เอซี มิลาน เก็บเพิ่มอีก 3 คะแนน หลังจากที่เปิดรังเฉือนเอาชนะ ฟิออเรนติน่า 1-0 หนี ลาซิโอ รองจ่าฝูงเป็น 4 คะแนน ขณะที่ โรม่า เล่นในบ้านเอาชนะ อูดิเนเซ่ 2-0 ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
โรม่า 2 - 0 อูดิเนเซ่
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก

 
     โรม่า เปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก รอรับ อูดิเนเซ่ โดยเจ้าบ้านขาดนักเตะเจ็บไปหลายราย แต่ยังมี ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กับ มาร์โก บอร์ริเอลโล่ นำทัพในแดนหน้า ส่วนผู้มาเยือนขาด โจวานนี่ ปาสกวาเล่ ที่ถูกพักแข้ง กระนั้นยังได้ จามปิเอโร่ ปินซี่ พ้นแบนกลับมา
 
     ผ่านมาไม่นาน อูดิฯ ได้เสียวก่อน จากลูกเตะมุม บอลมาตกหน้า เมาริซิโอ โดมิซซี่ ที่เอี้ยวตัวยิงมุมแคบด้วยซ้าย บอลเช็ดคานออกหลังไป
 
     ทีมเยือนมีโอกาสอีกครั้ง อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส เก็บตกกดเต็มข้อในกรอบเขตโทษ แต่ ชูลิโอ แซร์โจ้ ซูเปอร์เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
 
     เจ้าถิ่นตอบโต้บ้าง ต๊อตติ ซัดด้วยขวาบริเวณเขตโทษฝั่งซ้าย ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ปัดเอาไว้ได้ บอลมาเข้าทาง ฮวน ที่ซ้ำไปติดบล็อกแนวรับผู้มาเยือนหวุดหวิด
 
     พลพรรค "หมาป่าเหลือง-แดง" มาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ เฌเรมี่ เมเนซ เลี้ยงหลบ อันเดรีย โคด้า และ เมห์ดี้ เบนาเตีย แล้วปั่นไซด์ด้วยขวา บอลพุ่งโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสุดสวย ขึ้นนำ 1-0
 
     อูดิฯ เกือบตีเสมอได้ทันควัน อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ สอดขึ้นไปทางซ้าย และยิงไปติดขา แซร์โจ้ ที่ออกมาเร็ว บอลหลุดเข้าข้างตาข่าย
 
     เกมเริ่มเปิด เมเนซ จ่ายให้ ต๊อตติ หลอกชิพจากระยะประมาณ 20 หลา แต่ ฮันดาโนวิช ถอยไปปัดด้วยปลายมือ ก่อนรับไว้ได้เกือบจะบนเส้นประตู จบ 45 นาทีแรก โรม่า ออกนำไปก่อน 1-0
 
     ครึ่งหลัง ฟรานเชสโก้ กุยโดลิน แก้เกมด้วยการถอด โกคาน อินแลร์ ออก พร้อมกับเติมแนวรุกด้วยการส่ง อเล็กซิส ซานเชซ ลงแทน
 
     อย่างไรก็ตาม กลับเป็น "จัลโล่รอสซี่" ที่มาบวกเพิ่มอีกเม็ดในนาทีที่ 56 คราวนี้เป็น เมเนซ ที่ไหลให้ บอร์ริเอลโล่ พลิกตัวหนี โดมิซซี่ เข้าไปยิงเสียบเสาแรก หนีห่างเป็น 2-0
 
     ผู้มาเยือนยังไม่ท้อ ฟลอโร่ ฟลอเรส หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงติดบล็อก แซร์โจ้ ที่ออกมาเร็วอีก
 
     ถัดมา เกร์มัน เดนิส ที่เพิ่งลงเป็นสำรอง ฉกบอลได้จาก ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ แต่กดไปตรงตัว แซร์โจ้ อย่างน่าเสียดาย
 
     ลูกทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาเหลือ 10 คนในนาทีที่ 80 หลัง นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ ไปผลัก โดมิซซี่ ล้มคว่ำในจังหวะเตะมุม ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
 
     จากนั้น อูดิฯ อาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่าดาหน้าบุก ซานเชซ กระหน่ำด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง จบเกม โรม่า จึงทุบเอาชนะ 2-0 กระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางเรียบร้อย
  
     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
     โรม่า : ชูลิโอ แซร์โจ้ ; มาร์โก คาสเซ็ตติ, นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, ฮวน, เปาโล คาสเตลลินี่ ; ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ, มัตเตโอ บริกี, เลอันโดร เกรโก้ ; เฌเรมี่ เมเนซ (ชูลิโอ บาปติสต้า น.63) ; ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ (ฟิลิปป์ เม็กแซส น.83), มาร์โก บอร์ริเอลโล่ (อาเดรียโน่ น.70) 
     สำรองไม่ได้ใช้ : บ็อกดาน โลบอนท์, ชิชินโญ่, ดาวิด ปิซาร์โร่, มีร์โก วูชินิช
  
     อูดิเนเซ่ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ; เมห์ดี้ เบนาเตีย, อันเดรีย โคด้า, เมาริซิโอ โดมิซซี่ ; เมาริซิโอ อิสล่า (เอ็มมานูเอล อั๊กเยมัง-บาดู น.67), โกคาน อินเลอร์ (อเล็กซิส ซานเชซ น.46), จามปิเอโร่ ปินซี่, ปาโบล อาร์เมโร่ ; ควัดโว่ อซาโมอาห์ ; อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส (เคร์มัน เดนิส น.71), อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ 
     สำรองไม่ได้ใช้ : เอมานูเอเล่ เบลาร์ดี้, แบร์นาร์โด้ คอร์ราดี้, โจวานนี่ ปาสกวาเล่, กาบริเอเล่ อันเจลล่า
  
     ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้

 

เอซี มิลาน 1 - 0 ฟิออเรนติน่า

สนาม : ซาน ซิโร่ 

     สตาร์ทเกมมาได้ไม่ถึงนาที "ปีศาจแดง-ดำ" ได้ลุ้นก่อน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไหลบอลออกขวามาให้ ดานิเอเล่ โบเนร่า ซัดเต็มข้อ อาร์เธอร์ โบรุค ต้องเหินปัดข้ามคานออกไป 
 
     นาทีที่ 7 "วิโอล่า" เกือบได้ประตูขึ้นนำก่อนจากลูกฟรีคิกทางด้านขวาหัวกระโหลก กาเอตาโน่ ดากอสติโน่ รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งจะเสียบเสาแรกอยู่แล้วแต่ คริสเตียน อับเบียติ พุ่งปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
 
     ทีมเยือนที่น่าได้ประตูอีกหนจากลูกเตะมุมทางขวา ดากอสติโน่ โยนมาเข้าหัว เปอร์ โครลดรูป ขึ้นโขกบอลจะเสียบคานอยู่แล้วแต่ อับเบียติ ยังปัดออกไปได้อีก
 
     ช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนพักครึ่ง มิลานส่งบอลกระทบก้นตาข่ายสำเร็จ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ แทงบอลทะลุช่องให้ โรบินโญ่ หลุดเข้าไปซัดตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
 
     อย่างไรก็ตามนาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นมาได้ประตูจนได้ ติอาโก้ ซิลวา วางบอลจากด้านขวามาที่เสาสองให้ อิบราฮิโมวิช เดาะบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนตีลังกายิงเข้าไปสุดสวยเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว 
 
     กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง กองเชียร์มิลานมีเสียวในนาที 56 อเลสซิโอ แชร์ชี่ โดนเบียดล้มในเขตโทษ ทว่าจังหวะไม่ชัดเจน ผู้ตัดสินจึงเมินเฉยไม่เป่าให้ แต่แล้วในนาที 62 เป็นมิลานน่าได้จุดโทษบ้าง มาติเยอ ฟลามินี่ หลุดมาทางเส้นหลังเขตโทษกะผ่านบอลเข้ากลางโดนมือ มาร์โก โดนาเดล เข้าเต็มๆ แต่กลับไม่มีเสียงนกหวีดจากท่านเปาซะอย่างนั้น
 
     อย่างไรก็ดี ทีมปีศาจแดง-ดำ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม บอลหลุดมาแถวสองเข้าทาง ติอาโก้ ซิลวา ยิงสวนเต็มข้อส่งบอลพุ่งชนข้างตาข่ายเสียววาบ จากนั้นเป็นจังหวะขึ้นบอลกันสวย สุดท้าย อิบราฮิโมวิช ตั้งป้อมยิงถากเสาไกลน่าเสียดาย
 
     ช่วงท้าย "วิโอล่า" ยังไม่ถอดใจ และเกือบได้เหมือนกัน "จิลา" พลิกหลบ เนสต้า ทางซ้าย ก่อนปาดเรียดให้ ลายิช วิ่งเข้ามาจิ้ม แต่ อับเบียติ ซูเปอร์เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม แถมช่วงทดเจ็บ เปอร์ โครลดรุป ไปทำฟาวล์ อิบราฮิโมวิช โดนใบเหลือง แล้วไปเถียง ทำให้โดนไปอีกเหลือง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม จบเกม มิลาน เฉือนชนะ ฟิออฯ หวุดหวิด 1-0 รั้งเป็นจ่าฝูงต่อไป ทิ้ง ลาซิโอ ทีมอันดับ 2 ห่างเป็น 4 คะแนน

     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ, ดานิเอเล่ โบเนร่า, อเลสซานโดร เนสต้า, ติอาโก้ ซิลวา, จานลูก้า ซามบร็อตต้า, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, มัสซิโม อัมโบรซินี่, มาติเยอ ฟลามินี่, คลาเรนซ์  เซดอร์ฟ, โรบินโญ่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
  
     ฟิออเรนติน่า : อาร์เธอร์ โบรุค, จานลูก้า โคม็อตโต้, เปอร์ โครลดรูป, เชซาเร่ นาตาลี, มานูเอล ปาสกวาล, กาเอตาโน่ ดากอสติโน่, มาร์โก โดนาเดล, มาร์โก มาร์คิออนนี่, อาเด็ม ลายิช, อเลสซิโอ แชร์ชี่, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่
  
     ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ โดมาโต้