ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » เจ้าท่าดุรัว5-0,กูปรีหนีตาย4-0,ม้านิลฮึด3-3,แข้งเทพร่วง

เจ้าท่าดุรัว5-0,กูปรีหนีตาย4-0,ม้านิลฮึด3-3,แข้งเทพร่วง

Posted 18/10/2010 by siamsport

 

     "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ยังมีฮึดลุ้นหนีตกชั้นต่อ หลังเปิดบ้าน โชว์ฟอร์มเก่ง ไล่ถล่ม "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 4-0 ขณะที่ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ได้ วิลสัน โดส ซานโต๊ส กระหน่ำแฮตทริก ช่วยชีวิต ตีเสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทดเจ็บ 3-3 ส่วน "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด โบกมือลาไทยลีก เรียบร้อยแล้ว หลังพ่าย ทีโอที คาบ้าน 1-2 ขณะที่ การท่าเรือไทย เอฟซี จัดการเลี้ยงส่ง ทหารบก ไปแบบเละเทะ 5-0 ฟุตบอลไทยลีก

       การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" เลกสอง นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 17 ต.ค. 2553     

ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 4-0 ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 

       ที่สนามศรีนครลำดวน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 14 ของตาราง แข่ง 27 นัด มีอยู่ 23 แต้ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับ 11 แข่ง 28 นัด มีอยู่ 31 แต้ม โดยคู่นี้เคยพบกันมาในเลกแรกปรากฏว่าเสมอกันมา 0-0

         เกมนี้เจ้าถิ่นต้องการ 3 แต้มอย่างมาก เพื่อหวังทำแต้มในการลุ้นรอดตกชั้นต่อไป โดย วิสูตร วิชายา เฮดโค้ชศรีสะเกษ จัดผู้เล่นทัพใหญ่ลงสนามพร้อมหน้า นำโดย เทวา ศรีธรรมานุสาร, ไพโรจน์ อนันตณรงค์, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น และ วิคเตอร์ อมาโร่

         ขณะที่ โจเซ่ อัลเวช เบอร์วิส กุนซือทีทีเอ็ม ส่ง ไกรสรณ์ ศรียันต์ ดาวยิงฟอร์มฮอตที่เพิ่งเหมาคนเดียว 2 เม็ดพาทีมไล่เจ๊าเมืองทองฯ ยูไนเต็ด สุดมันส์ 2-2 ลงล่าตาข่ายคู่กับ วัลซี่ จูเนียร์ นอกจากนั้นยังมี กอบเดช ชอบมโนธรรม, เจษฎา บุญเรืองรอด และ ณรงค์ จันทร์เสวก ลงสู้ศึก

         เริ่มเกมครึ่งแรก เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น ศรีสะเกษ ก็มาได้ลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่ เทวา ศรีธรรมานุสาร ปั่นไม่ตรงกรอบ

         น.11 ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร อาศัยจังหวะสวนกลับเร็ว บอลไหลมาถึง ไกรสรณ์ ศรียันต์ ได้ซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย วัชรพงษ์ กล้าหาญ ปัดทิ้งออกหลังหวุดหวิด และจากลูกเตะมุม ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดเข้าเขตโทษให้ วัลซี่ จูเนียร์ โขกเต็มหัว แต่ หัตฐพร สุวรรณ ยังไวสกัดทิ้งไว้ได้จากเส้นประตู

         หลังจากนั้นเป็นทางด้านของศรีสะเกษ ที่โหมเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก นาทีถัดมา กิตติศักดิ์ ใจหาญ แทงบอลทะลุช่องให้ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ได้กระหน่ำเต็มข้อด้วยเท้าขวาแต่ไปติดขาของ ทศพร ศรีเรือง ออกหลังไป

         น.15 ยอน ดอง คิม ทำชิ่งกับ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ก่อนจะหลุดเข้าไปซัดเต็มแรง แต่ ทศพร ศรีเรือง โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้อีกครั้ง ให้หลังเพียง 2 นาที ยอน ดอง คิม พาบอลล็อกเข้าเขตโทษก่อนจะหาจังหวะยิงอีกครั้ง แต่ ทศพร ศรีเรือง นายทวารทีมเยือนก็ยังไม่พลาด

         น.24 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่น เมื่อ ยอน ดอง คิม เปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษ แล้วก็เป็น วิคเตอร์ อมาโร่ ที่โฉบเข้ามาโหม่งเข้าไปไม่เหลือซาก ศรีสะเกษ นำ 1-0

         หลังจากได้ประตูขึ้นนำทำให้ศรีสะเกษเล่นง่ายขึ้น น.33 เทวา ศรีธรรมานุสาร ไหลบอลให้ วิคเตอร์ อมาโร่ สับไกเต็มข้อระยะ 35 หลาไปเข้าซอง ทศพร ศรีเรือง

         น.35 ศรีสะเกษ เกือบได้ประตูที่สอง เมื่อ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ไหลเข้ากลางให้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ป้ายต่อไปทางด้านขวาให้ ไพโรจน์ อนันตณรงค์ ชิพบอลข้ามหัวนายทวารทีมเยือน แต่บอลดันไปชนคานเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

         ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าถิ่นยังเดินหน้าบุกต่อไป น.40 ศรีสะเกษ ได้ฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ยอน ดอง คิม เล่นเร็วให้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ที่เห็น ทศพร ศรีเรือง กำลังโวยผู้ตัดสินอยู่ จึงตัดสินใจชิพบอลเร็วทันที แต่แรงเกินไปข้ามคาน

         นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านเกือบได้เพิ่ม เมื่อ กิตติศักดิ์ ใจหาญ เปิดฟรีคิกโค้งเข้าหาประตู ทศพร ศรีเรือง ชกทิ้งมาเข้าทาง ไพรสณ ฮุนทวีชัย ยิงสวนทันที แต่ไปติดขา ยามาโมโตะ กองหลังทีมเยือนสกัดทิ้งหวุดหวิด หมดครึ่งแรกศรีสะเกษ ออกนำก่อน 1-0

         ครึ่งหลังโจเซ่ อัลเวซ เบอร์วิส กุนซือทีทีเอ็ม แก้เกมด้วยการส่ง ธนา ศรีพันดร ลงเล่นแทน ณรงค์ จันทร์เสวก แต่เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ถึงนาที ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ก็หลุดเข้าไปกดเต็มข้อที่เสาแรกบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปให้ศรีสะเกษหนีห่างเป็น 2-0

         น.56 สถานการณ์ของทีมเยือนยิ่งแย่ไปใหญ่เมื่อ ธนา ศรีพันดร ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังไปเจตนาเสียบผู้เล่นศรีสะเกษอย่างหนัก สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกไป ทีทีเอ็มเหลือ 10 คน

         น.60 ศรีสะเกษ ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 จากการหลุดเข้าไปซัดมุมแคบของไพโรจน์ อนันตณรงค์

         น.80 เทวา ศรีธรรมานุสาร เปิดฟรีคิกจากกลางสนาม ทศพร ศรีเรือง นายทวารทีมเยือนออกมาชกบอลไปเข้าทาง ทัตพงษ์ หล้าธรรม ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาใหม่ แปสวนทันทีไม่เหลือ ศรีสะเกษ หนีไปไกล 4-0

         หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลา ศรีสะเกษ เปิดบ้านถล่ม ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ไปได้ขาดลอย 4-0 เก็บ 3 แต้มอันล้ำค่าไว้ได้สำเร็จ เพิ่มโอกาสในการลุ้นหนีตกชั้นต่อไป 

       วาทะโค้ช 
         วิสูตร วิชายา กุนซือ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : วันนี้นักเตะทุกคนแสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ ซึ่งชัยชนะครั้งสำคัญในเกมนี้ น่าจะทำให้เราได้อยู่บนลีกสูงสุดของเมืองไทยต่อไป
         โจเซ่ อัลเวซ เบอร์วิส กุนซือ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : สนามและสภาพอากาศวันนี้ มีผลกับการเล่นของเรามาก ที่สำคัญเราแทบไม่มีการหมุนเวียนนักเตะ ทำให้ตัวหลักหลายคนเริ่มแสดงอาการอ่อนล้าให้เห็น อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าสุดท้ายเราจะไม่ตกชั้น 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : วัชรพงษ์ กล้าหาญ 6.5, สุพรรณ หาดคำ 6.5, เทวา ศรีธรรมนานุสาร 7, ไพโรจน์ อนันตณรงค์ 7.5 (โคเน่ อดาม่า 5.5), ปิยะวัฒน์ ทองแม้น 7, ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย 6.5, วิคเตอร์ อมาโร่ 7, เอ็นยี่ ดิวิเน่ 7, กิตติศักดิ์ ใจหาญ 7 (ทัตพงษ์ หล้าธรรม 6), ยุน ดอง คิม 7 (ประลอง สาวันดี 5.5), หัตฐพร สุวรรณ 7
         ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : ทศพร ศรีเรือง 6, ฮิโรยูกิ ยามาโมโต้ 6, ณรงค์ จันทร์เสวก 6 (ธนา ศรีพันดร 4.5), เจษฎา บุญเรืองรอด 6, กอบเดช ชอบมโนธรรม 6, วัชระ มหาวงศ์ 6, วัลซี่ จูเนียร์ 6,ดีเอโก้ มาร์ติน 6 (สาลาฮูดิน อาแว 5), โคเบนาน เอ็นกวตด้า 6, นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์ 6, ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ไพโรจน์ อนันตณรงค์ กองหน้าของ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี
 

 

ราชนาวี-ระยอง 3-3 บางกอกกล๊าส เอฟซี 

       ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตาราง ลงสนามไปแล้ว 28 เกม มี 29 คะแนน เปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ "เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ลงเล่นไปแล้ว 28 นัด เก็บได้ 43 คะแนนรั้งอันดับ 5 ของตาราง โดยผลงานการเจอกันในเลกแรก บางกอกกล๊าส เอฟซี ชนะ ราชนาวี-ระยอง 5-0

         เกมนี้ ราชนาวี-ระยอง ไม่มีทางเลือกต้อง 3 แต้มสถานเดียว เพื่อดิ้นรนหนีจากการตกชั้น โดย เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว เฮดโค้ช จัดทัพใหญ่ลงสนามเต็มอัตรารบ ผู้รักษาประตูเป็น โกสินทร์ เหมบุตร แนวรับจากขวาไปซ้าย ชณธวัฒน์ ศรีสุข, ยันนิค จอร์จส์, ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง และ จาง กิล ฮยอค แดนกลางมี วิลสัน โดส ซานโต๊ส, ภานุวัฒน์ กองจันทร์, สุทธินันท์ นนที, จาง กิล ยอง คู่หน้า จีเนป้า ดีดี้ ล่าตาข่ายร่วมกับ สมเจตร สัตบุษ

         ด้านผู้มาเยือน เกมนี้ต้องขาดผู้เล่นตัวหลักไปถึง 3 คน กฤษณะ กลั่นกลิ่น, มูสซา ซิลล่า และ วิชยา เดชมิตร ที่ติดโทษแบน โดย ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ที่รับหน้าที่สั่งการเอง ส่ง กฤษกร เกิดผล ยืนเฝ้าเสา แผงหลังมี ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, อำนาจ แก้วเขียว, ภานุวัฒน์ ไฟไหล และ ศุภชัย คมศิลป์ ตรงกลางสนามเป็นหน้าที่ของ ปีเตอร์ แลง, อนาวิน จูจีน, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ และ คูนิฮิโกะ ทากิซาวะ คู่หัวหอกเป็น ซามูเอล อาจายี่ กับ ไมเคิ่ล เบิร์น

         เริ่มเกมมา ราชนาวี-ระยอง เปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที แต่ทว่า กลับเป็นผู้มาเยือนที่ได้ประตูออกนำ น.2 จังหวะโต้กลับ อนาวิน จูจีน พาบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองก่อนจะผ่านต่อให้กับ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ลากเข้าไปอัดมุมแคบ แม้ว่า โกสินทร์ เหมบุตร นายทวารเจ้าบ้าน จะปัดได้ แต่ด้วยความแรงทำให้บอลปลิ้นเข้าประตูไป เปลี่ยนสกอร์ให้ บางกอกกล๊าส เอฟซี ขึ้นนำ 1-0

         หลังมีสกอร์ เกมเริ่มเปิดโดยทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก น.11 เจ้าบ้านก็มาได้ลุ้นจังหวะแรกเมื่อ จาง กิล ฮยอค แทงบอลทะลุแนวรับ "บีจี" ให้ จาง กิล ยอง หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะปาดเรียดเข้าไปกลางประตูแต่ถูก ศุภชัย คมศิลป์ เคลียร์ออกไปได้ทัน

         น.23 พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ มิดฟิลด์ "เดอะกล๊าส แรบบิท" ได้โอกาสส่องไกลจากระยะกว่า 35 หลา แต่คราวนี้ โกสินทร์ เหมบุตร ไม่พลาดชกบอลออกไปได้

         เจ้าบ้านดูจะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่ในพื้นที่สุดท้ายทีเด็ดทีขาดในแนวรุกยังไม่สามารถทำอะไรแผงหลัง บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ถนัด

         น.21 สุทธินันท์ นนที ได้ลองปั่นฟรีคิกจากบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป

         ยังเป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสลุ้นอย่างต่อเนื่อง น.23 สุทธินันท์ นนที ได้ส่องไกลจากนอกกรอบอีกหน แต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้า

         บุกอยู่เพลินๆ สำหรับ ราชนาวี-ระยอง แต่ก็เกือบจะต้องมาสังเวยประตูที่ 2 จากจังหวะโต้กลับของ "บีจี" พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ วางบอลยาว ไปให้กับ ซามูเอล อาจายี่ ควบบอลเข้าไปในกรอบ ก่อนจะดึงจังหวะหลอก ยันนิค จอร์จส์ และจัดการยิง แต่ถูกปฏิเสธโดย โกสินทร์ เหมบุตร นายทวารเจ้าบ้านที่ปัดออกไปได้

         และแล้วความพยายามของทีม "ม้านิลมัง" ก็เป็นผล น.29 มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ อนาวิน จูจีน ไปกระแทกข้างหลัง จาง กิล ยอง ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสิน ถนอม บริคุต ชี้ไปที่จุดโทษทันที และเป็น วิลสัน โดส ซานโต๊ส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ ราชนาวี-ระยอง ตีเสมอ 1-1 

         จากนั้นทั้งสองทีม ยังเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก ราชนาวี-ระยอง เสมอกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี อยู่ 1-1

         ครึ่งหลังเริ่มได้เพียงแค่ 3 นาที บางกอกกล๊าส เอฟซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ ซามูเอล อาจายี่ ควบบอลลุยเดี่ยวจากแดนตัวเอง ฝ่าแนวรับของ ราชนาวี-ระยอง เขาไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะถูก ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง กองหลังเจ้าบ้าน รวบล้มลงผู้ตัดสินเป่าให้ทีมเยือนได้จุดโทษทันที และเป็น ไมเคิ่ล เบิร์น ที่รับหน้าที่ กดเข้าไป แม้ โกสินทร์ เหมบุตร จะปัดได้แต่ก็ไม่พ้น

         น.52 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากฟรีคิกของ วิลสัน โดส ซานโต๊ส แต่ทว่า ลูกยิงของเจ้าตัวเบาเกินไปทำให้ กฤษกร เกิดผล รับไว้ได้สบายๆ

         น.59 ราชนาวี-ระยอง น่าจะตามตีเสมอได้อีกครั้งจากลูกฟรีคิกของ สุทธินันท์ นนที ที่เปิดเข้าไปหน้าประตูของบางกอกกล๊าส เอฟซี และเป็น ภาณุวัฒน์ กองจันทร์ ที่ปรี่เข้าไปยิง แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย

         ทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันคนละหมัด น.67 บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้เสียวอีกครั้ง จากลูกฟรีคิกของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ บอลทำท่าว่าจะมุดเสียบใต้คาน แต่ โกสินทร์ เหมบุตร นายทวารเจ้าบ้านยังรับไว้ได้

         น.71 ทีมเยือนได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะอีกครั้ง ศุภชัย คมศิลป์ เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปหน้าประตูให้ ปีเตอร์ แลง ที่ได้เทกตัวขึ้นโขก แต่บอลโดนไม่เต็มหัว จึงลอยไม่มีทิศทางออกหลังไปไกล

         เกมของบางกอกกล๊าส เอฟซี กดดันแนวรับเจ้าบ้านได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ซามูเอล อาจายี่ ที่พาแผงหลังของราชนาวี-ระยอง ทัวร์ เป็นว่าเล่น แต่ก็ยังยิงประตูเพิ่มไม่ได้

         น.78 "เดอะกล๊าสแรบบิท" ก็หนีห่างไปเป็น 3-1 จากความยอดเยี่ยมของ ซามูเอล อาจายี่ ที่ฉีกแนวรับเป็นชิ้นๆ ก่อนจะถวายพานให้ พอล เอ็คโคลโล่ ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงสนามมา ได้หลุดเข้าไปกระทุ้งผ่านมือ โกสินทร์ เหมบุตร เข้าไปอย่างสวยงาม

         นาทีถัดมา วิลสัน โดส ซานโต๊ส ของราชนาวี-ระยอง ได้โอกาสสับไกในกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ไปเข้ามือ กฤษกร เกิดผล ที่ทิ้งตัวรับไว้ได้

         น.84 จากการประสานงานกันอย่างสวยงามของนักเตะ "บีจี" เริ่มจาก ซามูเอล อาจายี่ ต่อให้ พอล เอ็คโคลโล่ ก่อนจะโยนข้ามไปให้ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เอาบอลลงและกดจากนอกกรอบ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

         เจ้าบ้านมาได้ลูกจุดโทษลูกที่ 2 ในเกมนี้เมื่อ ธฤติ โนนศรีชัย ของบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เพิ่งเปลี่ยนลงสนามไปทำฟาวล์ สมเจตร สัตบุษ ในเขตโทษและเป็น วิลสัน โดส ซานโต๊ส ที่รับหน้าที่สังหารครั้งแรก ยิงไปติดเซฟของ กฤษกร เกิดผล แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เนื่องจากมีผู้เล่นของบางกอกกล๊าส เอฟซี เข้าไปในกรอบ และครั้งที่ 2 วิลสัน โดส ซานโต๊ส ก็ไม่พลาดยิงเข้าไปให้เจ้าบ้านไล่มาเป็น 2-3

         เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ "เดอะกล๊าสแรบบิท" แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย วิลสัน โดส ซานโต๊ส ก็สวมบทฮีโร่ จากจังหวะที่กองหลังบางกอกกล๊าส เอฟซี เคลียร์บอลไม่ขาด มาเข้าทางปืน วิลสัน โดส ซานโต๊ส ที่วอลเล่ย์สวนตูมเดียว จากนอกกรอบบอลพุ่งแฉลบกองหลังทีมเยือนเข้าประตูงามหยดช่วยให้ ราชนาวี-ระยอง ตีเสมอ 3-3 แบ่งแต้มกลับคืนมาได้สำเร็จ ท่ามกลางความสะใจของแฟนบอลเจ้าบ้าน แต่ต้องไปลุ้นหนีตกชั้นในเกมสุดท้ายของฤดูกาล ที่จะออกไปเยือนทหารบก วันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. ที่จะถึงนี้ 

       วาทะโค้ช
         เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว กุนซือ ราชนาวี-ระยอง - โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเกมที่เหนื่อยมาก เพราะเราต้องการคะแนนเป็นอย่างมากในเกมนี้ ซึ่งเราก็โดนนำไปถึง 3-1 และเหลือเพียงแค่ 15 นาที แต่เราก็กลับมายิงตีเสมอได้สำเร็จพร้อมกับแบ่งแต้มได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งต้องชมนักเตะทุกคนที่ช่วยกันเล่นได้เป็นอย่างดี และขอบคุณกองเชียร์เป็นอย่างมาก ที่ให้กำลังใจทีมอยู่ตลอดเวลา

         ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ กุนซือ บางกอกกล๊าส เอฟซี - สำหรับเกมในวันนี้ เป็นเกมที่สนุกมากนักเตะทั้งสองทีมเล่นกันได้ดี ตลอดทั้ง 90 นาทีผลเสมอ 3-3 เราไม่แพ้แต่เราแพ้ผู้ตัดสินในเกมนี้ที่ทำหน้าที่ได้อย่างน่ากังขา อยากให้ทางสมาคมหรือผู้เกี่ยวข้องได้ดูเทปในเกมนี้แล้วพิจารณาดูว่าเป็นอย่างไร แต่หากท่านเห็นว่าการตัดสินถูกต้องแล้ว เราก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         ราชนาวี-ระยอง : โกสินทร์ เหมบุตร 5, ชณธวัฒน์ ศรีสุข 5, ยันนิค จอร์จส์ 5, ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง 4.5, จาง กิล ฮยอค 5.5, วิลสัน โดส ซานโต๊ส 8.5, ภาณุวัฒน์ กองจันทร์ 6, สุทธินันท์ นนที 6 (ติณภพ ศรีสถิตย์ 5), จาง กิล ยอง 5 (รัฐพร แซ่ตั๋น-), จีเนป้า ดีดี้ 5 (วุฒิชัย อะสุชีวะ 5), สมเจตร สัตบุษ 5.5
         บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษกร เกิดผล 5, ทนงศักดิ์ ประจักกะตา 5, อำนาจ แก้วเขียว 5, ภานุวัฒน์ ไฟไหล 6 (ธฤติ โนนศรีชัย4), ศุภชัย คมศิลป์5.5,   ปีเตอร์ แลง5, อนาวิน จูจีน5.5, พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์6.5, คูนิฮิโกะ ทากิซาวะ 5, ซามูเอล เบงก้า อาจายี่ 7.5 (สุธี สุขสมกิจ-), ไมเคิ่ล โทมัส เบิร์น 6 (พอล เอ็คโคลโล่ 6) 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : วิลสัน โดส ซานโต๊ส ผู้ยิงแฮตทริก ให้ ราชนาวี-ระยอง
 

 

การท่าเรือไทย เอฟซี 5-0 ทหารบก
 

       ที่สนามแพท สเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 4 ของตารางลงเล่น 28 นัด มีอยู่ 44 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง ที่ตกชั้นไปแน่นนอนแล้ว แข่งมา 28 นัดมี 22 คะแนน 

         เกมนี้ "เสือเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือ การท่าเรือไทย เอฟซี ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามพร้อมหน้า นำโดย "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ดาวยิงตัวเก่ง ที่สวมปลอกแขนลงเป็นกัปตันทีม, สมปอง สอแหลบ, มอยเซ่, พงษ์พิพัฒน์ คำนวน และ จีระวัฒน์ มัคคะรมย์

         ด้านทีมเยือน ทหารบก พล.ต.อำนาจ เฉลิมเชาวลิต กุนซือ พักผู้เล่นชุดใหญ่ไว้ข้างสนามเกือบยกทีม มีเพียงแค่ ธาตรี สีหา กับ ดาวุฒิ ดินเขต ที่ลงเป็นตัวหลัก แถม ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม และ ตระกูลฉัตร ทองใบ ยังติดโทษแบนอีกด้วย

         เริ่มเกมครึ่งแรก เพียงแค่ 2 นาที สิงห์เจ้าท่า ได้โอกาสทักทายก่อนทันที จากลูกฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ กองหลัง ทบ. เคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทาง ใหญ่ นิลวงษ์ หน้ากรอบโทษก่อนจะไหลบอลสั้นๆ ให้ วรวุฒิ วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาหลุดออกหลังประตูไป

         น.6 การท่าเรือไทย ผลิตสกอร์แรกจนได้ เมื่อ "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดตัดเข้ากลางประตูให้ ใหญ่ นิลวงษ์ ได้กระหน่ำเต็มข้อ เข้าไปตุงตาข่าย แม้ โคชิ จุน จะปัดได้ปลายมือก็ตามทีทำให้ การท่าเรือไทย นำไปก่อน 1-0

         น.10 ทหารบก พลาดโอกาสที่จะได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากจังหวะที่ ยูยะ ดาวเตะจากแดนปลาดิบ เบียดแย่งบอลจากบริเวณกลางสนามไปกับ มอยเซ่ ก่อนที่ ยูยะ จะหลุดเข้าไปดวลกับ มุนเซ่ อัลริช แต่ทว่าเจ้าตัวกลับดีดบอลไปติดเซฟออกหลังประตูไป

         น.15 เกมรุกของเจ้าบ้านยังคงเดินเครื่องบุกเข้าใส่อย่างหนัก ก่อนจะมาได้ประตูที่สอง เมื่อ พงษ์พิพัฒน์ คำนวน พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดยัดเข้ามากลางประตู เป็น โจ้ 5 หลา วิ่งมาแปบอลเข้าไปง่ายๆ ให้ ท่าเรือฯ นำ 2-0

         น.26 หลังจากโดนพังประตูขึ้นนำไปถึงสองลูก แต่ทีมก็ยังไม่เสียขวัญไปซะทีเดียว โดยมี ยูยะ เป็นทีเด็ดของทีมจังหวะนี้ มีโอกาสลุ้นพังประตูอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวหลุดไปในเขตโทษ ก่อนจะสับไกเต็มข้อ บอลทำท่าจะเสียบเสาสอง แต่ มุนเซ่ อัลริช ยังไวปัดออกหลังไปได้ทัน

         น.30 เกมของทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่โอกาสยังรุกและรับกันอย่างสนุกชนิดที่เรียกเสียงเชียร์จากแฟนบอลได้อย่างต่อเนื่อง คราวนี้เป็นแฟนเจ้าถิ่นเกือบได้เฮ เมื่อ พงษ์พิพัฒน์ หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะหักบอลเข้ากลาง แนวรับ ทบ. เคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทาง ใหญ่ นิลวงษ์ ที่เติมขึ้นขึ้นมาได้ซัดเน้นๆ บอลพุ่งทำท่าจะเสียบใต้คาน แต่ โคชิ จุน ยังไวบินปัดออกหลังไปได้

         หลังจากที่ ท่าเรือฯ ผ่านเกมรุกลงมาทำให้ ทหารบกพยายามเปิดเกมรุกหวังพังประตูตีไข่แตกให้ได้ น.35 ยูยะ ทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่นักเตะเลือดซามูไร จะแหวกแนวรับท่าเรือฯ เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะสับไกด้วยขวาหลุดออกหลังประตูไป

         น.40 ทหารบกมีโอกาสลุ้นพังประตูอีกครั้งเมื่อ นิพนธ์ คำทอง เก็บบอลได้บริเวณกลางสนามก่อนจะซัดบอลข้ามคานออกหลังประตูไป ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก การท่าเรือไทย เอฟซี นำ ทหารบก อยู่ 2-0 

         ครึ่งหลังเป็นทีมเยือนทหารบก ที่เล่นได้ดีกว่า และมีโอกาสก่อน น.49 เมื่อ อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ ลำเลียงบอลขึ้นมาจากบริเวณกลางสนามก่อนจะพาบอลเข้าหาเขตโทษ แล้วกดด้วยขวาเต็มข้อออกหลังประตูไป

         น.52 ทหารบกมีการปรับเกมส่ง วันชนะ รัตนะ ลงมาเล่นแทน ดุสิต ชุ่มชัยรัตน์เช่นเดียวกับท่าเรือฯ ที่ถอด สมปอง สอแหลบ ออกไปพักและให้ จาค็อบ บาเร่ ลงมาเล่นแทน

         น.61 จาค็อบ บาเร่ จะมีส่วนกับประตูที่สามของทีม เมื่อเจ้าตัวกระชากบอลจากกลางสนามเข้าไปบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะดึงแนวรับ ทบ. ที่เข้าไปรุมแย่งบอล ก่อนจะไหลให้ ศรายุทธ หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะหลุดเข้าไปแปบอลสวนทาง โคชิ จุน เข้าไปเสียบเสาสองอย่างสวยงามให้ การท่าเรือฯ นำเป็น 3-0

         แม้ว่าจะได้ประตูนำห่าง ทีมเยือนถึงสามตุง แต่เกมรุกไม่ได้ลดหย่อนลงไป กลับไปฝ่ายดาหน้าบุกเข้าใส่แบบวันเวย์ เริ่มจาก น.71 โจ้ 5 หลาเกือบจะกระหน่ำแฮตทริกให้กับตัวเอง เมื่อ จาค็อบ บาเร่ ที่เปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังมีส่วนร่วมกับทีมค่อนข้างเยอะ คราวนี้จ่ายบอลให้ศรายุทธหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะยิงยัดจากเสาแรกออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย

         น.79 ทั้งสองฝ่ายเริ่มจะผ่อนเกมลงมาพอสมควรทำให้โอกาสลุ้นยิงประตูนั้นค่อนข้างน้อย และการท่าเรือฯ ก็ทยอยส่งผู้เล่นตัวสำรองลงสนามคราวนี้ถอด ศรายุทธ ชัยคำดี ออก และส่ง เอกชัย ปรีชากุล ลงมาเล่นแทนทำให้เจ้าตัวหมดสิทธิ์ทำแฮตทริกส่งท้ายสนามในฤดูกาลนี้

         น.83 การท่าเรือฯ ก็มาได้ประตูที่สี่จนได้เมื่อ จาค็อบ บาเร่ ลำเลียงบอลจากบริเวณกลางสนามเข้าไปในเขตโทษก่อนจะจ่ายบอลให้ เอกชัย สำเร ที่เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาได้กระหน่ำเต็มตีนให้ท่าเรือฯ หนีห่างออกไปอีกเป็น 4-0 

         เท่านั้นยังไม่พอ น.88 ท่าเรือฯ มาได้ประตูที่ห้า เมื่อ ใหญ่ นิลวงษ์ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะหวดตูมเดียวเข้าไปในเขตโทษ โคชิ จุน ปัดบอลพลาดปลิ้นเข้าประตูไปให้ท่าเรือฯ นำ 5-0 

         ช่วงเวลาที่เหลือในช่วงท้ายเกมยังคงเป็น การท่าเรือฯ ที่เล่นได้เหนือชั้นกว่า ก่อนที่ ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินในเกมนี้ จะเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทำให้ การท่าเรือไทย เอฟซี เอาชนะ ทหารพบ ไปแบบขาดลอย 5-0 

       วาทะโค้ช
         สะสม พบประเสริฐ ผจก.ทีม การท่าเรือไทย เอฟซี - ถือเป็นเกมที่ดีอีกหนึ่งนัดในวันนี้การเล่นของลูกทีมค่อนข้างลงตัวเกือบหมด และนัดนี้ถือเป็นการปิดฉากการเล่นในบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม
         พล.ต.อำนาจ เฉลิมเชาวลิต กุนซือทหารบก - วันนี้ต้องชมว่าการท่าเรือฯ เล่นได้ดี และทีมเราก็เป็นรองเยอะ แต่ต้องขอขอบคุณลูกทีมทุกคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม

        คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         การท่าเรือไทย เอฟซี : มุนเซ่ อัลริช 7, วรวุฒิ วังสวัสดิ์ 6, ใหญ่ นิลวงษ์ 7, ศรายุทธ ชัยคำดี 7.5 (เอกชัย ปรีชากุล 5), จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ 6, พงษ์พิพัฒน์ คำนวน 6, มาริโอ ดา ซิลวา 6, สมปอง สอแหลบ 6 (จาค็อบ บาเร่ 6), เกียรติเจริญ เรืองปาน 6 (เอกชัย สำเร 6), พนา กาญจนสมศักดิ์ 6, มอยเซ่ 6
         ทหารบก : โคชิ จุน 5, สราวุธ ทองสวัสดิ์ 5, นิพนธ์ คำทอง 5, ธาตรี สีหา 5, สมพร ธัญญเจริญ 5 (คาโตะ ยาซูฮีโร่ -), ฉัตรชัย โมกเกษม 5, จักรกฤษณ์ เรืองสันเที๊ยะ 5, ยูยะ อิวาดะ 6, ดุสิต ชุ่มชัยรัตน์ 5 (วันชนะ รัตนะ -), อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ 5 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้ากัปตันทีมของ การท่าเรือไทย เอฟซี
 

 

แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-2 ทีโอที แคท เอฟซี 

       ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 15 ของตาราง มีอยู่ 23 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ทีมอันดับ 12 มีอยู่ 30 คะแนน โดยผลการพบกันในเลกแรก แบงค็อก ยูไนเต็ด ชนะ ทีโอที แคท เอฟซี 1-0 

         เกมนี้ถิ่นจำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้สถานเดียว เพื่อลุ้นหนีตกชั้น เกมนี้ไม่มี รุ่งโรจน์ สว่างศรี กองหลังของทีมที่ติดโทษแบน โดยมี ปฏิภาณ เพชรพูล, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, พลวัฒน์ ปิ่นกอง, ซารีฟ สายนุ้ย และ แม็กซิม ลงสนามเป็นแกนหลัก  ด้าน "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ ส่ง วิชา นันทะศรี, พลวัฒน์ วังฆะฮาด, อาทิตย์ ดาวสว่าง และ มิโลสลาฟ ทอธ ลงเป็นตัวชูโรง โดยจะไม่มี ครรชิต ชลรัตน์อมฤต ที่ติดโทษแบน 

         คู่นี้เริ่มเกมดีเลย์ไปประมาณ 25 นาที ก่อนที่จะเริ่มในครึ่งแรกเหตุ เพราะเจ้าบ้านชุดแข่งไม่พร้อม แค่ น.2 เจ้าบ้านก็มาได้โอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะฟรีคิกทางกรอบเขตโทษด้านขวา พลวัฒน์ ปิ่นกอง ยิงติดกำแพง บอลเด้งมาเข้าทาง อนนท์ บุณสุโข ซัดจังหวะเดียวไปติดบล็อกกองหลัง ทีโอที แคท เอฟซี

         สองทีมยังครองบอลต่อเกมกันไม่ค่อยถนัด เพราะสภาพสนามค่อนข้างแฉะ เนื่องจากช่วงเช้ามีฝนตกลงมา ใน น.8 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ซารีฟ สายนุ้ย พาบอลกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้สนขวาก่อนจะหีดเข้ากลางเป็นทางด้าน มาซาฮิโระ ฟูกาซาระ ที่เติมขึ้นยิงไปติดบล็อกของ พลวัฒน์ วังฆะฮาด

         น.10 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ซารีฟ สายนุ้ย พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากรอบเขตโทษ บอลเลยไปที่เสาสองเป็นทางด้าน แม็กซิม ที่ขึ้นโหม่งลูกนีไปติดเวฟตัวของ อดิศักดิ์ ดวงศรี ผู้รักษาประตู ทีโอที บอลเกือบจะไหลเข้าประตู แต่ผู้เล่นทีมเยือนเตะเคลียร์ออกมาได้ก่อน

         ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง น.15 จากจังหวะฟรีคิกทางด้านมุมกอบเขตโทษด้านขวา โจเซฟ ไทเรอร์ รับหน้าที่เปิดลูกนี้เข้าไปที่หน้าประตู เป็นทางด้าน มาเรียน จูฮาส ที่วิ่งเข้ามาโฉบโหม่งลูกนี้ แต่โดนไม่ดีบอลลอยโด่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย  น.17 ใบเหลืองใบแรกของเกมก็เกิดขึ้น โดยเป็นของทางด้านทีมเยือนจาก โจเซฟ ไทเรอร์

         ถัดมาเป็นทางด้าน แบงค็อก ยูไนเต็ด พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง น.20 จากจังหวะที่ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายที่ พลวัฒน์ ปิ่นกอง ก่อนจะเปิดโค้งเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วเป็นทางด้าน แม็กซิม ที่ขึ้นโหม่งสะบัดที่เสาแรก แต่ อดิศักดิ์ ดวงศรี ผู้รักษาประตู ทีโอที ยังทิ้งตัวลงไปปัดออกหลังไปได้นิดเดียว

         ทั้งสองทีมยังคงทำเกมได้ไม่ปะติดปะต่อ เพราะสภาพสนามที่แฉะและลื่น ต้องตัดเกมด้วยการทำฟาวล์กันหลายครั้ง จนทำใฟ้ผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองที่ 2 ของเกมให้กับ โฟฟาน่า กองกลาง แบงค็อก ยูไนเต็ด ในจังหวะที่เข้าปะทะกับผู้เล่นของ ทีโอที และตัวเองก็เจ็บด้วย

         เกมคงยังเปิดสู้กันอย่างสูสี ก่อนที่จะเป็นทางด้านทีมเยือน ที่มาประตูออกนำ น.33 จากจังหวะที่ มิโลสลาฟ ทอธ แทงจากกลางสนามทะลุแผงกองหลังให้กับ ไทเรอร์ หลุดเขาไปในกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วสับไกรยิงลูกนี้ไปแฉลบเท้าของ โคเน่ กองหลังเจ้าบ้านที่ตามเข้ามาบล็อกบอลลอยข้ามหัว วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูเข้าไป ทีโอที นำ 1-0

         เจ้าถิ่นมาได้ลูกฟรีคิก น.41 พลวัฒน์ ปิ่นกอง ที่เปิดลูกนี้เข้าไป โฟฟาน่า โหม่งเสยลูกนี้ไปเข้ามือของ อดิศักดิ์ ดวงศรี ผู้รักษาประตู ทีโอที ถัดมา น.42 จากจังหวะเปิดเกมขึ้นมาของทีมเยือน ธีรชัย งามเจริญ ได้บอลอยู่ทางด้านริมเส้นฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากลาง โคเน่ กองหลัง แบงค็อก กะจังหวะสกัดบอลพลาดมาเข้าทาง มิโสลาฟ ทอธ ได้ยิงเหน่งๆ ติดเซฟ วีระ เกิดพุดซา ทำให้จบครึ่งแรก ทีโอที แคท เอฟซี บุกมานำอยู่ 1-0

         ครึ่งหลัง น.47 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูเพิ่ม จังหวะที่ทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวเป็นทางด้าน ไทเรอร์ ที่เก็บบอลได้แล้วเป็นเข้ากรอบเขตโทษ โทมัส โคซาร์ ได้โหม่งจังหวะนี้บอลโค้งหลุดเสาออกหลังไป
         น.49 เป็นทางด้านทีมเยือนอีกครั้ง ที่ได้โอกาสลุ้นบวกสกอร์เพิ่ม เมื่อมาได้ลูกเตะมุม ไทเรอร์ เปิดลูกนี้เข้ามา กองหลังเจ้าบ้านโหม่งเคลียร์ออกมาเข้าทาง วิชา นันทะศรี ยิงสวนจังหวะเดียวเข้าไปบอล  แต่ไม่ดีพอบอลเหลี่ยวออกหลังไป

         ยังเป็นทีมเยือนที่เปิดเกมบุกมากกว่า และน่าจะได้ประตู น.56 จากจังหวะที่ มิโลสลาฟ ทอธ ได้บอลเลี้ยงตัดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะไหลให้ แอนตัน คูบาล่า ได้บรรจงปั่งเน่งๆ ระยะประมาณ 18 หลาบอลโค้งเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว

         เกม แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังไม่ดีขึ้น จนทำให้ ประพล พงษ์พานิช ต้องเปลี่ยนผู้ลงไปแก้เกมที่เดียวถึง 2 คน โดยส่ง วิทยา หมัดหลำ ลงไปเล่นแทน มาซาฮิโระ ฟูกาซาระ และ กามาร่า ลามี่ ลงไปแทน กิตติศักดิ์ ศิริแว่น และเป็นการเปลี่ยนผู้เล่นครบ 3 อีกด้วย

         ทีมเยือนหลังจากที่เปิดเกมยี้อย่างหนัก และก็มาได้ประตูที่ 2 น.74 จังหวะที่ทุ่มบอลทางด้านริมเส้นฝั่งขวา บอลมาที่ วิชา นันทะศรี เปืดบอลโค้งเข้ากลางประตู วีระ เกิดพุดซา พุ่งชกบอลอกกมาไปติดทางด้าน ไทเรอร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะซ้ำลูกนี้เข้าประตูไปให้ทีมเยือนหนีไปเป็น 2-0

         แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้จังหวะลุ้นประตูตีไข่แตก น.78 เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกกลางประตูระยะ 22 หลา เป็นทางด้าน แม็กซิม ที่รับหน้าที่ซัดลูกนี้บอลพุ่งเลียดผ่ากำแพงแต่ไม่ผ่านมือของทาง อดิศักดิ์ ดวงศรี ผู้รักษประตูทีมเยือนที่ล้มตัวรับไว้ได้

         เจ้าบ้านยังเปิดเกมบุกหนัก น.85 แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ ทรงศักดิ์ เฮมเขียว ทำเกมขึ้นมาทางขวาก่อนที่จะเปิดคอสเข้ามาในกรอบเขตโทษ เป็นทางด้าน แม็กซิม ที่กระโดดยิงลูกเข้าไปอย่างสวยงาม แบงค็อก ยูไนเต็ด ไล่มาเป็น 1-2

         เกมเริ่มเข้มข้น และเข้าสะกัดกันแรงขึ้น จนทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 น.88 เมื่อ โจเซฟ ไทเรอร์ โดนใบเหลือที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป แต่เจ้าถิ่นก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบเกม ทีโอที แคท เอฟซี เอาชนะไป 2-1 รอดพ้นจากการตกชั้นแล้ว ส่วน แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องตกชั้นลงไปสู่ ด.1 เป็นทีมที่ 2 ต่อจาก ทหารบก 

       วาทะโค้ช 
         ประพล พงษ์พานิช โค้ชทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด - น่าจะเป็นเกมที่เรากดดันเกินไป เห็นได้จากมาตฐานของนักเตะที่เล่นกันได้ต่ำกว่ามาตฐานของตัวเองอย่างชัดเจน ก็ต้องยอมรับกับผลที่ออกมา ซึ่งเราโทษใครไม่ได้ ก็ต้องสู้กันใหม่ในฤดูกาลหน้า เชื่อว่าปีเดียวจะกลับมาได้
         ณรงค์ สุวรรณโชติ โค้ชทีม ทีโอที แคท เอฟซี - ลูกทีมทำได้ดีเกมนี้ เราอยู่รอดแล้ว ตอนนี้เราต้องมองถึงอนาคตว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปในฤดูกาลหน้า เพื่อสร้างทีมของเราให้ขึ้นไปอยู่ที่สูงกว่านี้ ส่วนนักเตะที่เสริมฤดูกาลเราได้มองหาไว้บ้างแล้ว แต่ไม่ได้มากนักเพราะเราจะคงเด็กเก่าไว้ก่อน 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         แบงค็อก ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา 5, ปฏิภาณ เพชรพูล 5, ซาบี้ โคเน่ 5, พลวัฒน์ ปิ่นกอง 5.5, ทรงศักดิ์ เฮมเขียว 6, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น 5.5 (กามาร่า ลามี่ 5), มาซาฮิโระ ฟูกาซาระ 5.5 (วิทยา หมัดหลำ 5), ชีก โฟฟาน่า 5.5, อนนท์ บุญสุโข 5.5 (วุฒิพงษ์ เกิดกุล 5.5), ซารีฟ สายนุ้ย 6, แม็กซิม มัวดูบู 6
         ทีโอที แคท เอฟซี : อดิศักดิ์ ดวงศรี 6.5, ชูศักดิ์ สุวรรณา 6 (ทวีทรัพย์ สีนวนน้อย 5), มาเรียน จูฮาส 6, ธีรชัย งามเจริญ 6.5, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 6, อาทิตย์ ดวงสว่าง 6.5, วิชา นันทะศรี 7, โจเซฟ ไทเรอร์ 7, แอนตัน คูบาล่า 6, มิโสลาฟ ทอธ 7 (วิชาญ นันทะศรี-), โทมัส โคซาร์ 6 (เทวฤทธ์ จุลสม -) 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : โจเซฟ ไทเรอร์ กองกลางชาว สโลวาเกีย ของ ทีโอที แคท เอฟซี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ไทยลีกพร้อมใจเสนอเพิ่ม18ทีม,บวกค่าเหนื่อยเปา
    สโมสรไทยลีกพร้อมใจ เตรียมเสนอเพิ่มจำนวนทีมปีหน้า เป็น 18 ทีม หลังเห็นการพัฒนาลีกอาชีพของไทยก้าวอย่างรวดเร็ว จนเป็นหนึ่งในอาเซี่ยน ทั้งนี้ต่างเห็นพร้อมต้องกันว่า หากเพิ่มทีมจะเป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มอาชีพให้กับนักเตะและโค้ช ขณะเดียวกันผู้ตัดสินได้เฮด้วย เมื่อหลายเสียงยกมือให้เพิ่มเงินผู้ตัดสินต่อเกมคนละ 5 พันบาท
  • ปลาทูเตรียมทัพปีหน้าเผยได้แข้งใหม่แล้ว 6 ราย
    "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม แฟนบอลพร้อมใจจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ให้กับทีม หลังจบแมตซ์กับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด วันที่ 22 ต.ค.นี้ พร้อมยกพลทำศึก กลันตัน อินเตอร์ เนชั่นแนล ชาเลนจ์ คัพ ช่วงเดือน ธ.ค. ขณะที่แข้งใหม่ได้แล้ว 6 ราย เสริมสู้ศึกปีหน้า
  • ไทยลีกระอุ!!ฉลามชลเฝ้ารังฟัดบุรีรัมย์ช่อง11ยิงสด
    สะท้านปฐพี บิ๊กแมตช์ไทยลีก 2 ทีมลุ้นแชมป์ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง เปิดบ้านรับมือ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ อันดับ 3 ของตาราง จเด็จ มีลาภ กุนซือยอดทีมแดนบูรพา โวลั่นแผนการเล่นของทีมเยือนมาแบบหมดไส้หมดพุงแล้ว ฝั่ง "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม นายใหญ่ของทีมจากแดนอีสาน ฟุ้งขอบุกเก็บชัย เพื่อขึ้นรองจ่าฝูง และชิงเข้าป้ายคว้าแชมป์ให้ได้ เอ็นบีที 11 กรมประชาสัมพันธ์ รับหน้าที่ยิงสด เวลา 18.00 น. วันที่ 17 ต.ค. นี้
  • บังยีขอฟีฟ่าใช้เปาหลังโกลช่วยตัดสินไทยลีก
    "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย เตรียมขออนุญาต ฟีฟ่า ทดลองใช้ผู้ตัดสินหลังประตูเป็นกรณีพิเศษ ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เพื่อความยุติธรรม กับทีมลุ้นแชมป์ และหนีตกชั้น พร้อมเผย โครงการแลกเปลี่ยนผู้ตัดสิน ระหว่าง ไทย , เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น อีกด้วย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »