กูปรีร่วงไทยลีก!บุรีรัมย์บุกทุบคาบ้าน 3-0
Posted 21/10/2010 by siamsport
"กูปรีเมืองไทย"ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี จบเส้นทางในศึกทยลีกอย่างเป็นทางการหลังต้านพลังรุกของแข้ง"ปราสาทสายฟ้า"บุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่ไหวพ่ายคาถิ่น 0-3 ดูดู้,สุเชาว์ นุชนุ่ม และ รังสรรค์ วิวัฒชัยโชค ซัดคนละดอก ส่งผลให้ศรีสะเกษฯกลายเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ทหารบก และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ร่วงสู่ลีกด.1 ขณะที่บุรีรัมย์ พีอีเอเก็บ 3 แต้มสำคัญพร้อมทะยานรั้งรองฝูงแทนชลบุรี เอฟซี ที่สำคัญยังต่อลมหายใจในการลุ้นแย่งแชมป์กับเมืองทองฯยูไนเต็ดออกไป
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 0 - บุรีรัมย์ พีอีเอ 3
ศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 คู่โทนนัดกลางสัปดาห์ ณ สนามศรีนครลำดวน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกมดาร์บี้แมตช์แห่งแดนอีสานใต้ระหว่าง "กูปรีอันตราย"ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 14 ที่กำลังต้องการ 3 แต้มสำหรับการดิ้นรนหนีการตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายหลังลงสนาม 28 นัดมี 26 แต้ม เปิดบ้านต้อนรับทีมเพื่อนบ้านอย่าง"ปราสาทสายฟ้า"บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมอันดับ 3 ลงสนาม 28 นัดมี 57 แต้ม
และหากเกมนี้บุรีรัมย์ พีอีเอ สามารถบุกมาเก็บชัยได้ยังถิ่นกูปรีก็จะยังคงมีลุ้นแย่งแชมป์กับเมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงปัจจุบันต่อไปอีกหนึ่งเฮือก แต่หากผลออกมาเสมอกัน แชมป์ไทยลีกซีซั่นนี้จะตกเป็นของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทันที โดยผลงานเลกแรกของศึกดาร์บี้แมตช์อีสานใต้คู่นี้ก็ปรากฏว่าเหล่าขุนพลปราสาทสายฟ้าเปิดบ้านเฉือนเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 ประลอง สาวันดี แนวรับศรีสะเกษส่งบอลเข้าประตูตัวเอง น.70 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.53
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกได้เพียงไม่ทันไร เหล่าขุนพลปราสาทสายฟ้าก็ได้จังหวะลุ้นทำประตูขึ้นนำทันที จากจังหวะครอสบอลจากด้านขวาของ ดูดู้ เข้ากลางมาถึง สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่จัดการวอลเลย์ด้วยขวาคนเดียวโล่งๆ แต่สุดท้ายก็ยังหลุดกรอบออกไป น.6 เป็นโอกาสได้ลุ้นของเจ้าถิ่นจากการอาศัยความเฉียบคมในการต่อบอลตามช่อง ก่อนที่บอลจะหลุดมาถึง ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ศูนย์หน้าตัวความหวังของเจ้าถิ่นที่ได้จังหวะซัดด้วยขวาแบบเน้นๆ แต่ก็ยังไปเข้าซอง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่พุ่งเซฟเอาไว้ได้
น.13 แนวรับศรีสะเกษเล่นพลาดกันเองหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลมาเข้าทาง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ก่อนที่เจ้าตัวจะป้ายต่อให้ ดูดู้ ได้ซัดโล่งๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่จังหวะนี้ต้องชม วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายด่านวัยดึกของเจ้าถิ่นที่ออกมาปิดมุมพร้อมกับใช้ขาเซฟลูกยิงของ ดูดู้ ได้อย่างเหลือเชื่อ น.18 สุเชาว์ นุชนุ่ม ของบุรีรัมย์ พีอีเอได้จังหวะส่องประตูเป็นครั้งที่ 2 ของเกมนี้ จากการโหม่งชงย้อนศรมาให้ของ ดักลาส คาร์โดโซ่ ก่อนที่ สุเชาว์ จะได้เอี้ยวตัวซัดเต็มแข้ง แต่จังหวะนี้ก็ยังไปโดนใต้ลูกมากเกินไป ส่งผลให้บอลเหินข้ามคานไปตามระเบียบ
น.28 "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่บุรีรัมย์ พีอีเอ จัดการแก้ลำด้วยการถอด รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ มิดฟิลด์ออก แล้วส่งกองหน้าอย่าง กีรติ เขียวสมบัติ ลงมาเล่นเพื่อเป็นการเปิดเกมรุกเข้าใส่ด้วยกองหน้า 3 ตัวประกอบด้วย ดูดู้ , ดักลาส คาร์โดโซ่ และ กีรติ เขียวสมบัติ น.40 ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เริ่มปรับทัพด้วยการส่ง ประลอง สาวันดี แนวรับตัวหลักลงมาอุดรูรั่วแทนทางด้าน ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย ที่มักจะโดนเจาะอยู่บ่อยครั้ง เวลาที่เหลือในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบ 45 นาทีแรกยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0
กลับมาลุยกันต่อในช่วง 45 นาทีหลัง ก็ยังเป็นบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ดาหน้าบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นทันที น.50 ก็เกือบได้เสียวอีกครั้งจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดมาที่เสาแรก และเป็น กีรติ เขียวสมบัติ ที่วิ่งมาแปรเน้นเพื่อหวังส่งบอลให้เข้าเสาแรก แต่ยังดีที่ เทวา ศรีธรรมานุสาร มิดฟิลด์ศรีสะเกษ เมืองไทยยังยืนคุมเส้นพร้อมกับเคลียร์ทิ้งได้ทัน น.60 กูปรีฯเริ่มจะเห็นช่องโหว่งของแผงหลังบุรีรัมย์ พร้อมกันนั้นจึงไม่รอช้าที่จะส่ง"หยืด"วุฒิชัย ทาทอง แนวรุกตัวทีเด็ดที่มักจะไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามในช่วงที่ผ่านมามากสักเท่าไหร่
เข้าสู่ น.67 เหล่ากองเชียร์ปราสาทสายฟ้าก็มาได้เฮกันสนั่นหลังจากทีมรักสามารถเบิกสกอร์ขึ้นนำสำเร็จ โดยเป็นการทำชิ่งของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่ไหลทะลุผ่านแนวรับเจ้าถิ่นหลุดขึ้นมาทางขวา และเป็น ดูดู้ ที่อาศัยความเร็ววิ่งเข้าไปตะบันเต็มเแข้ง บอลพุ่งแรงรอดตัว วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายด่านศรีสะเกษ เมืองไทยที่ล้มตัวบล็อคไม่ทัน ช่วยให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ออกนำอย่างที่ต้องการ 1-0
หลังจากที่ได้ประตูออกนำสำเร็จก็ดูเหมือนจะแข้งบุรีรัมย์ พีอีเอ จะดูคลายความกดดันจนส่งผลให้เล่นกันง่ายขึ้น และ น.78 ปราสาทสายฟ้าก็มาได้ประตูหนีห่างเพิ่มอีกหนึ่งตุงจากการยิงฟรีคิกชิดเส้นริมสนามด้านซ้ายของ สุเชาว์ นุชนุ่ม ก่อนที่เจ้าตัวจะยิงอัดไปที่เสาแรกส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ นำเป็น 2-0 และจากลูกฟรีคิกที่เกิดขึ้นลูกนี้ก็สร้างความไม่พอใจให้กับกองเชียร์ศรีสะเกษ เมืองไทย ฯ ที่มองว่าผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ง่ายเกินไป จนมีบางส่วนได้เขวี้ยงขวดน้ำพลาสติกลงมาที่ลู่วิ่งรวมถึงในสนาม แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังช่วยกันห้ามเอาไว้ได้ทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.92 บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็มาตอกประตูปิดฝาโลงเป็น 3-0 ได้สำเร็จจากยิงไกลนอกกรอบส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปอย่างสะใจ จบเกมบุรีรัมย์ พีอีเอ บุกมาถล่มเอาชนะศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้ถึงถิ่น 3-0 ส่งผลให้บุรีรัมย์ พีอีเอเก็บ 3 แต้มพร้อมขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงแทนชลบุรี เอฟซี ที่สำคัญพวกเขายังคงได้ลุ้นเบียดแย่งแชมป์กับเมืองทองฯยูไนเต็ดต่อไป แต่หากเกมวันศุกร์นี้เมืองทองฯยูไนเต็ดมีแต้มในการไปเยือนเอสซีจี สมุทรสงครามได้สำเร็จ แชมป์ก็จะตกเป็นของเมืองทองฯยูไนเต็ดทันที ขณะที่ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซีที่แพ้เกมนี้ก็ส่งผลให้แข้งกูปรีฯตกชั้นเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ทหารบก และ แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่างแน่นอนแล้ว ขณะที่ยอดจำหน่ายบัตรรวมถึงสินค้าที่ระลึกในเกมนี้สามารถเก็บเงินได้รวมถึง 1.1 ล้านบาท โดยมีแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมนัดนี้รวมทั้งสิ้น 11,000 คน
วาทะโค้ช
วิสูตร วิชายา กุนซือศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - เราทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ผิดหวังไปสักเล็กน้อย แต่ผมก็คิดว่าเราจะสามารถกลับมายืนหยัดในลีกสูงสุดได้ในเร็ววัน
เนวิน ชิดชอบ ปธ.สโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ - อย่างแรกผมเองต้องขอโทษแฟนคลับศรีสะเกษทุกคนด้วยที่ทีมรักต้องตกชั้น แต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ผมต้องเก็บ 3 แต้มเพื่อที่จะยังมีลุ้นแชมป์ต่อ เป้าหมายเราตอนนี้คือจะต้องรักษาที่ 2 ให้ได้สำหรับการลุ้นไปเล่นในถ้วยเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนส์ลีกหากทุกอย่างไม่ผิดคาด แต่ผมเองก็หวังลึกๆว่าปลาทูคะนองอาจจะสร้างเซอร์ไพร์สในเกมที่จะพบกับเมืองทองฯยูไนเต็ดวันศุกร์นี้ และหากเป็นจริงมันน่าจะทำให้เกมนัดปิดท้ายซีซั่นคงสนุกเร้าใจอย่างแน่นอน
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - วัชรพงษ์ กล้าหาญ 6 , สุพรรณ หาดคำ 6 , ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย 5(แทน น.40 ประลอง สาวันดี 6 ) , เอ็นเจ ดิวาย 6 , เทวา ศรีธรรมานุสาร 6 , วิคเตอร์ อมาโร่ 6.5 , ยุน ดอน คิม 6 , หัตฐพร สุวรรณ 6 , ปิยะวัฒน์ ทองแม้น 6 , โคเน่ อดาม่า 5.5(แทน น.60 วุฒิชัย ทาทอง 5.5 ), กิตติศักดิ์ ใจหาญ 6(แทน น.69 ทัตพงศ์ หล้าธรรม 5.5 )
บุรีรัมย์ พีอีเอ - ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 7 , ธีราทร บุญมาทัน 7 , อภิเชษฐ์ พุฒตาล 7 , โคเน่ เซย์ดู 7 , แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส 7 , เคลาดิโอ ปาสคาล 7 , รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 7 , สุเชาว์ นุชนุ่ม 7(แทน น.80 พิพัฒน์ ต้นกันยา- ) , รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ 6.5( แทน น.28 กีรติ เขียวสมบัติ 7 ), ดูดู้ 7.5 , ดักลาส คาร์โดโซ่ 6.5(แทน น.72 เฮนรี่ โจเอล 6.5 )
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์- หลุย์ เอดูอาร์โด้ แนวรุกบีรุรัมย์ พีอีเอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์