The Chronicles of Narnia 3
Posted 27/11/2010 by kapook
อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย 3 ตอน ผจญภัยโพ้นทะเล (20th century FOX)
กำหนดฉาย : 9 ธันวาคม 2553
แนว : Action/Fantasy
นำแสดง : Ben Barnes, Eddie Izzard (ให้เสียงพากย์), Skandar Keynes, Georgie Henley, Will Poulter, Liam Neeson (ให้ เสียงพากย์)
กำกับ : Michael Apted
การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอนที่ 3 ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1952 ในหนังสือซีรี่ย์ทั้ง 7 เล่มของ ซี.เอส.ลูอิส ที่มีชื่อว่า The Chronicles of Narnia เหตุการณ์เรื่องราวเกี่ยวกับชาวนาร์เนียในอีก 3 ปี ถัดจากนวนิยายก่อนหน้านั้นตอน เจ้าชายแคสเปี้ยน ขณะที่สองพี่น้องพรีเวนซี่คนโตต้องไกลห่างไป ปีเตอร์กำลังเรียนอยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซูซานใช้เวลาในช่วงวันหยุดที่อเมริกา สองพี่น้องคนเล็กอย่างลูซี่และเอ็ดมันด์ต้องฝืนใจเดินทางไปเยี่ยมญาติที่บ้านของเขา ซึ่งใกล้กับแคมบริดจ์ในยามสงครามที่อังกฤษ, ประมาณปี 1943 ความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของลูซี่และเอ็ดมันด์กำลังเกิดขึ้นไปพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องจอมน่ารำคาญอย่าง ยูซตาส คลาเรนซ์ สครับบ์ จนกระทั่งสามเด็กน้อยได้ก้าวข้ามผ่านภาพวาดของเรือดอว์น เทรดเดอร์ เรือเดินสมุทรอันยิ่งใหญ่ที่กำลังแล่นอยู่ ดูน่าจับตาด้วยเหล่ามังกร (หัวเรือที่พรรณาถึงหัวมังกร; ท้ายเรืออันน่าเกรงขาม; และด้านข้างที่ตกแต่งด้วยกาบขวาและกาบซ้ายเรือ)
ผ้าใบก็กลับมีชีวิตขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยไม่สามารถหาคำอธิบายได้ เกิดน้ำท่วมในห้องและเด็ก ๆ ต่างจมลงใต้น้ำก่อนที่จะเข้าไปสู่มหาสมุทรตะวันออกอันยิ่งใหญ่แห่งนาร์เนีย พวกเขาได้รับการช่วยชีวิตจากกษัตริย์แคสเปี้ยนและเหล่าลูกเรือขึ้นไปบนเรือดอว์น เทรดเดอร์ เรือที่มีเสากระโดงอันเดียวกันกับที่บรรยายออกมาให้เห็นทางผลงานศิลปะ เอ็ดมันด์และลูซี่ตื่นเต้นที่จะได้กลับไปยังดินแดนที่ครั้งหนึ่งพวกเขาได้ปกครองในฐานะกษัตริย์และราชินีผู้สูงส่ง; ยูซตาสจอมวีนซึ่งเป็นสมาชิกคนใหม่สำหรับโลกนี้มีความสนใจอย่างเพียงเล็กน้อย ในไม่นานทั้งสามก็ได้เรียนรู้ถึงเหตุผลในการเดินทางของแคสเปี้ยนไปทางตะวันออก: แคสเปี้ยนกำลังทำตามคำสัตย์สาบานแด่บิดาผู้ถูกสังหาร เพื่อค้นหาลอร์ดที่หายไปทั้ง 7 แห่งเทลมาร์ การเดินทางได้พาพวกเขาไปยังเกาะทั้ง 5 ที่แต่ละแห่งได้นำมหันตภัยและการผจญภัยอันไม่คาดฝันมาสู่พวกลูกเรือ และแต่ละแห่งมีสิ่งซ่อนเร้นอันเย้ายวนใจซ่อนอยู่ในตัวของมันเอง แคสเปี้ยนและลูกทีมของเขาพบการคงอยู่ของควันชั่วร้ายสีเขียว ที่ไม่ได้มีอานุภาพในการลักพาผู้คนไปเท่านั้น แต่ยังหมายถึงจิตใจของพวกเขาด้วย
โคเรียอคิน ผู้วิเศษชราที่ชาญฉลาดอธิบายให้แคสเปี้ยนและเหล่าพรีเวนซี่ฟังว่า การทำลายเวทมนตร์อันชั่วร้ายนี้ได้ พวกเขาต้องพบลอร์ดทั้งเจ็ดและนำดาบแต่ละเล่มกลับมามอบให้พวกเขา โดยอัสลานเป็นผู้ปกป้องนาร์เนีย เพื่อรวบรวมนำไปวางไว้บนโต๊ะอาหารอัสลาน ดาบจะมอบพลังอำนาจให้พวกเขา เพื่อเอาชนะหมอกและแม่มด หากไม่มีการรวบรวมของดาบทั้งเจ็ดแล้ว พวกเขาและนาร์เนียจะต้องถูกทำลาย
ภารกิจของเหล่านักเดินทางเป็นเรื่องน่าหวาดกลัว เมื่อพวกเขาต้องเสี่ยงภัยไปกับคลื่นลมที่รุนแรงในทะเล และงูทะเลอันโหดร้ายท่ามกลางภัยอันตรายอื่น ๆ เมื่อพวกเขาลงเรือไปในการเดินทางที่พลิกผันชีวิต ความกล้าหาญและความเชื่อทั้งหลายของพวกเขาถูกยั่วยวนและทดสอบในชะตากรรมของการเดินเรือ และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พาพวกเขาเดินทางไปไกลยังขอบโลก
ขณะที่หนังสือเล่มแรกของลูอิสในชุดหนังสือนาร์เนีย ที่มีชื่อตอนว่า ราชสีห์, แม่มดกับตู้พิศวง อาจเป็นซีรี่ย์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุด สาวกจำนวนมากของเรื่องราวสุดคลาสสิคของลูอิส กล่าวว่า อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย : ผจญภัยโพ้นทะเล เป็นตอนที่ดีที่สุดของ นาร์เนีย ในทั้งหมดเจ็ดตอน "มั่นใจได้เลยว่าเป็นตอนหนึ่งที่น่าหลงใหลที่สุดของหนังสือในซีรี่ย์" ผู้อำนวยการสร้าง แอนดรูว์ อดัมสัน กล่าวว่า "อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย" หวนคืนสู่ความพิศวง, เวทมนตร์, ความน่ากลัวและการผจญภัยของ "ราชสีห์, แม่มดกับตู้พิศวง"
สำหรับการดัดแปลง นาร์เนีย ของเขาในภาคที่สามจากหนังสือมาสู่จอภาพยนตร์ (พร้อมกับผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กันมาอย่างยาวนาน คริสโตเฟอร์ มาร์คัส และ ไมเคิล เพโทรนี่) ผู้เขียนบทภาพยนตร์ สตีเฟ่น แมคฟีลี่ กล่าวว่า "ในแง่ของความท้าทายในการเขียนบทภาพยนตร์คือ การรักษารสชาติเฉพาะตัวของการผจญภัยในแต่ละเกาะ โดยที่ไม่ทำให้ภาพยนตร์มีฉากต่างๆ มากมาย ภาพยนตร์ควรรู้สึกได้ถึงเศษเสี้ยวของภาพยนตร์สองภาคก่อน ที่เป็นการรวมตัวกันของชาวนาร์เนียผู้กล้าหาญและยิ่งใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็มีการเพิ่มดินแดนต่าง ๆ , ประเภทและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราไม่ได้พบเจอในเรื่องราวที่ผ่านมา"
ผู้นำทีมของภาพยนตร์แฟรนไชส์คนใหม่อย่าง ไมเคิล แอ็ปเท็ด ถูกดึงมาร่วมโปรเจ็กต์ได้เพราะ เขากล่าวว่า "ภาพยนตร์เกี่ยวกับการเดินทาง โดยมี 2 สิ่งที่เกิดพร้อมกัน อย่างแรกคือการผจญภัยผ่านคลื่นลมทะเลที่อันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และอีกอย่างคือสิ่งที่อยู่ภายในตัวของเขาเอง เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ อย่างเช่นที่พวกเขาเอาชนะพลังแห่งความชั่วร้ายที่พวกเขาพบในการเดินทาง พวกเขาจึงเรียนรู้การจัดการกับสิ่งล่อใจต่างๆ และทำเช่นนั้นเพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในนาร์เนีย ฉะนั้นสุดท้ายในเรื่องราวของเราแล้ว พวกเขาจะพร้อมออกเดินทางไปตามชีวิตของเขา นั่นเป็นรูปแบบทั่วไปที่ลูอิสนำเสนอเอาไว้ในภาพยนตร์ของเขา"
ขณะที่ยังคงรักษาความรู้สึก, อารมณ์และตัวละครต่าง ๆ ที่แท้จริงของหนังสือเอาไว้ ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องมีการปรับตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพื่อนำเรื่องราวของลูอิสในหนังสือมาสู่จอภาพยนตร์ แอ็ปเท็ดอธิบายว่า "เรื่องราวในหนังสือถักทออยู่ รอบๆ การค้นหาลอร์ดทั้งเจ็ดของแคสเปี้ยน แต่ในภาพยนตร์, ภารกิจคือเพื่อดาบทั้งเจ็ด การคุกคามของหมอกสีเขียวอย่างที่บรรยายเอาไว้ในภาพยนตร์ของเรา ไม่ได้ซึ้งจับใจมากในหนังสือ "ผจญภัยโพ้นทะเล" แม้ว่ามันจะมีการปรากฏให้เห็นในหนังสือต่อมา"
"ในภาพยนตร์ ภารกิจสำหรับดาบทั้งเจ็ดเล่มคือการเสริมความแกร่ง เป้าหมายในการเดินทางของแคสเปี้ยนไปสู่ขอบโลก" ผู้อำนวยการส้รางบริหาร ดักลาส กรีแชม อธิบายเพิ่ม กรีแชมเป็นลูกเลี้ยงของ ซี.เอส.ลูอิส ได้ทำหน้าที่นำหนังสือของลูอิสสู่จอภาพยนตร์มาทั้งชีวิต "มาตรฐานอันเข้มงวดของภาพยนตร์คือการเพิ่มเติมขึ้นจากเนื้อเรื่องในหนังสือ เกี่ยวกับลอร์ดทั้งเจ็ดแห่งเทลมาร์ และถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้ก้าวต่อไปข้างหน้า เพื่อรักษาความตราตรึงใจให้แก่ผู้ชม"
ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างๆ ยังระวังถึงการรักษาใจความหลักของหนังสือที่สมบูรณ์ "อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย : ผจญภัยโพ้นทะเล เป็นเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวกับสิ่งยั่วยวนใจ" กรีแชม กล่าวว่า "ตลอดการเดินทาง แคสเปี้ยน, ยูซตาส, ลูซี่และเอ็ดมันด์ รวมไปถึงลูกเรือทั้งหมดของเรือดอว์น เทรดเดอร์ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและการผจญภัยต่าง ๆ และรับมือกับสิ่งยั่วใจต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ตัวละครแต่ละตัวพบกับสิ่งล่อใจที่อยู่ในตัวพวกเขาหรือพวกเธอลึกๆ ซึ่งเราได้เห็นมาบ้างแล้วจากภาพยนตร์ตอนก่อน ๆ "
"ความกลัวและสิ่งยั่วยวนใจคือประเด็นสำคัญที่ตัวละครต่าง ๆ เผชิญหน้า และประเด็นหลักเหล่านั้นคือจุดที่ชี้ถึง น้ำหนักและเนื้อหาสาระของหนังสือ "นาร์เนีย" แอ็ปเท็ด กล่าวว่า "ภาพยนตร์เตือนเราว่า เราต้องรู้ทันตัวเองเพื่อจัดการกับสิ่งยั่วยวนใจและความกลัว ซึ่งนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ใหญ่"
"สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อเราตัดสินใจจะดัดแปลงหนังสือมาสู่ภาพยนตร์คือ การถามว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร" ผู้อำนวยการสร้าง มาร์ค จอห์นสัน กล่าวว่า "ใจความสำคัญคืออะไร? ผู้แต่งพยายามบอกอะไรแก่เรา และเราจะทำให้ภาพยนตร์เต็มไปด้วยใจความสำคัญในแบบเดียวกันเหล่านั้นไว้ได้อย่าไงร?" ราชสีห์, แม่มดกับตู้พิศวง’ เต็มไปด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น "เจ้าชายแคสเปี้ยน" เกี่ยวกับการสูญเสียและการนำศรัทธาเชื่อมั่นนั้นกลับคืนมา ในภาพยนตร์ตอนใหม่นี้เกี่ยวกับการเอาชนะต่อสิ่งยั่วใจ เรามั่นใจว่าประเด็นหลักนั้นคือองค์ประกอบสำคัญของภาพยนตร์ โดยภายนอกของการบอกเล่าถึงเรื่องราวอันยิ่งใหญ่และน่าหลงใหล"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ส่องความเซ็กซี่ คาเรน คาเอเดะ ดารา AV ขวัญใจมหาชน ประกาศรีไทร์สายฟ้าแลบ
บอมบ์ สุภาวดี สวมบิกินี่ตัวจิ๋ว อวดหุ่นแซ่บริมทะเล
นุ่น โดโรธี นางแบบสาวลูกครึ่งไทย ผู้รับบทผีดงโขมดจากธี่หยด 2 ร่างจริง แซ่บเว่อร์ !
คาเรน ยูซูริฮะ ดาราดาวรุ่งขวัญใจหนุ่ม ๆ ติดอันดับยอดขายหนัง AV แห่งปี
วินแอมป์ จิราภรณ์ สาดความแซ่บเต็มร้อย จนไอจีลุกเป็นไฟ
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์