คาดโทษแฟน บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ การท่าเรือไทย เอฟซี ตะลุมบอนกัน เบื้องต้นปรับ ทีมละ 100,000 บาท และอาจมีการเพิ่มบทลงโทษภายหลังอีกด้วย ส่วนการเพิ่ม 18 ทีมไทยลีก ยังไม่ชัวร์ ขณะที่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ย้ำปีหน้าทุกทีมต้องได้มาตรฐานเอเอฟซี โดยเฉพาะสนาม ส่วนกรณีไฟฟ้าดับระหว่างแข่ง จะเพิ่มโทษปรับจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท

       ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นโต้โผใหญ่ ในการสัมมนาจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทย ประจำปี 53 วันแรก เมื่อ 29 ตค. 53 ที่ผ่านมา ณ ฮิลล์ ไซด์ คันทรี โฮม กอล์ฟ & รีสอร์ท โดยมีฝ่ายควบคุมการแข่งขันมาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยงานสัมมนาดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป สำหรับประเด็นหลักๆ คือการพิจารณาการจัดการแข่งขันในฤดูกาลที่เพิ่งจบไป

                                                                ถกคาดโทษแฟนตะลุมบอน

       หัวข้อแรกที่นำมาเสนอในที่ประชุมซึ่ง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ในฐานะประธานในพิธีได้เปิดประเด็น เรื่องความวุ่นวายหลังเกมไทยลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลระหว่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ การท่าเรือไทย เอฟซี ที่มีเหตุแฟนบอลตะลุมบอลกันเกิดขึ้น

       โดย ดร.วิชิต ได้ชี้แจ้งถึงเรื่องนี้ว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น คงยากที่จะบอกว่าแฟนบอลทีมใดเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดังนั้น ในเบื้องต้นตนขอระบุว่า ทั้งสองทีมมีความผิดร่วมกัน สำหรับเรื่องการคาดโทษนั้นจะปรับทันที ทีมละ 100,000 บาท และอาจจะมีการเพิ่มบทลงโทษในภายหลังอีกด้วย ตามความเหมาะสมต่อไป แต่ทั้งนี้ ยังต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง เพื่อหาความชัดเจนในการชี้ชัดบทลงโทษในวันจันทร์นี้ต่อไป

                                                               ไม่เคลียร์เรื่องเพิ่มทีมไทยลีก

       หลังจากนั้น ดร.วิชิต ได้หารือในที่ประชุมในเรื่องของการเพิ่มทีมในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเป็น 18 ทีม ด้วยว่า การเพิ่มทีมนั้นตอนนี้อยู่ในช่วงที่กำลังพูดคุยกัน ซึ่งตนคิดว่าต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่นผลกระทบต่อโปรแกรมทีมชาติ รวมถึงกติการะยะเวลาการแข่งขันด้วย

       ซึ่งในส่วนของศึก ไทยลีก กับ ดิวิชั่น 1 นั้น คาดว่าไม่น่าเป็นปัญหา เพราะเหลือแค่การวางโปรแกรมว่าจะะจัดอย่างไร ที่ต้องพูดคุยก็เป็นเรื่องทีมดิวิชั่น 2 ที่จะขึ้นชั้น ซึ่งทั้งหมดที่ได้พูดคุย และหากได้บทสรุป ทางเราก็จะส่งเรื่องให้ทางสมาคมฟุตบอลฯ พิจารณาต่อไป

                                                             ปีหน้าต้องตามมาตรฐานเอเอฟซี

       หลังจากนั้น ดร.วิชิต ได้ชี้แจงในเรื่องของข้อกำหนดและกฎระเบียบ ที่มีไว้ควบคุมใช้อัฒจันทร์ในการแข่งขันต่างๆ ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน ด้วยว่า หลังจากที่เอเอฟซี ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของลีกบ้านเรา เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

       ทำให้ตนทราบปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของสนาม ที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ในฤดูกาลหน้าไม่ว่าจะเป็น ความกว้าง, ความยาว ของสนามควรให้ได้มาตราฐานมากกว่านี้, ไฟส่องสว่าง แต่สนามควรจะต้องมี แม้ว่าทางเอเอฟซี ต้องการความส่องสว่างไว้ที่ 1,200 ลักซ์ แต่ไทยลีก ณ ตอนนี้ยังไม่ต้องถึงก็ได้ แต่อย่างน้อยตนขอให้บรรดาทีมต่างๆ มีไว้ก่อน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มมาตราฐานของแต่ละทีมให้สูงขึ้น

                                                           เพิ่มโทษไฟสนาม 5 หมื่นเป็น 1 แสน

       ต่อด้วยการประชุมฝ่ายผู้ควบคุมการแข่งขันในการพิจาารณาบทลงโทษ ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยหลังจากที่ได้รับการชี้แจงว่า ปัญหาในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่สนามเทศบาลตำบลหนองปรือ ระหว่าง พัทยา ยูไนเต็ด พบกับ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่ไฟสนามไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และได้มีการหยุดการแข่งขันระหว่างเกมเพื่อรอดูความพร้อมของไฟสนาม

       ซึ่งเรื่องดังกล่าว ดร.วิชิต ได้แสดงความคิดเห็นว่า แม้ว่าเกมการแข่งขันจะหยุดลง แต่ทุกอย่างยังอยู่ในกฎที่วางไว้ก็ไม่มีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าถ้ามีปัญหาในลักษณะนี้ อีก จะเพิ่มโทษปรับจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท ทันที

       สำหรับในช่วงสุดท้ายของการสัมมนา ได้มีการพูดถึงการแก้ไขระเบียบการแข่งขันในฤดูกาลหน้าอีกด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนต้องแจ้งทาง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก รับทราบด้วย, ด่าทอผู้ตัดสิน หรือผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยคำหยาบคาย จากโทษปรับ 10,000 บาท ให้เป็น 20,000 บาท และห้ามลงแข่ง 2 นัดด้วย และจากนั้นในเมื่อ 21.00 น. การสัมมนาในวันแรก ก็ได้เสร็จสิ้นลง ส่วนการสัมมนาในวันเสาร์ จะเริ่ม 08.30 น. ไปจนถึง 11.30 น. เป็นต้นไป