"เดอะ กล๊าส แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี เจอพิษสงของเจ้าบ้านเล่นงานเป็นระลอก คราวนี้เป็นอาหารที่จัดมาแบบน่าเกลียด ไม่ถูกต้องตามโภชนาการ "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีม ของขึ้นต้องเข้าไปขอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนให้ พร้อมลั่นแก้เกมคู่แข่งมาอย่างดี เชื่อมีเฮแน่นอน เตือนแผงหลังจะต้องประกบ อเล็กซานเดอร์ ดูริค อย่างมีสมาธิ ขณะที่ ชาตรี ฉิมทะเล โวพร้อมลงกะซวกตาข่ายเพื่อเอาแชมป์ สิงคโปร์ คัพ มาให้ได้

     วัสพล ปิ่นทอง ผู้สื่อข่าวนสพ.สยามกีฬารายวัน, โยธิน อารีย์กาเลิศ ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาทีวี และ วรากร บรรจงแก้ว ช่างภาพสยามกีฬาทีวี รายงานความเคลื่อนไหวของทีม "เดอะ กล๊าส แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่มีคิวลงเล่น "สิงคโปร์ คัพ 2010" รอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ แทมปิเนส โรเวอร์ส ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย. นี้ ที่สนามจรัญ เบซา สเตเดี้ยม เวลา 18.30 น. ตามเวลาของท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทยถึง 1 ชั่วโมง

      ความเคลื่อนไหวของทัพนักเตะ "เดอะ กล๊าส แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี หลังจากที่ได้บินมายังประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อทำศึก "สิงคโปร์ คัพ 2010" กับ แทมปิเนส โรเวอร์ส ในวันที่ 14 พ.ย. นี้ ที่สนามจรัญ เบซา เวลา 19.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศสิงคโปร์

      ล่าสุดช่วงเช้าของวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ บีจี ได้ปล่อยให้นักเตะพักผ่อนคลายเครียดในช่วงเช้า แต่กลับต้องพบสิ่งที่เจ้าภาพสร้างปัญหาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือเรื่องอาหารของทางโรงแรม พาราเมาต์ ที่ไม่ถูกตามหลักโภชนาการ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีมคนเก่ง ถึงขนาดเอ่ยปากจะยอมควักกระเป๋าส่วนตัว เพื่อพาผู้เล่นกับทีมงานของตนไปกินอาหารที่ดีกว่านี้

      ทว่าหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงแรมเกี่ยวกับการจัดเตรียมอาหารค่ำในคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีกับข้าวให้เพียงอย่างเดียว ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า ให้ทางโรงแรมจัดให้กินพร้อมกับแขกโรงแรม เพื่อจะได้มีกับข้าวให้เลือกมากขึ้นกว่าแยกกินเป็นกรุ๊ป 

       ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ พร้อมด้วยผู้บริหารทีม เดินทางไปที่สนามบินชางฮี เพื่อไปรับแฟนบอลที่โชคดีของทีมจำนวน 10 คน จากการจับฉลากในการมาร่วมเชียร์ ขุนพลบางกอกกล๊าส เอฟซี ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ศึก "สิงคโปร์ คัพ 2010" รอบชิงชนะเลิศ พร้อมทั้งยังมีเหล่าแม่บ้านของนักเตะที่จับเครื่องมาเชียร์คนรักด้วยตัวเองอีกด้วย

      ส่วนในช่วง 13.30 น. ได้พาแฟนบอลที่ตามมาทุกคน ออกไปทัวร์เมืองสิงคโปร์ และปล่อยให้จับจ่ายซื้อของได้ตามอัธยาศัย ก่อนที่เวลา 17.30 น. จะยกพลออกไปซ้อมที่สนามโบโดะ ซึ่งเป็นรังเหย้าของสโมสร เกย์ลัง ยูไนเต็ด โดยเน้นในเรื่องจังหวะการเข้าทำประตูให้เฉียบขาด ประกอบกับเกมรุกและรับที่ต้องเฉียบขาด ใช้เวลาการซ้อม 1 ชั่วโมงครึ่ง ทุกอย่างจึงเสร็จสิ้นลง

      โดยเสี่ยเหน่งได้กล่าวถึงเกมนัดบีบหัวใจนี้ว่า "ตอนนี้ได้พยายามแก้ปัญหาเรื่องอาหารและที่พัก ซึ่งจะเป็นการรบกวนสมาธินักเตะก่อนลงทำศึก โดยเกมนัดนี้จะมีกองเชียร์บางกอกกล๊าสร่วมเดินทางมาเชียร์ถึงสิงคโปร์ด้วย 

     "และเมื่อครั้งที่แล้วเราเล่นเข้ารอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเจอกับ เกย์ลัง ยูไนเต็ด และเป็นฝ่ายที่บุกอยู่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถที่จะจบสกอร์ได้ จนเราเจอพวกเขาสวนกลับ และเรากลายเป็นฝ่ายที่พลาดท่าแพ้ไป ทำให้นักเตะทุกคนต่างผิดหวัง อีกทั้งยังมีผู้เล่นหลายคน ลงไปนอนร้องไห้ที่พื้นสนาม"

     "เพราะฉะนั้นในเกมที่เราจะเล่นกับทางแทมปิเนส เราจะใช้วิธีการเจาะทะลุทะลวง บีบพื้นที่ไม่ให้พวกเขาได้เล่นมากนัก และจะต้องมีความเฉียบขาดในการทำประตู"

     นอกจากนี้ "โค้ชอู๊ด" อนุกูล กันยายน โค้ชผู้รักษาประตู ยังได้พูดถึง อเล็กซานเดอร์ ดูริค ที่อาจจะใช้ความสูงใหญ่ ในการเข้าทำประตูในเกมนี้ว่า หากเราหวังที่จะเพิ่งผู้รักษาประตูอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะบรรดากองหลังจำเป็นต้องช่วยกันเล่น และไม่พยายามเปิดโอกาสให้กับเขา ได้ครองบอลไว้กับตัวนานมากนัก

      เช่นเดียวกับ กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายทวารจอมเก๋า ที่เคยผ่านการฟาดแข้งกับ อเล็กซานเดอร์ ดูริค ในนามทีมชาติมาแล้ว โดยเจ้าตัวได้พูดถึงแท็กติกในการสกัด หัวหอกรายนี้ว่า แม้ว่าเขาจะอายุ 40 ปี แต่ความสูงที่เล่นลูกโหม่งได้ดี ไม่เทอะทะ คล่องแคล่วกับการพาบอล ซึ่งเพื่อนร่วมทีมทุกคน จะต้องชิงจังหวะเล่นก่อนที่เขาจะได้บอล เพื่อพลิกมาทำประตู

      ส่วน "ซูเปอร์เบิร์ท" สุธี สุขสมกิจ ซึ่งเป็นอดีตนักเตะ แทมปิเนส โรเวอร์ส เมื่อฤดูกาลก่อน ได้กล่าวถึงความหวังในเกมนี้ว่า "ผมมั่นใจว่าหากเขาประมาทผม พวกเขาจะต้องเสียใจแน่นอน และผมไม่สนใจด้วยว่าเคยเล่นสโมสรนี้มาก่อน เพราะตอนนี้ผมเป็นนักเตะของบางกอกกล๊าส ซึ่งผมจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ หวังว่าจะนำถ้วยใบนี้ กลับไปให้กับแฟนบอลได้ฉลองกันส่งท้ายปี"

      ด้าน ชาตรี ฉิมทะเล กองหน้าดาวซัลโวของทีม ซึ่งซัดไปแล้ว 5 ประตู นำเป็นดาวซัลโวรายการ "สิงคโปร์ คัพ 2010" ให้สัมภาษณ์ เกมที่จะถึงนี้ว่า "ผมไม่เคยที่จะกลัวเลย แม้ว่าเราจะมีนักเตะเพียงแค่ 13 คน เท่านั้น ซึ่งผมก็หวังว่าจะสามารถทำประตูได้ เพื่อพาทีมคว้าแชมป์ในปีนี้ หลังจากที่ผงาดหวังมาในช่วงฤดูกาลที่แล้ว"

      ต่อจากนั้นผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ได้โอกาสไปสัมภาษณ์ทาง "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช กุนซือของ แทมปิเนส โรเวอร์ส ถึงขอบสนาม เนื่องจากรังเหย้าของพวกเขา ติดกับสนามของ เกย์ลัง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขุนพล บางกอกกล๊าส เอฟซี ทำการซ้อม

      และโค้ชป้ำได้มองเกมนี้ไว้ว่า "อันที่จริงทีมของเราได้ไปเล่นในศึก เอเอฟซี คัพ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเราจบเป็นอันดับที่สองในตารางเอสลีก แต่ผมอยากจะคว้าแชมป์ถ้วยใบนี้มาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเตะและแฟนบอลของเรา ภายหลังจากที่ซีซั่นนี้ยังไม่มีแชมป์ให้กับกองเชียร์ได้ชื่นชม"

      ด้านผลงานใน สิงคโปร์ คัพ ของทั้ง 2 ทีม ประจำฤดูกาลนี้ ปรากฏว่า ทาง แทมปิเนส โรเวอร์ส ขี่กว่า บางกอกกล๊าส เอฟซี อยู่นิดหน่อย โดยพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

      เริ่มจากรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ วู้ดแลนด์ส เวลลิงตัน 2-1 (ห), รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ชนะ บาเลสเตียร์ คัลซ่า 3-0 (ห), นัดสอง ชนะ บาเลสเตียร์ คัลซ่า 3-1 (ย), รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ชนะ ยัง ไลออนส์ 2-0 (ห), นัดสอง ชนะ ยัง ไลออนส์ 1-0 (ย)

     ขณะที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ของขุนพล "เดอะ กล๊าส แร็บบิต" ชนะ สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ 5-3 (ย), รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ชนะ เซาท์ เมลเบิร์น 3-1 (ย), นัดสอง เสมอ เซาท์ เมลเบิร์น 3-3 (ห), รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เสมอ เอตอยเล่ 1-1 (ห), ชนะ เอตอยเล่ 2-0 (ย)

     แต่สถิติของบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ยังข่มได้ในปีนี้ อยู่ที่การเข้าชิงรายการ ซูเปอร์ คัพ 2009 กับ ควีนส์ คัพ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเพลงแข้งบีจีกวาดมาได้ทั้งหมด

      สำหรับผู้เล่นบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่น่าจะลงสนาม ในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู กฤษณะ กลั่นกลิ่น, แบ็กขวา ทนงศักดิ์ ประจักกะตา ด้านซ้าย ศุภชัย คมศิลป์ คู่เซนเตอร์เป็นการจับคู่กันระหว่าง อำนาจ แก้วเขียว และ ภานุวัฒน์ ไฟไหล ริมเส้นด้านซ้ายเป็นทาง สุธี สุขสมกิจ ทางขวาใช้ วสันต์ ฮมเสน 

      คู่กองกลางมี พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เดินเครื่องร่วมกับ คูนิฮิโกะ ทากิซาวะ ขณะที่ในแดนหน้า พอล เอ็คโคลโล่ จะลงกะซวกตาข่ายร่วมกับ ชาตรี ฉิมทะเล ดาวซัลโวสูงสุดในขณะนี้ ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูด้วยกัน