บาร์เซโลน่า เตรียมขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามครบครัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ในศึก "เอล กลาซิโก้" คืนนี้

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2553
บาร์เซโลน่า - เรอัล มาดริด
สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, บาร์เซโลน่า
เวลา : 03.00 น.

 
     สำหรับคู่นี้เคยปะทะกันมาในคัมป์ นู ทั้งหมด 80 นัด ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า เอาชนะได้ถึง 46 นัด ส่วน เรอัล บุกมาชนะได้แค่ 18 เกมเท่านั้นเอง ที่เหลืออีก 16 ครั้งเสมอกันไป โดย บาร์ซ่า พังประตูได้ถึง 157 ประตู ส่วน เรอัล มาดริด ทำได้ 93 ประตู
 
     ขณะที่เจอกัน 10 เกมหลังสุดใน ลา ลีกา ทั้งเหย้าและเยือนนั้น บาร์ซ่า ก็ยังเหนือกว่าชนะได้ 5 นัด ส่วน เรอัล คว้าชัยได้ 3 นัด ที่เหลืออีก 2 นั้นเสมอกันไป
 
     ผลงานการเจอกันในลีกฤดูกาลก่อนนั้น บาร์ซ่า เปิดรังเอาชนะไปได้ 1-0 ก่อนออกไปกระซวกราชันชุดขาว อีก 2-0 และ 4 นัดหลังสุดที่เจอกันใน ลา ลีกา นั้น "เจ้าบุญทุ่ม" ชนะรวด
 
     เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือหนุ่มฝีมือเยี่ยมของบาร์เซโลน่า พาทีมเก็บชัยมาห้านัดรวด จากทุกรายการ เกมนี้ต้องพยายามเก็บชัยชนะเพื่อเบียดแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูง อีกทั้งจะมีผลอย่างมากต่อการตัดสินแชมป์ในฤดูกาลนี้ หากทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันเมื่อจบฤดูกาล
 
     ความพร้อมทั่วไป บาร์ซ่า ไม่มี กาเบรียล มิลิโต้ ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาฉีกขาด ต้องพักรักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ แต่ได้ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศส วัย 31 ปี หายบาดเจ็บกล้ามเนื้อขากลับสู่ทีม รวมทั้งได้ โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ นายทวารมือสองพ้นโทษแบนจากเกมสโมสรยุโรปกลับมา
 
     ส่วน ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ดาวรุ่งจากทีมเยาวชนถูกดึงขึ้นมาเสริมทัพนัดนี้ด้วย โดยรูปแบบการเล่นของบาร์ซ่า ยังคงไว้ในระบบ 4-3-3 ตามเดิม
 
     แผงแบ็คโฟร์จากขวามาซ้ายใช้งาน ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล และ เอริก อบิดัล
 
     ห้องเครื่องของบาร์ซ่าครบเครื่องต้มยำจริงๆมีทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ กับ เซย์ดู เกอิต้า ร่ายเกมรุก ปล่อยให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ คอยดักตัดเกม
 
     สามประสานแดนหน้ามหากาฬทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น ลีโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งจะผนึกกำลังกับ ดาบิด บีย่า และ อันเดรส อิเนียสต้า กระซวกตาข่ายฝ่ายตรงข้าม โดย เปโดร โรดริเกซ มีลุ้นเบียดลงสนามเช่นกัน
 
     ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนเก่งชาวโปรตุกีส ที่พ้นโทษแบนกลับมาลงคุมทีมข้างสนามตามปกติแล้ว กำลังฟอร์มร้อนแรงโดยนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ พร้อมกับพกสถิติไม่แพ้ใครตั้งแต่เปิดซีซั่น 12 นัดเข้าไปแล้ว และที่น่ากลัวไปกว่านั้นตั้งแต่ มูรินโญ่ มาคุมเรอัล พวกเขาไม่แพ้ใครมายาวนานถึง 25 นัดติดแล้วจากทุกรายการที่ลงแข่งขัน
 
     สภาพทีมยามนี้ ราชันชุดขาว ต้องขาด เฟอร์นานโด กาโก้, ริคาร์โด้ กาก้า กับ เอเซเกล การาย ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เหมือนเดิม
 
     อย่างไรก็ตามข่าวดีคือ กอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนติน่า และ ซามี เคดิร่า กองกลางตัวรับทีมชาติเยอรมัน หายเจ็บกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม ส่วน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า มิดฟิลด์เชิงรับชาวฝรั่งเศส ยังเป็นเพียงสำรองเหมือนเดิม
 
     รูปแบบการเล่นยึดสูตร 4-2-3-1 ให้ เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ มาร์เชโล่ วิเอยร่า ช่วยกันในแนวรับ
 
     ขยับมาดูแดนกลางมี ชาบี อลอนโซ่ ลงคุมเกมกับ ซามี เคดิร่า เปิดทางให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวสูงสุดของลีก 14 ประตู ร่ายเกมรุกร่วมกับ เมซุต โอซิล และ อังเคล ดิ มาเรีย คอยสนับสนุน กอนซาโล่ อิกวาอิน หัวหอกทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการเข้าทำสกอร์ 
  
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม 
     บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม), เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า - อันเดรส อิเนียสต้า, ลีโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า
  
     เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย - กอนซาโล่ อิกวาอิน
  
     ผู้ตัดสิน: เอดูอาร์โด้ อีตูร์รัลเด้ กอนซาเลซ

 
พลิกปูมเจอกันในลีกาชุดขาวเหนือกว่า  

     สำหรับเกร็ดสถิติที่น่าสนใจของศึกเอล กลาซิโก้ นั้น ทั้งสองทีมเจอกันมาในลา ลีกา ทั้งหมด 160 นัด ซึ่ง เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะ 68 นัด ส่วน บาร์ซ่า ชนะไป 62 นัด ที่เหลือจบลงด้วยการเสมอ 30 นัด
 
     นอกจากนั้นมีการบันทึกไว้ว่าเจอกันครั้งแรกที่บ้านของบาร์เซโลน่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1929 แต่เป็นเรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะไปได้ 2-1
 
     ขณะเดียวกันทั้งสองทีมเคยเจอกันในยูโรเปี้ยน คัพ 6 ครั้ง เป็นเรอัล มาดริด ชนะ 3 นัด, บาร์เซโลน่าชนะ 1 นัด และเสมอกัน 2 นัด โดยครั้งล่าสุดที่เจอกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก คือรอบรองชนะเลิศ 2001-02 ซึ่ง เรอัล มาดริด บุกชนะ 2-0 ก่อนกลับมาเสมอ 1-1
 
     ส่วนผลการแข่งขันของคู่นี้ที่เคยมีสกอร์ห่างกันมากสุด เกิดขึ้นในแมตซ์ที่ เรอัล มาดริด ถล่มหายห่วง 11-1 เมื่อปีค.ศ. 1943
 
     ขณะที่ดาวซัลโวตลอดกาลของเกม "เอล กลาซิโก้" เป็นของ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ดาวยิงระดับตำนานของเรอัล มาดริด สร้างสถิติระบือลือลั่นด้วยการหวดไปทั้งสิ้น 18 ประตู จำแนกออกเป็น 14 ประตูในลา ลีกา, 2 ประตูในโกปา เดล เรย์ และอีก 2 ในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป