเจอกันเลกแรก บุรีรัมย์ พีอีเอ ชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-1 เกมคู่นี้จะเริ่มเวลา 18.00 น. ช่องเอ็นบีที 11 กรมประชาสัมพันธ์ รับหน้าที่ถ่ายทอดสด
   

จเด็จ โวรู้ไส้รู้พุงทีมจากแดนอีสาน

         นัดนี้ ชลบุรี เอฟซี จะไม่มี ชลทิตย์ จันทคาม ปราการหลังตัวแกร่ง ที่ติดโทษแบน และ สุทธินันท์ พุกหอม ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ ทำให้จำเป็นต้องใช้ เค็นเน็ธ อั๊กปูเอเช่ กับ ไพศาล โพธิ์นา ยืนเซนเตอร์คู่กันตามเดิม ในแดนกลางยังได้ ภูริทัต จาริกานนท์ กลับมาช่วยประสานงานกับ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ขณะที่คู่ศูนย์หน้าใช้ เนย์ ฟาเบียโน่ และ พิภพ อ่อนโม้ ลงล่าตาข่าย
         โดย "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ กุนซือ "ฉลามชล" กล่าวถึงนัดนี้ว่า มันเป็นเกมที่เราให้ความสำคัญ และเรารู้ถึงสไตล์การเล่นของบุรีรัมย์ เป็นอย่างดี หากเราประกบคู่หน้า และบีบไม่ให้ปีกซ้ายขวาของพวกเขาได้โจมตีได้ นั่นจะทำให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น   

"ปราสาท" ขอเก็บชัยลุ้นขึ้นที่ 2

         ฝั่ง บุรีรัมย์ พีอีเอ เกมนี้ยังจะต้องรอเช็กความฟิตของ ธีราธร บุญมาทัน แบ็กซ้ายดาวรุ่งตัวเก่งจนถึงวินาทีสุดท้าย เนื่องจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ แต่นักเตะหลักๆ อย่าง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ดูดู้ และกัปตันทีมอย่าง อภิเชษฐ์ พุฒตาล จะลงสนามกันอย่างพร้อมเพรียงกัน
         ซึ่ง "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม เจ้านายใหญ่ "ปราสาทสายฟ้า" เผยว่า ตนมองว่านัดนี้จะหนักแน่นอน เนื่องจากนักเตะของเราหลายคน ค่อนข้างที่จะมีอาการล้าอย่างมาก อย่างไรก็ตามตนจะให้ลูกทีมเล่นแบบรัดกุมที่สุด และจำเป็นต้องมีแต้มในเกมดังกล่าว เพื่อที่จะขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง ก่อนที่จะมองถึงตำแหน่งแชมป์ในอนาคต   

ไม่มีทางเลือก "กูปรี" ต้องคว้า 3 แต้ม

         ขณะที่สนามศรีนครลำดวน เป็นเกมของ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี อันดับที่ 14 มีอยู่ 23 แต้ม เกมที่แล้วบุกไปพลาดท่าพ่ายให้กับ เอสซีจี สมุทรสงคราม แบบเฉียดฉิว 0-1 โดยจะเปิดรังต้อนรับ "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม พิจิตร ที่ 11 ของตาราง มี 31 คะแนน เกมที่แล้วพวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการบุกไปตีเสมอเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-2 ซึ่งผลที่เจอกันในเลกแรกเสมอกัน 0-0 และช่องฟุตบอลสยามทีวี ดีทีวี 50 จะถ่ายทอดสดเวลา 15.30 น.
         แมตช์นี้ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี จะไร้เงาของ เอกพันธ์ จันดากร กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน ทำให้น่าจะเป็นโอกาสของ สุพรรณ หาดคำ ที่จะลงทำหน้าที่แทน อีกทั้งแดนกลางยังคงเป็นหน้าที่ของ เทวา ศรีธรรมนุสาร กับ วิคเตอร์ อมาโร่ ที่จะประสานงานกันในแดนกลาง ปล่อยให้ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น และ กิตติศักดิ์ ใจหาญ กะซวกตาข่าย
         ซึ่ง วิสูตร วิชายา เฮดโค้ชของ "กูปรีอันตราย" เปิดเผยก่อนที่นัดนี้จะเริ่มต้นว่า ตนอยากจะให้นักเตะทุกคนมีสมาธิ พร้อมกับสุขุมให้มากที่สุด เนื่องจากตนต้องการให้ผู้เล่นเปิดเกมรุกแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อโจมตีทางคู่ต่อสู้ และคว้า 3 แต้ม ดิ้นการหนีตกชั้นได้ต่อไป แต่คงจะต้องรอดูผลของราชนาวีที่ลงสนามพร้อมกัน แล้วภาวนาไม่ให้พวกเขาเก็บแต้มได้   

ทีทีเอ็มหวังสร้างปาฏิหาริย์

         ด้านทีทีเอ็ม พิจิตร ยังคงไม่มี พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี กองหลังที่ติโทษแบน ห้ามลงสนามอีกหนึ่งนัด อย่างไรก็ตามเรื่องของตัวผู้เล่น จะยังคงเป็นชุดเดียวกับที่บุกไปแบ่งแต้มจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด นำโดย ไกรสร ศรียันต์ กองหน้าผู้เหมา 2 ประตู และกลายเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในถิ่นยามาฮ่า สเตเดี้ยม อีกด้วย
         โดย "โค้ชตู่" พินิจพล เกิดแย้ม โค้ช "สิงห์เหนือ" ให้สัมภาษณ์ว่า "ลูกทีมทุกคนของผม กำลังมีความห้าวมาจากเกม บุกไปแบ่งแต้มจากเมืองทองฯ ซึ่งแน่นอนว่าผมจะให้ลูกทีมทำหน้าที่ใส่ให้เกินร้อย และหากเกมนี้เราสามารถคว้า 3 แต้มได้ ผมมั่นใจว่าจะรอดตกชั้นชัวร์ๆ"   

"โค้ชเรือง" หวัง 3 แต้มในบ้านนัดสุดท้าย

         อีกคู่ที่สนาม กีฬา จ.ระยอง เป็นเกมของ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ที่ 13 ในตาราง เล่นไป 28 เกม มี 29 คะแนน แมตช์ที่แล้วบุกไปชนะอินทรีเพื่อนตำรวจ ด้วยสกอร์ 3-2 ซึ่งจะพบกับ "เดอะ กล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับที่ 5 เตะไป 28 เกม 43 แต้ม นัดก่อนไปเยือนโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี กลับแพ้ไปถึง 4-1 โดยผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งคู่เจอกันนั้น ปรากฏว่า ราชนาวี บุกไปพ่ายมาก่อน 0-4 และช่อง ที-สปอร์ต จะถ่ายทอดสดเวลา 17.00 น.
         ซึ่งนัดนี้ ราชนาวี-ระยอง จะไม่มี กุศล เพ่งผล ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ยังคงจะใช้ 5 แข้งต่างชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นฝาแฝดจากแดนกิมจิอย่าง จาง จิล ฮยอค กับ จาง จิล ยอง, วิลสัน เจมส์ ดอส ซานโตส หรือ ราติลโญ่ เพลย์เมกเกอร์ตัวหลักจากบราซิล, ยานนิค จอร์ช กองหลังจอมแกร่ง และ จีเนป้า ดีดี้
         "โค้ชเรือง" น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว เฮดโค้ช "ม้านิลมังกร" ให้สัมภาษณ์ว่า "เป็นเกมที่เราจะได้เล่นในบ้าน เฉพาะไทยพรีเมียร์ลีกเป็นเกมสุดท้าย และผมคงจะต้องให้ลูกทีมเล่นแบบเอาใจแฟนบอล ซึ่ง 3 คะแนนเท่านั้น ที่ผมมองไว้ในเกมนี้ เพราะมันจะทำให้เรารอดตกชั้นทันที"   

บีจีไร้เงา 3 แข้งหลักที่โดนแบน

         ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เพิ่งไปพ่ายโอสถฯ มาแบบหมดรูป 1-4 จะไม่มี วิชายา เดชมิตร กองกลางดาวรุ่ง มูสซา ซิลล่า มิดฟิลด์เกมรับทีมชาติกินี และ กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายทวารของทีม ที่พร้อมใจกันติดโทษแบนกันทั้งคู่ โดยที่ตำแหน่งของผู้รักษาประตู จะเป็นหน้าที่ของ กฤษกร เกิดผล ลงทำหน้าที่แทน พร้อมดัน ปีเตอร์ แลง ขึ้นไปเล่นฮาล์ฟรับ คู่หน้าใช้ พอล เอ็คโคโล่ กับ ไมเคิ่ล เบิร์น
         โดย "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีมของ "เดอะ กล๊าสแรบบิท" กล่าวว่า "เกมนี้ผมคงจะช่วยกับบรรดาสตาฟฟ์โค้ชเต็มที่มากขึ้น หลังจากที่เราแพ้มาแล้วถึง 2 นัดติดต่อกัน แต่มองว่าอาจจะเป็นนัดที่ยากพอสมควร เนื่องจากราชนาวีเป็นทีมที่เล่นในบ้านดีมาก ถึงอย่างไรขอมีแต้มกลับออกมาคงเพียงพอแล้ว"   

"เตี้ย" รับกดดันผลงานเจ้าท่า

         ที่สนามแพท สเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี อันดับที่ 4 ของตาราง ผ่านการเตะไป 28 นัด มีถึง 44 คะแนน เกมที่แล้วบุกไปแพ้ บีอีซี เทโรฯ แบบขาดลอย 2-4 ซึ่งจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "กงจักรพิฆาต" ทหารบก อันดับบ๊วยที่ตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกมที่แล้วเปิดบ้านแพ้บุรีรัมย์ พีอีเอ ไป 0-2 โดยผลงานในเลกแรกที่เจอกันนั้น ปรากฏว่าทางการท่าเรือไทยบุกไปชนะมาได้ถึง 2-0 ที่สำคัญแมตช์นี้ช่องทรู สปอร์ต รับหน้าที่ถ่ายทอดสด เวลา 17.00 น.
         นัดนี้การท่าเรือไทย เอฟซี จะไม่มี รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ กับ อาลีฟ เปาะจิ ที่ติดโทษพักแข้ง ทำให้น่าจะใช้ ทศพล ลาเทศ กับ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ลงเล่ยนแทน แถมยังมี "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้ากัปตันทีม ลงล่าตาข่ายร่วมกับ สมปอง สอแหลบ
         ซึ่ง "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ เจ้านายใหญ่แห่ง "สิงห์เจ้าท่า" อดีตยอดทีมระดับตำนานของเมืองไทย เผยว่า ยอมรับแบบตามตรงว่าตนมีความกดดัน ในปัญหาทั้งในและนอกสนาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานหรือเรื่องเงินทอง อย่างไรก็ตามตนต้องสลัดปัญหาเหล่านี้ เพื่อมุ่งหน้าเก็บชัยชนะ ต่อหน้าแฟนบอลที่ให้การหนุนหลังในบ้านของตนเอง   

ทัพบกสู้ด้วยศักดิ์ศรีของสโมสร

         แม้ว่าจะตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า แบบเต็มตัวแล้ว แต่ทหารบกยังคงจะต้องเล่นในเกมที่เหลือ และนัดนี้จะไม่มี ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม กองหลังร่างยักษ์ กับ ตระกูลฉัตร ทองใบ ที่ติดโทษแบน อย่างไรก็ตามทีมยังมี ธาตรี สีหา ที่น่าจะลงเล่นในแดนหน้าตามเดิม
         ซึ่ง "น้าอำ" พันเอก อำนาจ เฉลิมชวลิต กุนซือ "กงจักรพิฆาต" ได้กล่าวว่า ถึงเราจะตกชั้นไปแล้ว แต่เราก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อศักดิ์ศรี ในการเป็นทีมแห่งกองทัพไทย อย่างไรก็ดีเรายังมีลุ้นถ้วยมูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ อยู่ ซึ่งเราน่าจะเน้นไปที่ตรงนั้นมากกว่า   

"น้าเหม่ง" หวัง 3 แต้มต่อลมหายใจ

         ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต เป็นการพบกันของ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด รองบ๊วยในตาราง เตะไป 28 เกม มี 23 คะแนน นัดที่แล้วบุกไปกำชัยชนะมาจากพัทยา ยูไนเต็ด 2-1 และจะต้อนรับการมาเยือนของ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ที่ 12 มี 30 แต้ม แมตช์ที่แล้ว บุกไปพ่ายให้กับชลบุรี เอฟซี แบบหมดรูป 0-2 โดยผลงานที่เจอกันในเกมแรกเป็นทีโอทีที่ชนะมาได้ก่อน 1-0 ซึ่ง เอ็นบีที 11 กรมประชาสัมพันธ์ จะทำการบันทึกเทปให้แฟนบอลได้ชมกัน
         ความพร้อมของ แบงค็อก ยูไนเต็ด นัดนี้พวกเขายังไม่มี รุ่งโรจน์ สว่างศรี ที่ยังคงติดโทษแบนอยู่ แต่จะได้ ปฏิพาน เพชรพูล ที่กลับมาจากการติดโทษแบน และจะเล่นเกมบุกอย่างเดียว เนื่องจากแดนหน้าใช้ทั้ง แม็กซิม, ซารีฟ สายนุ้ย และ มาซาฮิโร่ ฟูกาซาว่า
         โดย "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช เฮดโค้ชของ "แข้งเทพ" กล่าวว่า "เป็นเกมที่กดดันอย่างมาก เพราะผมต้องการที่จะคว้า 3 คะแนนให้ได้ในเกมนี้ เพื่อต่อลมหายใจของทีมเราต่อไปอีกหนึ่งนัด อีกทั้งยังจะต้องลุ้น ราชนาวี ให้แพ้อีก แต่ฟุตบอลไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ว่าผลจะออกมาเช่นไร และคงจะต้องกดดันทางทีโอที ตั้งแต่เริ่มเกม"   

"วิหคเพลิง" ใช้ "ทอธ" ล่ากับ "โคซ่าห์"

         ด้าน ทีโอที แคท เอฟซี นัดนี้จำเป็นต้องคว้า 3 แต้ม เพื่อการันตีการอยู่รอดปลอดภัยในศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 โดยเตรียมที่จะใช้ มิโรสลาฟ ทอธ กับ โทมัส โคซ่าห์ เพื่อลงล่าประตูในเดินหน้า และมี แอนตัน คูบาล่า เป็นเกมในแดนกลางตามเดิม
         ซึ่ง "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือ "วิหคเพลิง"  ให้สัมภาษณ์ว่า "ถือได้ว่าเป็นเกมที่ไม่หมูจริงๆ เพราะทางแบงค็อกต้องการแต้มที่จะอยู่รอดเหมือนกัน ฉะนั้นแล้วเราคงจะเล่นเกมรับให้ปลอดภัย เพื่อการแบ่งคะแนนในเกมนี้"   

พัทยาต้องเรียกศรัทธาคืนมา

         ส่วนที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ เป็นเกมของ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด อันดับ 7 ในตาราง เล่นไป 28 นัด มี 39 คะแนน นัดที่แล้วเปิดบ้านพ่ายให้กับแบงค็อก ยูไนเต็ด ไป 1-2 ซึ่งจะพบกับ "มังกรไฟ 3 เค" บีอีซี เทโรฯ  ที่เพิ่งเปิดบ้านไล่ทุบ การท่าเรือไทย เอฟซี แบบหมดรูป 4-2 โดยผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งคู่เจอกันนั้น ปรากฏว่า พัทยา บุกไปชนะมาได้ก่อน 3-2 ที่สำคัญ สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 จะดำเนินการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 18.00 น.
         นัดนี้ พัทยา ยูไนเต็ด จะไม่มีกองกลางอย่าง ธีระเวคิน สีหวงศ์ กับ ปฏิพน เพชรวิเศษ กองหน้าตัวสำคัญที่ติดโทษแบน แต่เตรียมน่าที่จะใช้ ธนา ชะนะบุตร ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ลูโดวิค ทาคาม แถมยังจะมี สันติ ไชยเผือก กับ อิทธิพล พูลทรัพย์ เดินเครื่องแดนกลางตามเดิม
         โดยที่ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ "โลมามหาภัย" กล่าวว่า "เกมนี้ผมคิดว่าเราน่าจะกลับมาพร้อมกว่านัดที่ผ่านๆ มา และเราต้องการเรียกลบสถิติ ไม่ชนะใครในเกมไทยลีกมา 8 นัด ซึ่งคิดว่าน่าจะทำได้ไม่ยากนัก"   

"บัตเลอร์" กดดันต้องจบกลางตาราง

         ส่วนบีอีซี เทโรฯ อดีตยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลไทย จะไม่มี ทัศนา แช่มสะอาด กับ อังเจลโล่ ปาชูก้า ที่ติดโทษแบน อย่างไรก็ดีพวกเขายังมีทีเด็ดอย่าง อานนท์ สังสระน้อย กองหน้าตัวหลักที่โชว์ฟอร์มซัดแฮตทริกในเกมที่แล้ว ซึ่งจะมาผนึกกำลังกับ   

"ลีซอ" ธีรเทพ วิโรทัย ในแดนหน้า

         ซึ่ง ปีเตอร์ บัตเลอร์ กุนซือชาวอังกฤษของ "มังกรไฟ 3 เค" ให้สัมภาษณ์ถึงเกมนี้ว่า "เกมที่แล้วนักเตะทุกคนแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีศักยภาพมากแค่ไหน และเกมที่เราจะบุกไปเยือน พัทยา ยอมรับตามตรงว่าเป็นเกมที่หนัก เพราะผมอยากจะทำทีมด้วยการจบในอันดับกลางตาราง หากผลการแข่งขันในนัดนี้ไม่ดี อาจจะส่งผลถึงเหล่าสปอนเซอร์ของทีมอีกด้วย"   

"โปลิศ" ขอดับ "พลังเอ็ม" ในรังตัวเอง

         คู่สุดท้ายที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นเกมระหว่าง "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ อันดับที่ 9 มี 33 คะแนน เกมล่าสุดเปิดบ้านพ่ายให้กับ ราชนาวี-ระยอง ไป 2-3 ซึ่งจะเปิดรังรับการมาเยือนของ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเทพ เปิดรังไล่ถล่มบางกอกกล๊าส เอฟซี ไป 4-1 โดย สตาร์ซอคเก้อร์ทีวี ดีทีวี 51 จะดำเนินการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 18.00 น.
         สภาพความพร้อมเกมนี้ของทางเจ้าถิ่นอย่าง อินทรี เพื่อนตำรวจ ไร้ปัญหาผู้เล่นที่ติดโทษแบน แต่ ทาคาฮิโร่ คาวามูระ จอมทัพจากแดนซามูไร กลับได้รับอาการบาดเจ็บใด ส่วนนักเตะที่คาดว่าน่าจะลงสนามนั้น คงน่าจะยืนหยัดชุดที่บุกไปเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี อาทิ ธนพัต ณ ท่าเรือ เครื่องจักรในแดนกลาง, ชาคริต บัวทอง ปีกขวาที่เพิ่งซัดแฮตทริกไปในเกมที่แล้ว รวมทั้ง จักรพันธ์ พรใส ปีกซ้ายความเร็วสูง
         โดย "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ช "สุภาพบุรุษโล่เงิน" กล่าวว่า "เกมนี้เราได้ศึกษาการเล่นของพวกเขาเป็นอย่างดี และรู้อีกด้วยว่า ราชนาวี เป็นทีมที่เล่นนอกบ้านในฤดูกาลนี้ไม่ดีนัก ซึ่งผมคงจะต้องสั่งให้ลูกทีมเล่นบอลแบบทะลุทะลวง และเก็บชัยชนะให้ได้"   

โอสถฯ หวังเก็บชัยติดต่อกัน

         ด้าน โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี มีปัญหาที่ วันใหม่ เศรษฐนันท์ แบ็กขวาของทีมยังคงมีอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง แถมนักเตะหลายรายยังมีอาการล้า ถึงอย่างไร "โรนัลโด้ 2" คลีตัน ซิลวา ยังคงเดินเกมรุกอย่างแน่อน พร้อมด้วย โอลอฟ วัตสัน กองกลางจากสวีเดน
         ซึ่ง "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือใหญ่ของ "พลังเอ็ม" กล่าวว่า เรารู้สไตล์การเล่นของคู่แข่งเป็นอย่างดี เพราะเขามีกองหน้าที่คล่องและเร็ว แต่ก็มั่นใจว่าจะหยุดยั้งได้อย่างแน่นอน เพื่อ 3 แต้ม ที่ต้องการในเกมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • บังยีขอฟีฟ่าใช้เปาหลังโกลช่วยตัดสินไทยลีก
    "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย เตรียมขออนุญาต ฟีฟ่า ทดลองใช้ผู้ตัดสินหลังประตูเป็นกรณีพิเศษ ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เพื่อความยุติธรรม กับทีมลุ้นแชมป์ และหนีตกชั้น พร้อมเผย โครงการแลกเปลี่ยนผู้ตัดสิน ระหว่าง ไทย , เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น อีกด้วย
  • น้าเหม่งหวังแข้งเทพรอดแม้โอกาสเหลือน้อย
    "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด หวังพาทีมหนีตกชั้น แม้รับโอกาสจะเลือนรางก็ตาม ชี้เกมที่เหลือต้องเก็บชัยทุกนัด และลุ้นให้ ราชนาวี -ระยอง ไม่มีแต้มใน 2 นัดสุดท้าย เพราะ เฮด ทู เฮด ทีมแข้งเทพ ดีกว่า
  • แรบบิทเล็งโค้ชไทยคุมปีหน้า,คาดง้วนคัมแบ็ค
    "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีม "เดอะกล๊าส แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี แย้มโผปีหน้ากุนซือเป็นคนไทย หลังได้ปลด คาร์ลอส อัลแบร์โต้ คาร์วัญโญ่ กุนซือชาวบราซิลออกจากตำแหน่งไปแล้ว คาด "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ คัมแบ็คอีกครั้ง
  • โปฮังฯยันจีบลีซอ-เจ้าตัวลังเล
    โปฮัง สตีลเลอร์ส ยอดทีมจาก เคลีก เกาหลีใต้ ยังตามจีบ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกดีกรีทีมชาติไทย ไปเสริมทัพทางริมเส้นด้านขวา เจ้าตัว รับคุยกันจริง แต่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าจะไปเล่น เคลีก หรืออยู่ช่วย บีอีซี เทโรฯ ในซีซั่นหน้า

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »