ฟิล์ม-รัฐภูมิ ควงเจนี่ถ่ายมิวสิกฯปากอย่างใจอย่าง เจนี่รับเครียดหนักกับภาพแชะหวอใน นสพ.บันเทิงดังจนป่วย เผยสภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้น ด้านฟิล์มงดตอบข่าวฝ้าย-อริญรดา ร่ำไห้หลังถูกบอกเลิก...

ตกเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกันจนออกงานอีเว้นท์คู่กันมาแล้ว ล่าสุดนักร้องนักแสดงหนุ่ม ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ยังชวนเพื่อนคนสนิทที่มีข่าวกุ๊กกิ๊กกันอย่างนางเอกสาวหน้าแบ๊ว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ  มาเล่นมิวสิกวิดีโอเพลง "ปากอย่างใจอย่าง" ซึ่งเป็นเพลงที่หนุ่ม ฟิล์ม ถ่ายทอดแรงบันดาลใจออกมาผ่านทางโปรดิวเซอร์ จนถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่ไม่สามารถพูดได้ เพราะเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เอ๊ะ!! มันตรงกับชีวิตจริงของหนุ่ม ฟิล์ม รึเปล่าเนี่ย โดยยกกองถ่ายทำที่คอนโดเดอะริเวอร์ ถ.เจริญนคร 13 งานนี้บรรดานักข่าวเลยตามไปเก็บภาพรวมทั้งสัมภาษณ์ถึงการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ รวมถึงเรื่องข่าวต่างๆที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ในเวลานี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถึงสอบถามถึงข่าวที่เกิดขึ้นทั้งตัว เจนี่ และ ฟิล์ม โดยเริ่มที่สาว เจนี่ ที่มีข่าวว่าเครียดจัดกับภาพแชะเกือบเห็นของสงวนที่ลงใน นสพ.บันเทิงจนล้มป่วยเข้า รพ. เจนี่ก็เผยเพียงสั้นๆว่า "อาการป่วยก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ส่วนที่มีข่าวว่าเข้าโรงพยาบาลด้วยไม่ค่ะ ถามว่าน้ำหนักลดมั้ยก็ใช่ค่ะ มันลดลงไปเอง คลายเครียดยังไงบ้างก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปค่ะ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจตอนนี้ก็ยังไม่ดีอ่ะค่ะ"  ด้านฟิล์มก็ให้กำลังใจ เจนี่ ว่า "ในส่วนตัวผมก็ให้กำลังใจอยู่แล้ว จริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องของผู้หญิงที่เขาถูกกระทำอยู่ ก็อย่าไปพูดถึงกันอีกเลย เพราะวันนี้ผมก็มาทำงานกันด้วยครับ"

และเมื่อถามถึงข่าวที่สาวฝ้าย-อริญรดา ปิติมารัชต์ เสียใจ หลังถูกหนุ่ม ฟิล์ม บอกเลิกผ่านสื่อ หลังคบหาดูใจมา 8 ปี  เจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  "ก็ไม่รู้ครับยังไม่อยากพูดอะไร ถามว่าเขาออกมาพูดคนก็มองเราแย่อีกไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ยังเป็นเพื่อนกันครับ เจอกันคุยกันได้ปกติครับ ที่มีข่าวว่าในงานช่อง9 ที่ช่วยคนน้ำท่วม เจอเขาไม่ทักคือผมไม่เห็นเขามากกว่า เพราะผมก็ทำงานไงครับ ถ้ายังมีข่าวออกมาเรื่อยๆอีกก็ไม่เป็นไรครับถามว่าต่างคนต่างอยู่เลยรึเปล่าก็ไม่รู้ครับ เฉยๆครับ"

พอถามถึงเรื่องการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอครั้งนี้   หนุ่ม ฟิล์ม เผยว่า "วันนี้ก็เพิ่งถ่ายทำได้ประมาณ 3-4 ฉากเองครับ ซีนตอนเช้าจะเป็นการถ่ายซีนอารมณ์แทบทั้งหมดเลยครับ เพื่อให้ซีนยากหมดไปไวๆ ที่เลือกเจนี่เพราะโดยส่วนตัวเรารู้จักกันอยู่แล้ว แล้วพล็อตเรื่องเพลงนี้ผมอยากสื่อว่าก็เป็นความรักของอีกอาชีพนึงที่เป็น ดารา นักร้อง แล้วมีความรักกัน แล้วเป็นความรักที่อย่างในเนื้อเพลงปากอย่างใจอย่าง ก็พูดว่าเป็นเพื่อนกัน  แต่จริงๆแล้วอาจจะเป็นแฟนกัน แต่การพูดแบบนี้มันทำให้การเดินทางของความรักสิ้นสุดลง เพราะมันอึดอัด ก็ดีใจที่เจนี่มาเล่นให้ครับ เพราะเขาเก่งอยู่แล้ว คือในเอ็มวีนี้ผมต้องการคนที่เล่นเก่ง ถ้าเป็นนักแสดงอื่นผมว่าอาจจะยากสำหรับเขาเกินไป ก็เลยต้องเอาระดับนางเอกมา วันนี้ก็ถ่ายเยอะครับอย่างเมื่อกี้ที่เห็นมีทั้งคบมีทั้งร้องไห้ เพราะมันเป็นเพลงที่เศร้ามากครับ ส่วนเลิฟซีนจริงๆไม่มี แต่ว่าในเรื่องมีเพราะว่ามันจะไปหักมุมตอนหลังเดี๋ยวต้องรอดูว่าเพราะอะไร"

"เพลงปากอย่างใจอย่างเป็นเพลงพูดถึงความรักของคนคู่นึงอาจจะเป็นความรักของแฟนกัน หรือผมร้องให้กับแฟนๆ คือทุกเพศทุกวัยฟังได้หมด มันเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับว่าความรักที่มันไม่สามารถพูดได้ เพราะผู้ชายอาจจะเป็นคนที่แบบปากไม่ตรงกับใจ ปากแข็งอะไรอย่างนี้ครับ ผู้หญิงเขาก็จะคิดว่าทำไมทำแบบนี้ไม่รักฉันเหรอ เราก็เงียบ จริงๆเรารักมาก แต่มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ทำให้ผู้หญิงงอน ก็เลยบอกเลิก เราก็เลยยอมเขาว่าเลิกก็เลิกสิ พอตอนหลังมาพบกันอีกครั้งเราก็บอกกับเขาว่าอยากให้เวลามันย้อนกลับคืน ถ้าเราทำได้เราก็จะไม่ทำให้ใครเลยใจอีก มันเป็นเหมือนความในใจที่อยากจะพูดออกมาทั้งหมดในวันนี้ คือมันมีอะไรที่มันมากกว่านั้น"
"ถามว่าที่เลือกเจนี่เพราะเป็นเรื่องราวของเรากับเจนี่หรือเปล่าไม่เกี่ยวครับ เพราะในเรื่องนี้ประเด็นหลักๆคือผมต้องการคนที่เล่นเก่ง เพราะถ้าเกิดว่าเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ผมว่ามันจะนานมากครับ มันจะนานจนถ่ายไม่ได้เลย เพราะหลังจากถ่ายเสร็จวันนี้ผมก็ต้องไปเรียนเต้นต่อ วันรุ่งขึ้นผมต้องไปออกรายการและต้องทำงานติดๆกันเตรียมไว้ ตีสองผมก็ต้องไปถ่ายเอ็มวีข้ามวันข้ามคืนอีก จากนั้นผมก็บินไปอังกฤษแล้ว  ถ้าคนมองว่าเป็นกระแสอีก ก็ไม่กลัวนะครับเพราะว่าถ้าไม่ได้ทำงานร่วมกันในตอนนี้ ในอนาคตเราก็คงต้องมามีผลงานร่วมกันอีกอยู่ดี ก็น่าดีใจมากกว่าที่มีคนเก่งๆมาช่วยเราทำงาน ก็ยิ่งเสร็จไวขึ้นทีมงานก็ไม่เหนื่อยด้วยครับ"

ส่วน เจนี่ เผยถึงการถ่ายทำมิวสิกฯครั้งนี้ว่า "ก็ยากค่ะเพราะมันก็ค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ แล้วก็เวลาถ่ายข้ามไปข้ามมาเราก็จะงงนิดหน่อยว่าเอ๊ะ อันต่อไปจะยังไงดี เจนี่ก็จะให้พี่เขาคอยบอกความเป็นมาก่อน ถามว่าทำไมถึงตกลงรับเล่นก็อย่างที่ฟิล์มบอกว่ารู้จักกัน พอฟิล์มให้มาเล่นก็เล่นให้ค่ะ".