ผลการจับสลากรอบเพลย์ออฟเพื่อหาอีก 2 ทีม ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดฤดูกาลหน้า โดยสายแรก สาย เอ เอ1 แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด, เอ 2 ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี, เอ 3 นครปฐม เอฟซี ส่วน สาย บี บี1 สงขลา เอฟซี, บี2 แบงค็อก ยูไนเต็ด, บี3 ทหารบก ส่วนเงินแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้าที่จะเพิ่มเป็น 18 สโมสรจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นด้วย

       เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง ทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ .ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เดินทางมาเป็นประธานในการจับสลากแบ่งสาย รอบเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 2 ทีม ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดฤดูกาลหน้า โดยมี 6 สโมสร ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรอบนี้ ประกอบไปด้วย 3 ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก นำโดย ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี (อันดับที่ 14), แบงค็อก ยูไนเต็ด (อันดับที่ 15), ทหารบก (อันดับที่ 16) ลีก 3 ทีม จากดิวิชั่น1 อาทิ สงขลา เอฟซี (อันดับที่ 4), นครปฐม เอฟซี (อันดับที่ 5) และ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด (อันดับที่ 6) 

       กฎการจับสลากจะแบ่งเป็น 2 สาย สายละ 3 ทีม เล่นในระบบแบบเหย้า-เยือน เพื่อหาแชมป์ของสาย ขึ้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า โดยผลการจับสลากปรากว่า สาย เอ เอ1 แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด, เอ 2 ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี, เอ 3 นครปฐม เอฟซี ส่วน สาย บี บี1 สงขลา เอฟซี, บี2 แบงค็อก ยูไนเต็ด, บี3 ทหารบก 

       รวมทั้ง ดร.วิชิต แก้วบุญเรือง ยังได้คลอดโปรแกรมการแข่งขันของรอบเพลย์ออฟ ออกมาดังนี้ สาย เอ วันที่ 27 พ.ย. แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด พบ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เวลา 17.30 น., วันที่ 4 ธ.ค. ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี พบ นครปฐม เวลา 18.00 น., วันที่ 11 ธ.ค. นครปฐม เอฟซี พบ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เวลา 16.00 น., วันที่ 18 ธ.ค. แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด พบ นครปฐม เอฟซี เวลา 17.30 น., วันที่ 25 ธ.ค. นครปฐม เอฟซี พบ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เวลา 16.00 น. และวันที่ 31 ธ.ค. ศรีสะเกา เมืองไทย เอฟซี พบ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เวลา 18.00 น. 

       ส่วน สาย บี วันที่ 27 พ.ย. แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ทหารบก เวลา 16.00 น., วันที่ 4 ธ.ค. ทหารบก พบ สงขลา เอฟซี เวลา 18.00 น., วันที่ 9 ธ.ค. สงขลา เอฟซี พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด เวลา 18.00 น., วันที่ 13 ธ.ค. ทหารบก พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด เวลา 18.00 น., วันที่ 18 ธ.ค. สงขลา เอฟซี พบ ทหารบก เวลา 18.00 น. และ แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ สงขลา เอฟซี เวลา 16.00 น.     

"ดร.วิชิต" ยันตัวต่างชาติส่ง 5 ลง 3

        หลังจากที่มีการจับสลากรอบเพลย์ออฟเสร็จสิ้นลง ทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ .ไทยพรีเมียร์ลีก ได้พูดถึงกฎในรอบนี้ว่า "ในรอบนี้เราจะล้างใบเหลืองกับใบแดง ที่นักเตะได้รับในฤดูกาลนี้ออกทั้งหมด ส่วนเรื่องนักเตะต่างชาตินั้น เราให้ส่งได้ 5 คน แต่ลงสนามเพียง 3 คน และไม่มีการบวกโควตาผู้เล่นเอเชียอีก 1 คน เหมือนที่เคยทำ เนื่องจากเราต้องการพัฒนาลีกของไทย โดยให้ผู้เล่นของเราเป็นแกนหลักมากกว่า อีกทั้งยังต้องใช้นักเตะที่ส่งชื่อเข้าแข่งขัน ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย"          

เปิดตลาด 6 ธ.ค., แข้งต่างชาติซื้อก่อน

        ในส่วนตลาดซื้อขายนักเตะของลีกไทยนั้น ทางปราน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก คนดัง ได้เปิดเผยว่า ตนได้เตรียมพร้อมกับเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยจะเปิดในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ถึงวันที่ 9 ก.พ. แต่ผู้เล่นต่างชาติตนเตรียมที่จะให้มีการซื้อขายในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เนื่องจากระบบ ทีเอ็มเอส(TMS) ซึ่งใช้ในการเก็บข้อมูลนักเตะต่างชาติ จะเปิดใช้งานได้ในวันดังกล่าว     

      และทั้ง 6 ทีม ที่เล่นในรอบเพลย์ออฟ สามารถซื้อขายได้ในช่วงนี้เช่นกัน แต่ไม่มีสิทธิ์ส่งลงสนาม เนื่องจาก  ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้ส่งชื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ในซีซั่นที่ผ่านมา และฤดูกาลหน้าส่งรายชื่อนักเตะ 35 คน เหมือนเดิม     

ย้ำทีมที่ขึ้น ด.1 ต้องจดทะเบียนเท่านั้น

         อีกทั้ง ดร.วิชิต ยังได้กล่าวถึงทีมที่อยู่ในดิวิชั่น2 และกำลังฟาดแข้งในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อหาทีมขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น1 ว่า "เราต้องการพัฒนาฟุตบอลให้เข้าสู่ระบบอย่างแท้จริง เพราะนั้นสโมสรที่เล่นอยู่ในดิวิชั่น2 จะต้องจดทะเบียนเป็นรูปแบบของนิติบุคคล มีทั้งสัญญาชื้อขายนักเตะ, สัญญาเช่าสนาม, ค่าเหนื่อยของนักเตะ และรายละเอียดอื่นๆ ก่อนที่จะขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น1"     

ซีซั่นหน้าใช้กฏฟีฟ่าตัดสินทีมทำผิด

        นอกจากนี้ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก หลายสมัย ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินทีมที่กระทำผิด ซึ่งจะถูกลงโทษในซีซั่นหน้าว่า เราคิดถึงเรื่องนี้มาตลอด และในซีซั่นที่ผ่านปัญหาการสร้างความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น แฟนบอลตีกัน, เขวี่ยงขวดน้ำ, ใช้วาจาหยาบคายใส่ผู้ตัดสิน และการมีเรื่องของนักเตะทั้ง 2 ทีม ในฤดูกาลหน้าเราขอย้ำว่าจะมีการลงโทษ โดยใช้กฎระดับชาติของฟีฟ่า อาทิ หากมีการสร้างเรื่องของแฟนบอลกับนักเตะ จะถูกตัดแต้มในทันที รวมทั้งหากมีการซื้อขายผู้เล่นผิดวิธี จะต้องโดนตัดสิทธิ์ห้ามซื้อนักเตะเป็นเวลา 1-2 ปี          

เงินแชมป์เพิ่มแน่แต่รอการตัดสินใจ

         สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัย หลังจากที่ไทยพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ มีเพียง 16 ทีม และแชมป์ได้เงิน 10 ล้านบาท ซึ่งในฤดูกาลหน้าที่จะเพิ่มเป็น 18 สโมสร ทาง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จะมีการเพิ่มเม็ดเงินขึ้นหรือไม่ โดย ดร.วิชิต เผยว่า ตนได้คิดเรื่องนี้มาโดยตลอด และมุมมองของตนการที่มีสโมสรเพิ่มขึ้นมา ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เงินของทีมที่เป็นแชมป์ จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นด้วย ทว่าตอนนี้มันเป็นเพียงแค่นโยบายเท่านั้น ตนต้องขอหารือกันก่อน ถึงจะให้คำตอบในเรื่องนี้ได้          

แบ่งสายบอลเด็กเอฟเอเรียบร้อย

        หลังจากนั้นได้มีการจับสลาก แบ่งสาย ฟุตบอล เอฟเอ ยูธ คัพ 2010-2011 โดยการแข่งขันรายการนี้จะเริ่มฟาดแข้งนัดแรกในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มๆละ 6 ทีม แข่งขันกันแบบเหย้า-เยือน พบกันหมด โดยจะนำที่ 1 และ 2 ของแต่ละสายและอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของ 2 สายผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย  แบบน็อคเอาท์เหย้าเยือน รวมถึงรอบรองชนะเลิศ ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะเล่นกันที่สนามเป็นกลาง 1 นัด  

       ผลการจับสลากมีดังนี้ สาย เอ โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี, เชียงราย ยูไนเต็ด, คิว 1 (ทีมจากเพลย์ออฟ สาย บี ระหว่าง ทหารบก/แบงค็อก ยูไนเต็ด/สงขลา), การท่าเรือไทย เอฟซี, ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร, บีอีซี-เทโรศาสน    

       สาย บี คิว2 (ทีมจากเพลย์ออฟ สาย เอ ระหว่าง แอร์ฟอร์ซฯ/ศรีสะเกษ เอฟซี/นครปฐม), ศรีราชา เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, บุรีรัมย์ พีอีเอ, เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 

       และ สาย ซี พัทยา ยูไนเต็ด, เอสซีจี สมุทรสงคราม, ราชนาวี ระยอง, ทีโอที แคท เอฟซี, อินทรีเพื่อนตำรวจ     

       โดยที่รายการนี้จะแข่งขันนัดแรกวันที่ 11 ธันวาคม 2010 ถึง 26 มีนาคม 2011 ซึ่งสามารถส่งผู้เล่นได้ 30 คน และผู้เล่นต่างชาติอายุไม่เกิน 19 ปีได้ 2 คน