เป็นไปอย่างที่คาดคิดว่าเกมรอบรองชนะเลิศ ระหว่างทีมนักหวดลูกพลาสติกสาวทีมชาติไทย กับ เวียดนาม จะต้องดุเดือดตื่นเต้นจนแทบหัวใจวายอย่างแน่นอน ถึงแม้จะเป็นเพียงเกมรอบรองชนะเลิศ หาใช่นัดชิงชนะเลิศ 

บางคนอาจจะคิดว่า สาวญวน แพ้ อินโดนีเซีย มาในรอบแบ่งกลุ่มจนกลายเป็นที่ 2 ของกลุ่ม และต้องเข้ารอบตัดเชือกมาเจอ ไทย นั้น ไม่น่าจะแข็งเท่าอิเหนา แต่เกมกับ เวียดนาม นัดนั้น ถ้าใครได้ชมก็ต้องบอกว่าห่วยมากๆ ไม่ใช่ฟอร์มของ เวียดนาม ที่เราเคยเห็นมาเลย
 
แต่ในเกมตัดเชือกกับ ไทย นั้น ฟอร์มเก่งของ เวียดนาม กลับคืนมาอีกครั้ง
 
เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เวียดนาม แม้จะยังเป็นชุดเดิมๆ ตัวหลักๆ เก่าๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้า แต่สิ่งที่ไทยต้องระวังคือ ''ลูกเสิร์ฟ'' เพราะถ้าเสิร์ฟเข้าเราหนาว และเกมนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ''ลูกเสิร์ฟ'' สาวญวนนั้นอันตรายจริงๆ ยัดเปรี้ยงๆ กินแต้มจากไทยได้หลายครา
 
ไม่ว่าจะเป็น เหงียน ทิ บิก ทุย จอมเสิร์ฟมากประสบการณ์ที่แม้จะตกแต่งมีครอบครัวไปแล้วความฟิตของเธอยังสุดยอด รวมถึง ไล ทิ เฮวียน ทรัง สาวน้อยหน้าใส แต่ก่อนเสิร์ฟทะเลาะกับเนตตลอด แต่เกมนี้ทำเอา ''น้องอุ้ม'' นิตินัดดา แก้วคำไสย์ แบ็กจอมเก๋าของไทยเปิดเสียไปหลายแต้ม
 
ดีที่ เวียดนาม มีเกมรุก เกมฟาด ไม่ค่อยดี ถ้าตัวทำขึ้นตีชัวร์กว่านี้ เดาไม่ออกเหมือนกันเกมจะจบลงอย่างไร
 
ขณะที่สาวไทย เกมนี้ต้องบอกว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และ ''ผิดพลาดเยอะ'' ถ้าโดนคู่ต่อสู้กระทำไม่แปลก แต่นี่มักฆ่าตัวตาย พลาดลูกง่ายๆ  แบ็กแม้จะเสิร์ฟดี แต่ก็คุมหลังไม่ค่อยแน่น ส่วนคู่หน้าแม้จะสอบผ่านแค่ก็เส้นยาแดง ซึ่งถ้าไม่ได้แบ็กช่วยเสิร์ฟมีหวังลงหลุมแน่
 
ดูไปก็เหลือเชื่ออย่างทีมแรก เวียดนาม ขึ้นแท่นไปแล้วไทยตามหลังตั้ง 3 แต้ม แต่ วันวิสาข์ เหมือนผีเข้าเสิร์ฟโป้งเดียวจอด ส่วน ''น้องอุ้ม'' มาคมเอาช่วงท้ายๆ เซตเช่นกัน
 
นัดชิงชนะเลิศกับ จีน ที่เคยแพ้ ไทย มาในรอบแบ่งกลุ่ม 0-3 แต่เกมนี้คงจะไม่เหมือนเกมแรก จากที่เห็นฟอร์มหมวยจีน เชือด อินโดนีเซีย ที่เอาชนะ เวียดนาม มาได้ 2-1 น่าจะชี้ให้ไทย ระวังตัวว่าจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด
 
อีกทั้ง จีน ยังได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์  กำลังใจ ไม่มีอะไรจะเสีย
 
ฝั่งทีมชายของไทย รอบรองชนะเลิศกับ ญี่ปุ่น ก็ยังวัดผลอะไรไม่ได้เช่นเคย เนื่องจากว่า ญี่ปุ่น นั้นความสามารถยังห่างกับไทย มาก เกมนี้ ''กมล ตันกิมหงส์'' เฮดโค้ชส่งสองแบ็กดาวรุ่งต่อคิวลงสนามทั้ง ''โป้งปิดบัญชี'' วีระวุฒิ ณ หนองคาย และ ''ซ้ายสั่งตาย'' ศิริวัฒน์ สาขา
 
แล้วทั้งสองคนก็ระเบิดเพลงเสิร์ฟถล่มยุ่นย่อยยับนำไทยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ไม่ยาก
 
คู่ต่อสู้ของทีมตะกร้อไทยเอเชียนเกมส์หนนี้ ''เสือเหลือง'' มาเลเซีย คู่รักคู่แค้นของไทยยังคงมาตามนัดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง
 
แต่กว่าจะมาถึงได้ก็เกือบจะฟันฝ่าดงหนามมาไม่ได้ เมื่อเกมที่เจอกับตัวแสบ ''โสมขาว'' เกาหลีใต้ ในรอบรองชนะเลิศ ที่เคยยัดเยียดความเจ็บช้ำให้มาเลเซีย ตกรอบรองชนะเลิศตะกร้อคิงส์ คัพ ที่เชียงใหม่ มาแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพราะกว่าจะเอาชนะ เกาหลีใต้ ผ่านเข้ามาได้เลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกัน ทั้งสองทีมชนะมาแบบใจหายใจคว่ำ 2-1 เซต ที้งทีม เอ และ ทีม บี
 
เสือเหลือง กลับมาเป็น เสือเหลือง อีกครั้ง ฟอร์มการเล่นที่เห็นนั้น แบ็กเสิร์ฟดีมากๆ ความคงเส้นคงวามีมากขึ้นทั้งสองทีม ซึ่งเกมกับเกาหลีใต้ นั้นบางคนอาจจะมองว่า เกมรับของมาเลเซีย ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่เจอกับไทย มาเลเซีย ระเบิดฟอร์มได้อย่างน่ากลัวเสมอ และเป็นที่ทราบกันดีว่านี่คือคู่หยุดโลก
 
สำหรับเอเชียนเกมส์ ไทย พบกับ มาเลเซีย เป็นครั้งที่ 6 ในรอบชิงชนะเลิศ นับตั้งแต่ตะกร้อมีบรรจุแข่งขันในเอเชียนเกมส์ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 11 ''ปักกิ่งเกมส์'' ที่กรุงปักกิ่ง ปี 2533 ซึ่ง 2 ครั้งแรก ''เสือเหลือง'' งาบแชมป์ ส่วน 3 ครั้งหลังสุดเป็นของไทย
 
ส่วนครั้งที่ 6 ''กว่างโจวเกมส์'' ต้องติดตาม ''เหรียญทอง'' จะเป็นของใคร