ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ชลฯเซ็งบุรีรัมย์ตี2-2หมดลุ้นแชมป์,โปลิศพัง1-2,พัทยา3-1

ชลฯเซ็งบุรีรัมย์ตี2-2หมดลุ้นแชมป์,โปลิศพัง1-2,พัทยา3-1

Posted 18/10/2010 by siamsport

 

    "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี หมดลุ้นแชมป์เรียบร้อยแล้ว หลังพลาดท่าโดน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ บุกมาไล่ตีเสมอ 2-2 ทั้งที่นำก่อนถึง 2-0 ด้าน "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี โชว์ฟอร์มเก่ง ยกพลบุกเชือด "โปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ คาบ้าน 2-1 ส่วน "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านเด็ดหนวด "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน 3-1 ฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

       การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" เลกสอง นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 17 ต.ค. 2553      

ชลบุรี เอฟซี 2 - บุรีรัมย์ พีอีเอ 2 

       ที่สนาม สพล.ชลบุรี เป็นเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูง ที่ลงแข่ง 28 นัด มี 58 แต้ม เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมอันดับ 3 ที่ลงลงสนามมา 27 นัด เก็บได้ 56 แต้ม โดยเกมนี้ "ฉลามชล" หากเก็บสามแต้มได้ จะรั้งรองจ่าฝูงต่อไป แต่ถ้าแพ้ จะถูก บุรีรัมย์ จะแซงนั่งแท่นรองจ่าฝูงทันที

         เกมนี้เจ้าถิ่น "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี จัดทัพใหญ่ มี สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เฝ้าเสา กองหลังส่ง ไพศาล โพธิ์นา กับ เคนเน็ธ ขันเกมรับ แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ แดนกลาง มี อาทิตย์ สุนทรพิธ กับ ภูริทัต จาริกานนท์ เป็นแกนหลักปั้นเกม ส่วนแนวรุกได้ เนย์ ฟาเบียโน่ ทะลวงเป้า คู่กับ พิภพ อ่อนโม้ กัปตันทีม

         ด้าน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ จัดทัพขบวนใหญ่ มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา วิงแบ็กซ้าย- ขวา ธีราธร บุญมาทัน กับ อภิเชษฐ์ พุฒตาล พร้อมกันนั้น ยังส่งโควตานักเตะต่างชาติลงพร้อมเพรียงกันถึง 5 รายเลยทีเดียว ประกอบไปด้วย อองรี โจเอล, หลุยส์ เอดูอาร์โด้, โคเน่ เซย์ดู, ดั๊กลาส คาร์โดโซ่ และ อันเดอร์สัน โดส ซานโต๊ส

         เริ่มครึ่งแรกได้เพียงนาทีเดียว เจ้าบ้านเกือบเผด็จได้ศึกก่อน จากจังหวะที่ เอกพันธ์ อินทเสน แทงบอลทะลุช่องให้ สุรีย์ สุขะ ลากบอลครอสข้ามฟากให้ ณัฐพงษ์ สมณะ เติมขึ้นมาซัดตูมเดียว บอลโด่งข้ามคานข่มขวัญนักเตะทีมเยือน ถัดมา

         น.5 ชลบุรี เอฟซี ได้ลูกเตะมุม ทางฝั่งขวา เป็นทางด้าน อาทิตย์ สุนทรพิธ ที่วางมาให้ พิภพ อ่อนโม้ โหนขึ้นโขกเต็มกบาล ทะลุตาข่ายไม่เหลือซาก ให้เจ้าบ้านผงาดนำอย่างรวดเร็ว 1-0

         น.7 บุรีรัมย์ ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกของ สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่ซัดจากระยะ 30 หลา แต่แนวรับของ "ฉลามชล" ยังนิ่งดักสาดเคลียร์บอลทิ้งอุตลุด อีก 2 นาทีต่อมา ทัพ "ปราสาทสายฟ้า" ลุยแหลกหวิดได้ประตูตีเสมอ จาก อภิเชษฐ์ พุฒตาล ที่ครอสบอลมาจากริมเส้นด้านขวา ทว่า สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยังนิ่งกระโดดปัดบอลข้ามคานไปได้

         น.15 ธีราธร บุญมาทัน เปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายให้ ดูดู้ โขกเต็มศีรษะ แต่เบาเข้าซองของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล รับสบายแฮ ถัดมานาทีเดียวกัน โคเน่ เซย์ดู เสียบ พิภพ อ่อนโม้ ล้มกลิ้งผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้เจ้าบ้าน ทำเอาแนวรับ "ปราสาทสายฟ้า" ไม่พอใจขว้างบอลลงพื้น โดนหัวผู้ตัดสิน แต่ไม่ฟาวล์

         น.17 "ฉลามชล" หวิดบวกเม็ดสอง เมื่อ เอกพันธ์ อินทเสน เหนี่ยวไกยิงในระยะ 10 หลา แต่ยิงเบาเข้าซองของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อีก 4 นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้ลุ้นเตะมุมยังเป็น อาทิตย์ สุนทรพิธ ที่วางเข้าไปในกรอบเขตโทษ แนวรับของ บุรีรัมย์ เคลียร์มาเข้าทางปืนของ ณัฐพงษ์ สมณะ วิ่งเข้าไปกดบอลหลุดเสาสอง

         น.25 ทีมเยือน ได้ฟรีคิก เป็นทางด้าน สุเชาว์ นุชนุ่ม วางให้ โคเน่ เซย์ดู โหม่งลงพื้น ยังติดเซฟ สินทวีชัย อีกนาทีเดียวกองหลัง บุรีรัมย์ ดันขึ้นสูงเป็นทางด้าน เนย์ ฟาเบียโน่ ที่โหม่งเช็ดให้ พิภพ อ่อนโม้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดในระยะเผาขน ให้ ชลบุรี หนีไปเป็น 2-0 เป็นประตูที่ 10 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้

         น.30 บุรีรัมย์ ได้เตะมุม 3 หนติด จังหวะแรก รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดมาลุ้นในกรอบเขตโทษ แต่สินทวีชัย ยังปัดออก ต่อมา รังสรรค์ วางให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ซัดจากแถว โดนหัว ภูริทัต จาริกานนท์ ออกได้เตะมุมอีกครั้ง หนสุดท้ายกองหลัง ชลบุรี ยังเคลียร์ เอาไว้ได้ 

         น.35 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูจากลูกฟรีคิกของ ดูดู้ แต่ซัดติดกำแพง ก่อนที่แนวรับของ ชลบุรี จะสาดบอลยาวพ้นพื้นที่สังหาร เข้าสู่ช่วง น.42 บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกเป็นทางด้าน รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่รับหน้าที่ยิง แต่ สินทวีชัย ยังนิ่งกระโดดปัดออกไปได้

         ช่วงท้ายเกม พิภพ อ่อนโม้ ได้กระชากบอลหนี โคเน่ เซย์ดู จะได้อยู่แล้ว แต่โดนสะกิดล้มบริเวณนอกกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินยังใจแข็งไม่เป่าเป็นฟรีคิกให้กับเจ้าบ้าน ก่อนที่ บุรีรัมย์ จะช่วงชิงความได้เปรียบด้วยการโต้กลับเร็ว และเกือบจะได้ประตู ตีไข่แตก จาก อภิเชษฐ์ พุฒตาล เปิดเข้ามาแต่ แนวรับของ ชลบุรี ยังเคลียร์กันได้ จบครึ่งแรก ชลบุรี ยังนำอยู่ 2-0

         ครึ่งหลัง ทัพฉลามชลบุกแหลก หวิดทะลวงตาข่ายตีไข่แตก จากจังหวะที่ เอกพันธ์ อินทเสน เปิดยัดเข้าเสาแรก แต่แนวรับของบุรีรัมย์สกัดบอลทิ้งหลัง ก่อนที่จะได้ลุ้นประตูจากลูกเตะมุมถึง 4 หนติด แต่เกมรับของทีมเยือนยังเคลียร์บอลทิ้งทุกจังหวะเสียว

         น.54 กองหลังชลบุรีขาตายปล่อยให้ ดั๊กลาส การ์โดโซ่ กระชากบอล เข้าไปสับไกยิงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดตูมเดียว เข้าเสาสองให้บุรีรัมย์ไล่มาเป็น 1-2 อีก 5 นาทีต่อมา "ฉลามชล" หวิดได้ประตูทิ้งห่างอีกครั้ง จากจังหวะที่ อาทิตย์ สุนทรพิธ ลากบอลหนีการไล่ล่าของ เฮนรี่ โจเอล ก่อนจะสับไกยิงเต็มข้อ แต่ตรงตัวของศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับเข้าซองสบายบรือ

         น.70 เอกพันธ์ อินทเสน พยายามเคลียร์บอลแต่ไม่ขาด บอลทะลักมาเข้าทางของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดเข้าไปลุ้นเสาสอง มี ภูริทัต จาริกานนท์ มิดฟิลด์ฉลามชลโหม่งสกัด บอลหลุดมาถึง โคเน่ เซย์ดู กระโดดแปจ่อๆ ให้ ทีมเยือนไล่ตีเสมอ 2-2 

         อีก 3 นาที ต่อมา ชลบุรี หวิดทะลวงสกอร์ขึ้นนอีกขึ้น จาก อาทิตย์ สุนทรพิธ ที่กระชากบอลขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนจะกดเต็มข้อ แต่ตรงตัวของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับเข้าซองอีกหน

         น.77 บุรีรัมย์ เกือบกะซวกตาข่ายขึ้นนำ จากจังหวะที่ดูดู้ซัดในระยะนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนคานเสียงดังสนั่น เรียกเสียงครางฮือ จากแฟนบอลทั้งสนาม ถึง น.84 ชลบุรี โต้ตอบด้วยเกมสวนกลับเร็ว เกือบพังตาข่ายเช่นกัน จากการสับไกยิงเน้นๆ บริเวณกรอบเขตโทษ แต่ลื่นยิงไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

         น.89 ชลบุรี น่าจะได้ประตูนำมากที่สุด จากจังหวะที่ สุกรี อีแต กระชากบอลเข้าไปสับไกยิงในระยะเผาขน แบบโล่งๆ แต่บอลหลุดออกเสาแรกเหลือเชื่อ เกมหลังจากนั้นไม่มีทีมไหนทำอะไรกันได้ ก่อนจะจบเกมด้วยการเสมอกัน 2-2 ทำให้ชลบุรี หลุดวงโคจรการคว้าแชมป์เป็นทีมแรก ส่วน บุรีรัมย์ ยังได้ลุ้นแชมป์ หาก 2 นัดสุดท้ายชนะหมด ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้เมืองทองฯ พลาดด้วยใน 2 นัดสุดท้าย 

       วาทะโค้ช
         จเด็จ มีลาภ กุนซือ ชลบุรี เอฟซี - ครึ่งแรกเราสามารถแก้ปัญหาในส่วนของเกมรับได้ แต่พอครึ่งหลังมาเจอฝนด้วย ไม่รู้เป็นอะไร ชลบุรี มาพลาดเสียประตูทุกครั้ง รู้สึกเสียดาย ที่เราไม่สามารถคว้าสามแต้มได้ ซึ่งต้องยอมรับว่า หมดลุ้นแชมป์ จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ที่มีอยู่ในช่วงหนึ่งถึง 5 นัด เราไม่สามารถเก็บแต้มสำคัญได้เลย
         อรรถพล ปุษปาคม โค้ชบุรีรัมย์ พีอีเอ - เรามาเสียประตูในช่วงครึ่งแรกเร็วไปหน่อยถึง 2 ลูก ก็ต้องยอมรับว่านักเตะชลบุรีเล่นได้ดีในเกมนี้ พอครึ่งหลังได้ประตูตีเสมอ นอกบ้านเก็บได้ 1 แต้ม ถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างน้อยเวลานี้มองไปที่รองแชมป์เอาไว้ก่อน ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ ซึ่งฝ่ายผู้บริหารน่าจะหานักเตะของแท้มาเสริมทัพต่อไป 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6, ณัฐพงษ์ สมณะ 6, ไพศาล โพธิ์นา 6, อาทิตย์ สุนทรพิธ 6 (สุกรี อีแต 5), เคนเนต 6, สุรีย์ สุขะ 6, ภูริทัต จาริกานนท์ 6, เอกพันธ์ อินทเสน 6, โรแลนด์ ดีแจม 6 (ภานุวัฒน์ จินตะ 5), พิภพ อ่อนโม้ 6.5, เนย์ ฟาเบียโน่ 6 (เนย์ ฟาเบียโน่ 5)
         บุรีรัมย์ พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 6, ธีราธร บุญมาทัน 6, อภิเชษฐ์ พุฒตาล 6, เฮนรี่ โจเอล 6, โคเน่ เซย์ดู 7,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 6, สุเชาว์ นุชนุ่ม 6, กีรติ เขียวสมบัติ 6 (อรรถพล กันหนู-), หลุยส์ เอดูอาร์โด้ 6 (สุริยา ดอมไธสง-) , ดั๊กลาส การ์โดโซ่ 6 (เคาดิโอ ปาสกาล-), แอนเดอร์สัน โดส ซานโตส  6 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : พิภพ อ่อนโม้ กองหน้ากัปตันทีม ชลบุรี เอฟซี

 

อินทรีเพื่อนตำรวจ 1 - โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 2 

       ที่สนามมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต "โปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 10 ของตารางคะแนน เปิดบ้านรับมือ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ทีมอันดับ 8 โดยผลงานการเจอกันในเลกแรก โอสถสภา ชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ 2-1

         เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง สมพงษ์ ยอดอาจ, กฤษฎี ประกอบของ, วู ฮยุน, ชาคริต บัวทอง, ธนพัต ณ ท่าเรือ, สุรชาติ สารีพิมพ์, ลี โฮ จิน และ ลี ซุง ฮยุน เป็นตัวหลัก ขณะที่ "พลังเอ็ม" มี ฉัตรชัย บุตรพรม, ประทุม ชูทอง, ศิวะเมตร ธนูศร, เจษฎา พั่วนะคุณมี, โอลอฟ วัตสัน, อภิภู สุนทรพนาเวศ และ คลีตัน ซิลวา นำทัพ
         เริ่มเกมครึ่งแรก เจ้าบ้านที่ต้องการสามแต้มในเกมนี้ เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนทันที โดยมี ลี โฮ จิน เป็นตัวกระชากทางฝ่ายซ้ายและได้เปิดบอลหวาดเสียวหลายครั้ง แต่ยังขาดความแม่นยำในการเข้าทำประตู

         แต่ น.15 แฟนบอลทีมเยือนที่ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ คลีตัน ซิลวา โดนทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษด้านขวา อภิภู สุนทรพนาเวศ รับหน้าที่เปิดไปกลางประตูให้ มาร์ซิโอ ดา ซิลวา โฉบโขกบอลลงพื้น สมพงษ์ ยอดอาจ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านล้มรับบอลไม่อยู่ปลิ้นเข้าประตูไปให้ "พลังเอ็ม" ออกนำไปก่อน 1-0

         ถัดมานาทีเดียว อินทรีเพื่อนตำรวจ ที่ต้องการประตูคืนเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที บอลมาถึง ชาคริต บัวทอง จับก่อนหนึ่งจังหวะแล้วหวดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ว่าตรงตัว ฉัตรชัย บุตรพรม รับเข้าซองสบาย

         น.24 เป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากลูกเตะมุมทางกราบขวา โอลอฟ วัตสัน รับหน้าที่เปิดไปหน้าประตู มาร์ซิโอ ดา ซิลวา ขึ้นโขกเต็มหัวบอลเหินข้ามคานออกหลังอย่างน่าเสียดาย

         น.26 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมอเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ ลี โฮ จิน ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแตะหลบหนึ่งจังหวะ ก่อนหวดด้วยซ้ายเต็มแรง แต่ว่า ประทุม ชูทอง กองหลังทีมเยือนยังยืนตำแหน่งดีพุ่งเอาตัวบล็อกได้ทันเวลา

         น.33 เป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสอีกครั้งเมื่อ กฤษฎี ประกอบของ กระชากบอลถึงเส้นหลังด้านซ้ายตบเข้ากลางให้ ลี โฮ จิน กระชากเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนแตะเข้าขวาหวดเต็มแรงแต่ว่า ฉัตรชัย บุตรพรม ยังหนึบรับเข้าซองสบาย 

         น.41 เกมรุกของ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เกือบทำเจ้าบ้านต้องเงียบกริบอีกครั้งเมื่อ อภิภู สุนทรพนาเวศ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวกระชากจากกลางสนามเข้ากรอบเขตโทษ แต่จังหวะยิงด้วยซ้ายกลับวางเท้าไม่ดีบอลเรียดเข้าซอง สมพงษ์ ยอดอาจ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นรับเข้าซองสบายมือ

         น.45 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อได้ฟรีคิกแล้วเล่นเร็ว วู ฮยุน กระชากบอลถึงเส้นหลังด้านขวาก่อนเปิดยัดเข้ากลางบอลเลยมาถึง ชาคริต บัวทอง จับหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้ายโล่งๆ เสียบตาข่ายให้ อินทรีเพื่อนตำรวจ ตามตีเสมอก่อนหมดครึ่งแรก 1-1

         ครึ่งเวลาหลังทีมเยือน โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เปลี่ยนตัวผู้เล่นทันทีโดยส่ง คัพฟ้า บุญมาตุ่น เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งลงไปเล่นแทน สุรเดช ธงชัย เพื่อเพิ่มเกมรุกให้มากขึ้น

         แต่อย่างไรก็ดีเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่มีลุ้นประตูก่อนจากการเปิดลูกเตะมุมทางกราบซ้าย อัสมิง แม รับหน้าที่เปิดไปหน้าประตู แต่ว่ากองหลังทีมเยือนยังทำได้ดีช่วยกันสกัดออกมาได้

         เกมยังคู่คี่สูสีและผลัดกันเปิดเกมรุกเข้าใส่กันตลอดและมีโอกาสเข้าทำประตูด้วยกันทั้งสองทีมแต่ว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 1-1

         น.64 ยังเป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งเมื่อ ลี โฮ จิน กระชากบอลเข้าในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดเรียดเข้ากลางให้ ชนานันท์ ป้อมบุบผา ไขว้เท้ายิงด้วยซ้ายหน้าปากประตูโล่งๆ ยังดีที่ ฉัตรชัย บุตรพรม ล้มตัวรับไว้ได้ทันเวลา

         น.70 แฟนเจ้าบ้านต้องเงียบกริบเมื่อ โอลอฟ วัตสัน ใช้ความเร็วกระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายเปิดเรียดไปเสาสอง ชาง ซึง วอน กองหลังชาวเกาหลีใต้ของเจ้าบ้านพุ่งตัวสกัดบอลไม่ดีเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองให้ โอสถสภา เอ็ม 150 ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1

         น.90 ทีมเยือนน่าได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเมื่อ คลีตัน ซิลวา ได้บอลตรงกลางสนามเหลือบเห็นผู้รักษาประตูเจ้าบ้านออกมาไกลจึงลักไก่ยิงบอลเหินออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

         ช่วงท้ายเกมแม้ว่า อินทรีเพื่อนตำรวจ พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนักหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่ว่ายังไม่สามารถเจาะเกมรับอันเหนียวแน่นของ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เข้าไปยิงประตูได้ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน "พลังเอ็ม" บุกมาเอาชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ ได้สนุก 2-1 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ 

       วาทะโค้ช
         พ.ต.ต. ชัยยง ขำเปี่ยม ผู้ฝึกสอนอินทรีเพื่อนตำรวจ - เป็นเกมที่สนุกมาก เกมนี้เราเห็นนักเตะพัฒนาขึ้นหลายคน แต่ว่ารูปเกมต้องชมว่า สระบุรี เตรียมทีมมาดี โดยเฉพาะเกมรุกที่ค่อนข้างเฉียบคมมีโอกาสแค่ไม่กี่ครั้งสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
         ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ผู้ฝึกสอนโอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี - ต้องบอกว่าแท็กติกที่เราเตรียมมาก่อนที่จะลงสนามใช้ไม่ได้เลย ต้องชม อินทรีเพื่อนตำรวจ ที่ทำการบ้านมาอย่างดี และที่สำคัญต้องชมนักเตะที่เรียนรู้ด้วยตัวเองในสนามทำให้เราเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้สำเร็จ 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         อินทรีเพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ 6, กฤษฎี ประกอบของ 6, วู ฮยุน 6, ชาคริต บัวทอง 6, ธนพัต ณ ท่าเรือ 6, สุรชาติ สารีพิมพ์ 6 (สุรชาติ สารีพิมพ์ -), ลี โฮ จิน 6, ลี ซุง ฮยุน 6 (พิเชษฐ์ อินทร์บาง -), ชนานันท์ ป้อมบุบผา 6, ชาง ซึง วอน 6, อัสมิง แม 6
         โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม 8, ประทุม ชูทอง 6, ศิวะเมตร ธนูศร 6, เจษฎา พั่วนะคุณมี 6, โอลอฟ วัตสัน 7, อภิภู สุนทรพนาเวศ 6, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง 6, สุรเดช ธงชัย 6 (คัพฟ้า บุญมาตุ่น 6), มาร์ซิโอ ดา ซิลวา 7, อีวานส์ เมนซาห์ 6, คลีตัน ซิลวา 6 (นิรุตน์ สืบยิ้ม -)
 
         แมน ออฟ เดอะแมตช์ : ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูของ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี

 

พัทยา ยูไนเต็ด 3 - บีอีซี เทโรศาสน 1 

       ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ของตาราง เล่นไป 28 นัด มี 39 คะแนน เปิดบ้านรับมือ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน โดยผลการเจอกันเลกแรก พัทยา ยูไนเต็ด ชนะ บีอีซี เทโรศาสน 3-2

         เกมนี้ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ปรับทัพนิดหน่อย โดยวาง สมภพ นิลวงศ์ มายืนเกมรับคู่กับ นิเวส ศิริวงศ์ แถมยังจะมี อาร์ทานาซ กลับมายืนเป็นตัวตัดเกม แล้วปล่อยให้ อิทธิพล พูลทรัพย์ เดินเครื่องแดนกลาง ขณะที่คู่หน้า ธนา ชนะบุตร ลงกะซวกตาข่ายในแดนหน้าคู่กับ ลูโดวิค ทาคาม ดาวซัลโวของทีม ที่ยิงไปแล้ว 15 ประตู

         ขณะที่ทัพ "มังกรไฟ" ภายใต้การคุมทีมของ ปีเตอร์ บัทเลอร์ เฮดโค้ชชาวอังกฤษ วาง เอเวอร์ เบนิเตซ ยืนเซนเตอร์คู่กับ ดั๊กลาส โคโบ้ ปล่อยให้ กิตติภูมิ ปาภูงา เดินเกมทางกราบขาว และ มาเรียโน่ ซอร์เรนติโน่ ทำเกมด้านซ้าย ซึ่งแดนหน้ายังเป็นการจับคู่กันของ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กับ อานนท์ สังสระน้อย ที่กระหน่ำไปแล้วถึง 14 ประตู ในฤดูกาลนี้

         เริ่มเกมแค่นาทีแรก ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนทันที ธีรเทพ วิโนทัย พาบอลขึ้นมาทางด้านกราบซ้าย แล้วเปิดไปให้ อานนท์ สังสระน้อย ป้ายกลับคืนมาให้กับ มาเรียโน่ ซัดไปติดกองหลัง พัทยา หลุดออกหลังไป
         น.3 ทีมเยือนพลาดการได้ประตูขึ้นนำ กิตติภูมิ ปาภูงา ซัดฟรีคิกแหวกกำแพงไปในกรอบเขตโทษ บอลเลยไปถึง อานนท์ สังสระน้อย แต่เจ้าตัวกลับเข้าชาร์จไม่ถึง

         น.8 พัทยา อิทธิพล พูลทรัพย์ เปิดฟรีคิกมาในกรอบ พิศาล ดอกไม้แก้ว ชกบอลขึ้นหน้ามาให้ อานนท์ สังสระน้อย พาบอลขึ้นไปข้างหน้า ก่อนที่จะไหลเข้าไปในกรอบให้กับ ธีรเทพ วิโนทัย แต่ "ลีซอ" กลับไม่ยิง จึงถูก อนุชา กิจพงษ์ศรี ตามมาเคลียร์ทิ้งไว้ได้

         น.10 เป็นอีกครั้งที่ เทโรฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ กิตติภูมิ ปาภูงา เปิดมุมมาให้กับ ธีรเทพ วิโนทัย กระหน่ำด้วยเท้าซ้าย แต่บอลติดไซด์ก้อยเลี้ยวข้ามคานออกไป

         น.16 กลายเป็นกองเชียร์เจ้าบ้านที่ได้เฮก่อน เมื่อ อิทธิพล พูลทรัพย์ เปิดมุมสั้นมาที่หน้ากรอบเขตโทษ และเป็น อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่วิ่งเติมขึ้นมายิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลเสียบเสาแรกไปแบบสวยงาม ทำให้ พัทยา นำไปก่อน 1-0

         น.19 เทโรฯ เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อมาได้ฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษระยะกว่า 35 หลา ธีรเทพ วิโนทัย วิ่งเข้ามากระหน่ำด้วยขวา แต่บอลกลับเลี้ยวหลุดเสาแรกไปแบบน่าเสียดาย
         น.26 กิตติภูมิ ปาภูงา จ่ายบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ อานนท์ สังสระน้อย ตวัดยิงทันที แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

         น.30 จากเกมสวนกลับของ พัทยา เกือบนำไปสู่ประตูที่สอง เมื่อ ลูโดวิค ทาคาม ได้บอลตรงริมเส้นด้านซ้าย ก่อนที่จะไหลย้อนมาให้กับ สันติ ไชยเผือก ยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลยังไปเข้ามือ พิศาล ดอกไม้แก้ว

         น.33 อิทธิพล พูลทรัพย์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษหวังให้ ลูโดวิค ทาคาม วิ่งเข้าชาร์จ แต่ถูก เอเวอร์ เบนิเตซ บังบอลแล้วไปเข้ามือของ พิศาล ดอกไม้แก้ว

         น.36 แฟนบอลเจ้าบ้านเกือบได้เฮกันอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิกเร็วที่ไหลมาให้ อนุชา กิจพงษ์ศรี ล็อกบอลไต่เส้นหลังแล้วยิงด้วยขวา ไปติดขา พิศาล ดอกไม้แก้ว บอลเลยมาถึง สมชาย สิงห์มณี ที่เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในกรอบ และเป็น ธนา ชนะบุตร ที่โหม่งเหินข้ามคานออกไป และหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่บวกประตูเพิ่มได้ หมดครึ่งแรกทาง พัทยา ออกนำ เทโรฯ อยู่ 1-0

         ครึ่งหลัง น.46 กิตติภูมิ ปาภูงา ลากบอลมาทางกราบขวา ผ่านผู้เล่น พัทยา ถึง 3 คน แล้วตัดสินใจหยอดไปที่เสาแรก บอลล้นออกหลังไป

         น.49 ทีมเยือนยังไม่ได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจกดเต็มข้อทันที แต่บอลยังไปเข้ามือของ นริศ ทวีกุล

         น.54 สันติ ไชยเผือก ตัดเกมได้ตรงริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วจ่ายขึ้นหน้าไปให้กับ ธนา ชะนะบุตร วิ่งเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน 

         น.57 กลายเป็นพัทยาที่มาได้จุดโทษ จางจังหวะที่ ลูโดวิค ทาคาม จ่ายบอลย้อนคืนมาให้ อิทธิพล พูลทรัพย์ ป้ายบอลขึ้นหน้ามาให้ สันติ ไชยเผือก พาบอลเข้ากรอบเขตโทษ แล้วตัดสินใจพาบอลโยกหลบ พิศาล ดอกไม้แก้ว แต่นายทวารเทโรฯ กลับเสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็น ลูโดวิค ทาคาม ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ "โลมามหาภัย" นำห่าง 2-0 พร้อมเป็นประตูที่ 16 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้อีกด้วย

         น.63 เสียงเชียร์ของเจ้าบ้านยังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง เมื่อ สันติ ไชยเผือก เปิดบอลจากด้านซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น ชลากร สงวนดี ที่ขึ้นโหม่งบอลพลาดไปถึง ลูโดวิค ทาคาม จับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนที่จะซัดเข้าไปง่ายๆ ให้ทีมนำห่างไปอีก 3-0 เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

         น.66 พัทยาพลาดประตูที่ 4 เมื่อ ธนา ชะนะบุตร กระชากบอลขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายกว้างดั่งแม่น้ำ จ่ายบอลไปให้กับ ลูโดวิค ทาคาม ที่วิ่งเข้ามาแปเฉี่ยวเสาสองออกไป

         น.73 พัทยา ได้เตะมุมทางฝั่งขวา รังสฤษธิ์ สุทธิสา กองกลางตัวสำรองจ่ายบอลสั้นๆ ไปให้กับ สมชาย สิงห์มณี วิ่งเข้ามายิง แต่บอลไปเข้ามือ พิศาล ดอกไม้แก้ว ล้มตัวรับบอลเข้าซอง

         น.80 อานนท์ สังสระน้อย หาจังหวะซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบกองหลังทีมเยือน ก่อนที่ นเรศ กาพย์ไกรแก้ว จะพุ่งเข้าขาร์จ แต่ นริศ ทวีกุล บังไวกว่าออกมารับบอลได้ทันเวลาพอดี

         น.82 พัทยามาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องไปทางซ้าย และเป็น รังสฤษธิ์ สุทธิสา ที่วิ่งเข้ามายิงบอลเข้าจะเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ พิศาล ดอกไม้แก้ว ยังวิ่งมารับบอลไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

         น.86 กลายเป็นเทโรฯ ที่มีโอกาสบ้าง คราวนี้ อัครพล มีสวัสดิ์ หัวหอกดาวรุ่งของทีมลองยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งตกพื้นก่อนที่ นริศ ทวีกูล จะล้มตัวปัดบอลออกมาไม่ดี แต่ไม่มีผู้เล่นของทีมเยือนตามซ้ำ นายทวารพัทยาจึงตามมารับไว้ได้แบบสบายๆ

         ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.91 เทโรฯ มาได้ประตูปลอบใจ เมื่อ กิตติภูมิ ปาภูงา เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น ดั๊กลาส โคโบ ปราการหลังชาวบราซิลที่เติมขึ้นมาโหม่ง ส่งบอลเสียบเสาแรกไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ "มังกรไฟ" ตามมาแบบห่างๆ เป็น 1-3 ก่อนที่จะจบการแข่งขันไปด้วยสกอร์นี้ ซึ่งเป็นชัยชนะในไทยพรีเมียร์ลีก รอบ 8 นัด ของทางพัทยา ยูไนเต็ด อีกด้วย 

       วาทะโค้ช
         ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ พัทยา ยูไนเต็ด - ทุกคนเล่นกันได้แบบทุ่มเทแล้ว และทำผลงานออกมาได้อย่างสุดยอด สามารถที่จะเรียกศรัทธาคืนมา หลังจากที่เราไม่ชนะใครมา 8 นัดติดต่อกัน
         ปีเตอร์ บัตเลอร์ กุนซือ บีอีซี เทโรศาสน - มันเป็นเกมของฟุตบอล แม้ว่าเราจะแพ้ในนัดนี้ แต่นักเตะทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สำหรับตัวผมแล้วขอเตรียมทีมเพื่อเป้าหมายซีซั่นหน้า 

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกูล 5.5, ทศพล การปลูก 5.5, นิเวส ศิริวงศ์ 5, สมภพ นิลวงศ์ 6, อนุชา กิจพงษ์ศรี 6, สมชาย สิงห์มณี 5.5 (เปรมวุฒิ วงศ์ดี 5), อาร์ตานาซ 5 (รังสฤษธิ์ สุทธิสา 5), สันติ ไชยเผือก 6 (นิรันดร์ฤทธิ์ เจริญสุข 5), อิทธิพล พูลทรัพย์ 6, ธนา ชะนะบุตร 6, ลูโดวิค ทาคาม 7
         บีอีซี เทโรศาสน : พิศาล ดอกไม้แก้ว 5, กีย์ ฮูเบิร์ต 5.5, ดั๊กลาส โคโบ 6, เอเวอร์ เบนิเตซ 6 (ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ 5), ชลากร สงวนดี 5, กิตติภูมิ ปาภูงา 5.5, พิชิต ใจบุญ 6, เอกชัย นุ้ยขาว 5 (นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว 5.5), มาเรียโน่ ซอเรนติโน่ 5 (อัครพล มีสวัสดิ์ 5.5), ธีรเทพ วิโนทัย 5, อานนท์ สังสระน้อย 5.5 

       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ลูโดวิค ทาคาม กองหน้าชาวแคเมอรูน ของ พัทยา ยูไนเต็ด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • สรุปสถานการณ์ทีมลุ้นแชมป์-ทีมตกชั้นไทยลีก
    การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009-2010 เข้าสู่โค้งสุดท้ายหลังแต่ละทีมแข่งนัดรองสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อย ยกเว้น ทีมเมืองทองฯ,บุรีรัมย์-พีอีเอ,เอสซีจี สมุทรสงคราม และ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่ยังเหลือแข่งอีก 2 นัด
  • เจ้าท่าดุรัว5-0,กูปรีหนีตาย4-0,ม้านิลฮึด3-3,แข้งเทพร่วง
    "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ยังมีฮึดลุ้นหนีตกชั้นต่อ หลังเปิดบ้าน โชว์ฟอร์มเก่ง ไล่ถล่ม "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 4-0 ขณะที่ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ได้ วิลสัน โดส ซานโต๊ส กระหน่ำแฮตทริก ช่วยชีวิต ตีเสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทดเจ็บ 3-3 ส่วน "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด โบกมือลาไทยลีก เรียบร้อยแล้ว หลังพ่าย ทีโอที คาบ้าน 1-2 ขณะที่ การท่าเรือไทย เอฟซี จัดการเลี้ยงส่ง ทหารบก ไปแบบเละเทะ 5-0 ฟุตบอลไทยลีก
  • ไทยลีกพร้อมใจเสนอเพิ่ม18ทีม,บวกค่าเหนื่อยเปา
    สโมสรไทยลีกพร้อมใจ เตรียมเสนอเพิ่มจำนวนทีมปีหน้า เป็น 18 ทีม หลังเห็นการพัฒนาลีกอาชีพของไทยก้าวอย่างรวดเร็ว จนเป็นหนึ่งในอาเซี่ยน ทั้งนี้ต่างเห็นพร้อมต้องกันว่า หากเพิ่มทีมจะเป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มอาชีพให้กับนักเตะและโค้ช ขณะเดียวกันผู้ตัดสินได้เฮด้วย เมื่อหลายเสียงยกมือให้เพิ่มเงินผู้ตัดสินต่อเกมคนละ 5 พันบาท
  • ปลาทูเตรียมทัพปีหน้าเผยได้แข้งใหม่แล้ว 6 ราย
    "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม แฟนบอลพร้อมใจจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ให้กับทีม หลังจบแมตซ์กับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด วันที่ 22 ต.ค.นี้ พร้อมยกพลทำศึก กลันตัน อินเตอร์ เนชั่นแนล ชาเลนจ์ คัพ ช่วงเดือน ธ.ค. ขณะที่แข้งใหม่ได้แล้ว 6 ราย เสริมสู้ศึกปีหน้า

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »