บรรยากาศที่กว่างโจว หายจากเมฆหมอกที่ขมุกขมัว กลายเป็นความชื่นบานให้กับคนไทยไปตามๆ กัน
ทั้งนี้ เสียงเฮดังๆ มาจากสนามกว่างตง ยิมเนเซียม สถานที่แข่งขันเทควันโด ซึ่งที่แห่งนี้คือสถานที่ธงชาติไทยชักขึ้นสู่เสาในตำแหน่งที่สูงที่สุด และเพลงชาติไทยได้กระหึ่มอย่างกึกก้อง ด้วยฝีเท้าการเตะของนักสู้ผู้สวมหัวใจสิงห์นาม ''น้องหยิน'' สริตา ผ่องศรี
''ทีมข่าวสยามกีฬา'' ปักหลักที่กว่างตง ยิมฯ เช่นเคย โดยมั่นใจว่าต้องมีเหรียญให้กับประเทศไทย ซึ่งถ้ามีดวงเสริมเราก็จะได้เหรียญทองแรกให้กับทัพไทยเสียที แม้ว่าชื่อเสียงของผู้ชิงชัยหนนี้คือ ''น้องหยิน'' สริตา ในรุ่น 53 กก. และ รังสิยา นิสัยสม สาวน้อยวัยแค่ 16 ปี ในรุ่น 57 กก.หญิง จะเทียบไม่ได้กับ ''น้องสอง'' บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิก ล่าสุด
สิ่งที่ฟ้องว่าความหวังเหรียญทองวันนี้มีน้อยกว่าเมื่อวาน คือจำนวนผู้สื่อข่าวไทยหันไปเก็บข่าว-ภาพ สนามอื่นกันจนลดน้อยไปกว่าครึ่ง ซึ่ง ''น้องหยิน'' ลงแข่งก่อน กว่าจะเก็บชัยสาวเลบานอน ได้ก็หืดขึ้น มาเฉือนชัยได้ในช่วงท้ายชนะไป 3-0 โดยทางสตาฟฟ์โค้ชแจ้งว่า น้องหยินบ่นว่าอืดไปเยอะ สร้างความใจหายให้กองเชียร์พอสมควร
ประมาณเที่ยง รังสิยาลงแข่งรอบ 16 คน เจอของแข็งเกาหลีใต้ ยอมรับว่าเขาแกร่งจริง เราเพิ่งอายุ 16 ปี ชั้นเชิงสู้เขาไม่ได้ หลุดวงโคจรไปด้วยรอบนี้ นั่นทำให้เราต้องลุ้นกับสาว 19 ที่ชื่อ สริตา ผ่องศรี คนเดียว
ถามว่าน้องหยินจะไปได้ไกลมั้ย แหม! เราต้องเชียร์ไทยกันอยู่แล้ว แม้น้องหยินสาวหน้าตาจิ้มลิ้มจะดูช้ากว่าจอมลุยชาติต่างๆ แต่ทีเด็ดของเธอคือการจับจังหวะ ถ้าเข้าล็อกเมื่อไหร่แต้มจะไหลเข้าทางสาวไทย ทีเด็ดทีขาดเธอไม่เป็นรองใคร
เราไปปักหลักอยู่ที่มิกซ์โซนซึ่งอยู่ข้างสนาม และเจ้าภาพเขาจะนำนักกีฬาผ่านทางนี้ให้สื่อได้สัมภาษณ์เล็กๆ น้อยๆ แต่เหมือนกับโค้ชกำชับว่าอย่าเพิ่งให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่จะมีน้องหยินนี่แหละที่ดูเป็นมิตรมาก แวะคุยกับสื่อไทย-เทศอยู่ตลอด สร้างความรู้สึกที่ดีอย่างมาก
จากรอบแรกที่พิชิตหืดต่อเลบานอน โคจรมาเจอสาวโรตี ตอนแรกก็ดูฝืดๆ มาได้แก้เกมที่ดีจากโค้ชให้เล่นแบ็กคิก เหมือนงูเจอเชือกกล้วย น้องหยินสอยไป 2 ดอกติดๆ เก็บไป 4 แต้ม หลังจากนั้น คิดอะไรไม่ออกแบ็กคิกเข้าไว้ สาวโรตีเป็นงง และสริตาชนะไปสบม.
ตอนนี้ น้องหยินเราได้เหรียญทองแดงในมือแล้ว แต่จะแปรเป็นเหรียญอื่นได้หรือไม่ ด่านต่อไปคือ ควอน เอิน คยุง สาวโสมคือคำตอบ เท่าที่เราได้ชมการแข่งของสาวกิมจิ
ขอบอกได้เลยว่า เราเป็นรอง เพราะเขารอบจัดมาก เทคนิคเตะทุกแบบ ทุกท่ามีหมด และยังมีลูกพิสดารให้เห็นอีกต่างหาก
เมื่อเจอกันต้องบอกว่าน้องหยินดวงเฮงมหาศาล แม้จะไล่บี้เบียดอย่างสนุก แต่เหมือนเหลี่ยมเราเป็นรองนิดๆ เสียวเสียแต้มเป็นระยะๆ จนเสมอกันต้องต่อเวลาแบบซัดเดนเดธ เราได้เฮงจากที่เขาเป็นต่อ แต่กลับล้มลงไปโอดโอยกุมเข่า พวกสื่ออย่างไรได้แต่ภาวนากึ่งแช่งชักให้สาวกิมจิลุกไม่ขึ้นไปซะ
เหมือนเสียงภาวนาจะเกิดเป็นจริง ลุกขึ้นมาแป็บก็เดี้ยงอีก แต่สาวโสมก็อึดทายาท พยายามจะลุกให้ได้ทั้งที่หมดสภาพ เป็นเช่นนี้สองสามครั้ง พี่เลี้ยงต้องยอมโยนผ้าขอแพ้
เฮ้! เราเข้าไปชิงแล้วเจอกับสาวญวน น่าจะกระดูกน้อยกว่ากิมจิหน่อย ที่ไหนได้สาวเหงียนกลับเป็นแชมป์รุ่นที่ใหญ่กว่า คือ 57 กก. ยอมอดอาหารลงมาเล่น 53 กก. รูปร่างเธอผอมสูง เท้าไวมาก ดีกรีเป็นแชมป์ซีเกมส์เสียด้วย
ด้วยความเกร็งหรืออย่างไรไม่ทราบ น้องหยินเหมือนรู้ว่าเจอของแข็ง ไม่ค่อยบุ่มบ่ามมากนัก ยิ่งเสีย 3 แต้มจากโดนหัวไปก่อนยิ่งน่ากังวลใจสำหรับกองเชียร์ ยังดีที่ไล่เตะลำตัวมา 1-3 พอจะใจชื้น เพราะคะแนนแบบนี้ พอเตะลูกใส่ศีรษะได้จะกลับเป็นผู้ชนะทันที แต่มาเจอสอยเข้ากระบอกตาจนนอนแน่นิ่งไปร่วม 5 นาที ในยก 3 เหมือนจะแข่งไม่ได้แล้วเพราะตาลืมไม่ขึ้น ถ้าฝืนลงไปก็มีหวังโดนเตะเถิดเทิง
น้องหยินมาเล่าภายหลังว่า แทบถอดใจ แต่ได้ยินเสียงคนไทยร้องสู้ๆ เหมือนเป็นกำลังใจอักโข ลุกขึ้นมาเพียงไม่กี่วินาที เท้าไวเกี่ยวหัวทำแต้มกลับขึ้นนำเป็น 4-3 คนไทยกระโดดโลดเต้นเป็นการใหญ่ ก่อนเข้าวินอย่างหวาดเสียวที่สุด
ความยินดีปรีดาตลบอบอวล ทุกๆ ย่างก้าวของสริตาถูกจับจ้องอย่างชื่นชมยินดี และอยากนำไปเป็นข่าวให้คนไทยได้ทราบ เพราะนี่คือเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกในเอเชียนเกมส์ของกีฬาเทควันโด ที่พลาดมาตลอด
รวมทั้งช่วยระบายความอัดอั้นให้กับคนไทยที่ได้เฮเสียทีที่ได้เหรียญทองเหรียญแรกแล้ว ไชโย้!
นอกจากเหรียญทองเหรียญแรก ที่ทำได้จากน้องสริตา ทัพไทยยังคว้าทองแดงได้อีก 1 เหรียญ จากรายการที่ไม่คาดคิดคือ เรือมังกร 1,000 ม.หญิง โดยสมาคม กล่าวว่า เป็นเหรียญแถมเพราะไม่ได้คาดหวังมาก่อน เราถนัดระยะ 250 ม. และ 500 ม. มากกว่า แต่พอดีมือเฮงจับได้สายเบาจึงทะลุเข้าสู่รอบ 3 ทีมสุดท้าย นั่นคือมีเหรียญในมือ และเก็บเหรียญทองแดง มาได้นั่นเอง
สุขสมหวังกันไปแล้วแฟนกีฬาชาวไทยก็คงอยากที่จะเห็นเหรียญทอง และได้ร้องเพลงชาติไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจากนี้ลมหนาวจะพัดเอาเหรียญทองมาใส่มือนักกีฬาไทย
เหรียญแล้วเหรียญเล่า โดยเวลานี้หลายชนิดกีฬามองเห็นเหรียญทองลอยอยู่ตรงหน้า
รอแค่นักกีฬาไทยหยิบมันมาคล้องคอเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรือใบทีมชาติไทย ที่เวลานี้ทำผลงานกระหึ่มทะเลจีน ณ เมืองชานเหว่ย ด้วยการพาเหรดขึ้นยึดหัวหาดถึง 3 รายการ ทั้งโฮบี้ 16 จากสองพี่น้อง ''วงศ์ทิม'' เรือเอกดำรงศักดิ์ -กฤษดา ในฐานะแชมป์เก่า และมีแต้มเสียน้อยกว่าคู่แข่งขันอันดับ 2 ถึง 7 แต้ม อีก 4 เที่ยวสุดท้าย แค่ประคองเหรียญทองมาถึงมือแน่นอน
นอกจากนี้ ''น้องนาย'' นพเก้า พูนพัฒน์ สาวน้อยวัย 15 ปี ดีกรีแชมป์โลก ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ รั้งอันดับ 1 รวมไปถึง ''เจ้าท็อป'' กีระติ บัวลง แชมป์โลกเยาวชนประเภทเลเซอร์เลเดียล
แม้จะวัยเพียง 17 ปี แต่ต่อกรกับรุ่นใหญ่ได้ชนิดวงการเรือเอเชียต้องจับตามอง เพราะไล่จี้แล่นใบจากแดนอาทิตย์อุทัยแค่ปลายจมูก มีแต้มเสียมากกว่า 2 แต้มเท่านั้น
โค้งสุดท้ายอีก 4 เที่ยว ความมั่นใจบวกแรงเชียร์อาจส่งหนุ่มน้อยจากดเมืองนครพนมขึ้นโพเดียมรับเหรียญ ทองก็เป็นได้ ขณะที่อีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น 420 ชาย, 402 หญิง ก็มีลุ้นเหรียญรางวัลให้เชยชม
ย้อนกลับมาที่ฝั่งกว่างโจว เซปักตะกร้อกีฬาความหวังเหรียญทองของชาวไทย เวลานี้ยังไม่รู้จักคำว่าปราชัย เกี่ยวก้อยกันเองทั้งชายและหญิงเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อย โดยชายจะฟัดกับตะกร้อยุ่น หญิงไทยทำศึกกับคู่แค้นเวียดนาม
งานนี้สมาคมตะกร้อหวังกวาดทั้ง 2 เหรียญทองทีมชุดชาย-หญิง มาให้ชาวไทยได้ชื่นชม ก่อนไล่ล่าอีก 2 ทองที่เหลือในประเภททีมเดี่ยวชาย -หญิง มอบเป็นของขวัญปีใหม่
ส่วนกีฬาอื่นๆ แฟนกีฬาไทยก็อย่าพลาดร่วมส่งใจเชียร์ให้ไปถึงฝั่งฝัน นำความสำเร็จกลับบ้าน...
![ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน 0-0 จ่อลิ่วน็อกเอาต์เอเชียน คัพ 2023 [Player Ratings]](//uimg.7mth.com/photo/small/20240123/20240123104123716066280.jpg)
![ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน 0-0 จ่อลิ่วน็อกเอาต์เอเชียน คัพ 2023 [Player Ratings]](http://uimg.7mth.com/photo/small/20240123/20240123104123716066280.jpg)
