ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ยอดกองหน้าเลือดอุรุกวัยของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ยืนกรานชัดเจนว่ายังแฮปปี้กับต้นสังกัดปัจจุบัน และไม่เคยได้รับข้อเสนอจริงจังจากบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างที่ตกเป็นข่าวลือในช่วงซัมเมอร์ พร้อมเผยประสบการณ์ที่ได้เล่นภายใต้การกุมบังเหียนของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด มีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้

     ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยของแอตเลติโก มาดริด สโมสรดังแห่งเวทีลา ลีกา ออกมายืนยันหนักแน่นว่ายังมีความสุขดีกับชีวิตค้าแข้งในถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อน และไม่เคยได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการจากทีมใดเลย หลังจากตกเป็นข่าวลือกับบรรดายักษ์ใหญ่ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า,เรอัล มาดริด หรืออินเตอร์ มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
 
     หัวหอกเจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ออกมาให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ตส์ สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ เมื่อเดือนก่อนว่าอาจจะย้ายออกจากถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อน ถ้าหากได้รับข้อเสนอที่ถูกใจเข้ามา
 
     อย่างไรก็ตาม สตาร์วัย 31 ปี กล่าวกับ ฟร้องซ์ ฟุตบอล นิตยสารลูกหนังชื่อดังแดนน้ำหอม หลังจากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลฟีฟ่าบัลลังดอร์ว่า "ผมรู้สึกดีเหลือเกินที่ได้อยู่กับแอตลิโก มาดริด ที่นี่คือสโมสรที่เสนอสิ่งที่ผมต้องการทุกอย่างให้แก่ผม ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ พูดตามตรงผมไม่ได้รับข้อเสนออย่างจริงจังในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา"
 
     ฟอร์ลัน แสดงความรู้สึกว่าในตอนนี้เขาได้ถึงจุดสุดยอดของการเป็นนักเตะอาชีพแล้ว หลังจากได้รับเกียรติยศมากมายไม่ว่าจะเป็น รางวัลรองเท้าทองคำดาวซัลโวยุโรป 2 ครั้ง ในปี 2004 และ 2009 ก่อนจะคว้าถ้วยแชมป์ยูโรปา ลีก กับทัพ "ตราหมี" เมื่อซีซั่นที่แล้ว
 
     "ผมได้ผ่านประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อในอาชีพของผม ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่สามารถรู้สึกถึงความสมบูรณ์แบบนี้ตอนอายุ 22 ปีได้หรอก ในช่วงเวลานั้น ผมยังเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และผมก็ไม่ได้มีโอกาสลงสนามมากนัก ผมรู้สึกพัฒนาได้ช้าเล็กน้อย แต่ผมรับรู้ว่าผมได้เรียนรู้หลายๆสิ่งจากที่นั่น วันนี้ ในวัย 31 ปี ผมได้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว"
 
     ขณะเดียวกัน ศูนย์หน้าจอมทะลวงตาข่าย ยอมรับอีกว่าสาเหตุที่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งมากขนาดนี้ เป็นเพราะประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแห่งทัพ"ปีศาจแดง" ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแจ้งเกิดในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังทำผลงานสังหารได้เพียง 10 ประตูจากการลงสนาม 63 นัดในลีกเมืองผู้ดี ที่เป็นการเล่นในฐานะตัวสำรองถึง 40 นัด
 
     "ตอนที่ผมมาถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมต้องการลงเล่นเพื่อที่จะปรับตัว แต่ผมได้ลงเล่นจากม้านั่งสำรองเป็นเวลาเพียงแค่ 5 หรือ 10 นาที ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะปรับตัวได้ แต่เมื่อผมได้ย้ายสู่ บียาร์เรอัล ผมได้รับโอกาสที่จะแสดงถึงตัวตนของผมในทันที และผมก็สามารถปรับตัวได้ในสนาม ไม่ใช่ในซุ้มม้านั่งสำรอง อย่างที่ผมเคยได้รับที่แมนเชสเตอร์"
 
     "อย่างไรก็ตาม ผมไม่สงสัยเลยว่าประสบการณ์ในอังกฤษของผมนั้น มีส่วนช่วยกับความสำเร็จของผมในภายหลัง ผมได้เรียนรู้หลายอย่างจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับวิธีที่เขาเตรียมพร้อมก่อนแข่งขัน, วิธีที่เขาแสดงมันกับนักเตะ, วิธีการทำงานของเขา และคุณภาพของเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ผมจะไม่มีวันเสียดายกับเวลา 2 ปีครึ่ง ที่ผมได้ยืนอยู่ข้างเขา"
 
     พร้อมกันนี้ อดีตดาวเตะอินดิเพนเดียนเต้  ซึ่งติดอยู่เป็น 1 ใน 23 นักเตะที่มีสิทธิคว้ารางวัล บัลลงดอร์ 2010 ยอมรับว่าโอกาสได้รับลูกฟุตบอลทองคำคงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับตัวเขา แต่การมีชื่อในลิสต์เข้าชิงก็รู้สึกเป็นเกียรติมากพอแล้ว
 
     "ผมสามารถเห็นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเวิลด์คัพเป็นรางวัลที่น่าสะสม ผู้คนในอุรุกวัยคงจะยกย่องมันในฐานะรางวัลสำหรับประเทศอย่างแน่นอน แต่มันเป็นความสุขมากเหลือเกินกับแค่เพียงได้อยู่ในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลที่น่าเหลือเชื่ออย่าง บัลลงดอร์ ผมรู้สึกได้รับเกียรติที่ยิ่งใหญ่จริงๆ"