"บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย ออกโรงยันเอง การเพิ่มทีมลีกลูกหนังไทยปีหน้าเป็น 18 ทีม มีแต่ประโยชน์กับวงการฟุตบอลไทย ไม่ได้เป็นเหมือนที่บางฝ่ายเข้าใจ แถมสโมสรส่วนใหญ่ ยังเห็นดีด้วย ยันแผนเพิ่มทีมมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่ปี 52 ที่ผ่านมาแล้ว ผลประโยชน์โดยรวมจะตกกับทีมจากลีกดิวิชั่น 2 ภูมิภาค ที่เป็นรากฐานของฟุตบอลอาชีพ ที่จะได้ลุ้นเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

       "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกโรงมายืนยันอีกครั้ง กับการเพิ่มทีมในลีกลูกหนังของไทย 2 ลีก ทั้งสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 ที่จะเพิ่มจาก 16 เป็น 18 ทีมตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป จะเกิดประโยชน์มากกว่าผลเสียต่อวงการลูกหนังไทย

       โดยล่าสุดเมื่อ 15 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา "บังยี" ออกมากล่าวว่า "การที่สมาคมฟุตบอลฯ มีนโยบายให้มีการเพิ่มทีม 2 ลีกในประเทศของไทยอย่าง สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 จาก 16 เป็น 18 ทีม ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าปี พ.ศ. 2554 เป็นต้นไปนั้น อาจจะมีหลายฝ่ายไม่เข้าใจ และตั้งคำถามว่าทำไมต้องเพิ่มทีม

       ผมขอบอกว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บ.ไทยพรีเมียร์ลีกนั้น เป็นเพียงผู้บริหารจัดการแข่งขัน องค์ประกอบสำคัญของคำว่าฟุตบอลอาชีพ ก็คือสโมสรที่เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่เห็นดีด้วย ว่าเราควรจะต้องมีการปรับโครงสร้าง หรือเพิ่มทีมฝ่ายบริหารจัดการแข่งขัน ก็ต้องฟังเสียงจากสโมสรเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นดีด้วย ที่จะให้มีการเพิ่มทีม จาก 16 เป็น 18 ทีม เพราะทุกทีมจะมีรายได้เพิ่มเข้ามา ทั้งจากค่าบัตรและค่าขายสินค้าที่ระลึกของตัวเองในฐานะทีมเหย้า"
    

ลีก ด.2 ได้โอกาสลุ้นสู่ไทยลีกเพิ่ม

       "บังยี" กล่าวต่ออีกว่า "การเพิ่มทีมไม่ใช่ส่งผลดี เพียงแค่ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก แต่ยังส่งผลถึงลีกดิวิชั่น 1, เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ด้วย โดยเฉพาะเอไอเอส ลีกภูมิภาค เป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และถือเป็นระบบของฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง มีแข่งขันกันถึง 74 ทีม หากสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 มีการเพิ่มเป็นลีกละ 18 ทีม ทีมจากเอไอเอส ลีกภูมิภาค ก็จะได้เลื่อนชั้นเพิ่มขึ้นด้วย 

       ไม่ใช่เลื่อนขึ้นไปเล่นลีกดิวิชั่น 1 แค่ 4 ทีม เป็นการส่งเสริมให้ทีมจากภูมิภาค ให้ก้าวไปสู่ลีกสูงสุด ถือว่าเป็นการพัฒนากันไปทั้งระบบ ต่อไปฟุตบอลอาชีพของไทยจะกระจายไปยังภูมิภาคมากขึ้น"
    

ยันไอเดียเพิ่มทีมมีมาตั้งแต่ปีก่อน

       นายกสมาคมฟุตบอลไทย กล่าวต่ออีกว่า "การเพิ่มทีมไม่ใช่เรื่องใหม่ หากยังจำกันได้เรื่องนี้ เรามีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้มาตลอด ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาด้วย ผมมีความเชื่อมั่นว่า ไม่มีฝ่ายไหนที่ได้รับความเสียหายจากนโยบายการเพิ่มทีมครั้งนี้แน่นอน ทุกฝ่ายมีแต่จะได้รับประโยชน์ที่แน่นอนว่าทุกทีมต้องพอใจ เราจะเพิ่มกันตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่มีความพร้อมเท่านั้นเอง แต่ฤดูกาลหน้านั้น เชื่อว่าทุกอย่างจะพร้อมอย่างแน่นอน"

      ส่วนกรณีที่ "บังมาด" สามารถ มะลูลีม รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ประกาศลาออกจากตำแหน่งอุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่มีการเพิ่มทีมในลีกอาชีพ 

      ล่าสุด วรวีร์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาตนมีภารกิจที่ต่างประเทศ ได้เห็นหนังสือลาออกของคุณสามารถ ก็คิดว่าจะต้องยับยั้งเอาไว้ เพราะคุณสามารถเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน อยากพัฒนาวงการฟุตบอลให้ก้าวหน้า และขอยืนยันว่าเราไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่ต้องมาทำความเข้าใจต่อกันว่า การเพิ่มทีมไม่ได้ ทำให้ใครเสียประโยชน์ มีแต่ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย