สโมสรไทยลีกพร้อมใจ เตรียมเสนอเพิ่มจำนวนทีมปีหน้า เป็น 18 ทีม หลังเห็นการพัฒนาลีกอาชีพของไทยก้าวอย่างรวดเร็ว จนเป็นหนึ่งในอาเซี่ยน ทั้งนี้ต่างเห็นพร้อมต้องกันว่า หากเพิ่มทีมจะเป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มอาชีพให้กับนักเตะและโค้ช ขณะเดียวกันผู้ตัดสินได้เฮด้วย เมื่อหลายเสียงยกมือให้เพิ่มเงินผู้ตัดสินต่อเกมคนละ 5 พันบาท 

       หลังจากที่ฟุตบอลไทยลีกของไทย ได้รับการยอมรับไปทั่วทวีปเอเชีย ถึงการพัฒนาที่รวดเร็วแบบก้าวกระโดด มีสโมสรและทีมฟุตบอลที่เกิดมากที่สุด ทำให้ผู้แทนทีมสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะทีมที่เล่นในลีกสูงสุด ต่างก็มีแนวความคิดที่จะเสนอให้ ส.ฟุตบอล ทำการพิจารณาเกี่ยวกับการเพิ่มทีมในไทยลีกในปีหน้าจากเดิม 16 ทีมเป็น 18 ทีม

         โดย ระวิ โหลทอง บอสใหญ่ของทีมสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ออกมาสนับสนุนแนวความคิดดังกล่าว พร้อมกับให้เหตุผลว่า "ทุกวันนี้ลีกอาชีพของไทย ต้องยอมรับว่า เดินทางมาดีพอสมควร และเป็นหนึ่งในย่านอาเซี่ยน จึงจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องพัฒนาให้ก้าวไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มจำนวนทีมจาก 16 ทีม เป็น 18 ทีม ทั้งนี้ จะเป็นการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลไทยลีก ให้มีความแข็งแกร่งขึ้น และที่สำคัญเป็นการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับนักเตะและโค้ชด้วย"

         "ทุกวันนี้ในประเทศไทย มีทีมฟุตบอลที่กำลังก้าวเป็นทีมอาชีพกว่า 100 ทีม เริ่มตั้งแต่ทีมจากดิวิชั่น 2 ที่มีทั่วประเทศถึง 74 ทีม, ทีมในดิวิชั่น 1 จำนวน 16 ทีม, ทีมในไทยลีกจำนวน 16 ทีม ซึ่งสโมสรเหล่านี้ ล้วนแต่สร้างรายได้ให้กับนักเตะและโค้ช แทบทั้งสิ้น เพียงแต่ในระดับลีกล่างรายได้อาจจะน้อย แต่ถ้าเรามีการเพิ่มจำนวนทีมในระดับไทยลีกขึ้นไป ทีมในดิวิชั่น 1 จะเพิ่มตามเข้ามา สิ่งที่เป็นผลดีคือ นักเตะจะได้มีรายได้มากขึ้น    

ยกมือเพิ่มเงินผู้ตัดสิน

         ขณะเดียวกัน ระวิ โหลทอง ยังได้เปิดเผยถึงการเสนอโครงการการให้ ส.ฟุตบอล พิจารณา เกี่ยวกับการเพิ่มเงินค่าเหนื่อยในการตัดสินให้กับเชิ๊ตดำ คนละ 5,000 บาทต่อนัด ทั้งนี้เพื่อปรับโครงสร้างให้กรรมการตัดสินผันตัวเองมาเป็นผู้ตัดสินอาชีพ ทำอาชีพอย่างเดียวในวันข้างหน้า

         "ผู้ตัดสินควรได้รับค่าตอบแทนในการตัดสิน เพิ่มเป็นคนละ 5,000 บาท ต่อ 1 นัด ทั้งนี้เพื่อที่จะให้กรรมการตัดสิน มีกำลังใจ และมีความมุ่งมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยกระดับกรรมการตัดสิน ให้เป็นมืออาชีพอย่างเดียวในวันข้างหน้า 

         ซึ่งหากว่า ค่าตัดสินเพิ่มมากขึ้น  จะส่งผลให้กรรมการสามารถตัดสินใจได้ว่า จะเลือกเป็นกรรมการอาชีพ หรือเลือกที่จะทำงาน และที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด การเพิ่มเงินตัดสิน จะเป็นตัวที่ชี้ชัดลงไปถึงการทำหน้าที่ เพราะหากว่ากรรมการบางคนที่ผิดตัดแล้วผิดพลาดจนโดนลงโทษ เขาย่อมสูญเสียรายได้ในส่วนตรงนี้ไป"