บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มเทพเปิดรังไล่ถล่ม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คู่ปรับแย่งแชมป์ยับเยิน 5-0 ในเกม "เอล กลาซิโก้" แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตาราง ลา ลีกา สเปน เรียบร้อย

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2553

บาร์เซโลน่า 5 - 0 เรอัล มาดริด

สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, บาร์เซโลน่า

 
     "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า พาทีมเก็บชัยมาห้านัดรวด จากทุกรายการ เกม "เอล กลาซิโก้" วันจันทร์นี้ต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเบียดแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูง
 
     เจ้าบ้านไม่มี กาเบรียล มิลิโต้ ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาฉีก ต้องพักรักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ แต่ได้ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสวัย 31 ปี หายเจ็บกล้ามเนื้อขากลับมาลงสนาม
 
     สามประสานแดนหน้าวาง เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่ และ ดาบิด บีย่า ผนึกกำลังกัน พร้อมได้การปั้นเกมของ ชาบี เอร์นานเดส และ อันเดรส อิเนียสต้า สองห้องเครื่องตัวเก่ง
 
     ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนเก่งชาวโปรตุกีส พ้นโทษแบนกลับมาลงคุมทีมข้างสนามตามปกติแล้ว โดยทีมเยือนนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ พร้อมกับพกสถิติไม่แพ้ใครตั้งแต่เปิดซีซั่น 12 นัดเข้าไปแล้ว และไม่แพ้ใครมายาวนานถึง 25 นัดติดแล้วจากทุกรายการ
 
     เกมนี้ชุดขาวใส่ชื่อ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ลงมาเป็นตัวจริง เนื่องจาก กอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนติน่า ไม่ฟิตเลยมีชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง แดนกลางได้ ซามี เคดิร่า กองกลางตัวรับทีมชาติเยอรมัน หายเจ็บกลับมาลงสนามได้
 
     แนวรุกได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวสูงสุดของลีก 14 ประตู ร่ายเกมบุกร่วมกับ เมซุต โอซิล และ อังเคล ดิ มาเรีย คอยสนับสนุน เบนเซม่า ในการเข้าทำสกอร์
 
     ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 5 นาที เจ้าบ้านบุกกดดันทันทีมีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนตัดสินใจชิปมุมแคบแบบเหนือชั้นบอลโค้งย้อยข้ามหัว อิเกร์ กาซียาส ไปแล้ว แต่ไปชนเสาไกลออกมาอย่างน่าเสียดาย
 
     อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 10 เจ้าบุญทุ่ม ออกนำจนได้เมื่อ อันเดรส อิเนียสต้า จ่ายขวางจากหน้ากรอบเขตโทษตัดแนวรับทีมเยือนบอลไปโดนขาของ มาร์เซโล่ แบ็คซ้ายของเรอัลที่พยายามจะสกัด แต่บอลยังเลยมาถึง ชาบี เอร์นานเดซ แตะแล้วดีดด้วยขวาผ่านมือ กาซียาส นายทวารราชันชุดขาว เข้าประตูไปให้บาร์ซ่า นำเร็ว 1-0 เรียกเสียงเชียร์กึกก้องจากแฟนเจ้าบุญทุ่ม 

  
     ราชันชุดขาว พยายามสวนกลับขึ้นมาบ้าง นาทีถัดมาได้ลุ้นจาก อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า วางเท้าสับไกด้วยขวา แต่ บิคตอร์ บัลเดส ปัดข้ามคานไปได้
 
     ทีมเยือนเริ่มบุกได้มากขึ้น นาทีที่ 14 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้บอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจ่ายเรียดไปเสาสองหมายให้ คาริม เบนเซม่า ทว่าลูกติดกองหลังเจ้าบ้านหวุดหวิด ในขณะที่ บัลเดส ออกมาไม่ถึงแล้ว
 
     สี่นาทีต่อมา บาร์ซ่า ขยับหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ วางจากขวาข้ามฟากไปให้ ดาบิด บีย่า ลากเลาะเส้นหลังหลบ เซร์คิโอ รามอส แล้วกระแทกเข้าตรงกลาง กาซียาส ปัดไว้ได้ปลายมือแต่บอลมาทาง เปโดร โรดริเกซ กระโดดยิงจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย 

  
     เกมรุกของบาร์ซ่า ยังเหนือชั้นกว่าเยอะ เปโดร หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงแต่ว่าโดน กาซียาส นายทวารทีมชาติสเปนของเรอัล มาดริด ออกมาปิดมุมไว้ได้ในนาทีที่ 28
 
     ครึ่งชั่วโมงของเกม เกิดเหตุวุ่นวายเล็กน้อย หลังจาก โรนัลโด้ พยายามจะไปเอาบอลที่หลุดไปนอกสนามจาก เป๊ป กวาดิโอล่า ก่อนจะมีการผลักเทรนเนอร์เจ้าบุญทุ่ม สร้างความไม่พอใจให้บรรดาผู้เล่นเจ้าบ้านที่กรูเข้ามาจะเอาเรื่องปีกโปรตุกีส ผู้ตัดสินต้องควักใบเหลืองให้ โรนัลโด้ รวมถึง บัลเดส เพื่อสงบสติอารมณ์
 
     ข้ามมาถึงนาทีที่ 35 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจากการส่องฟรีคิกของ โรนัลโด้ บอลแฉลบหลุดเสาไปเส้นยาแดงผ่าแปด
 
     เกมระอุทีเดียว นาทีเดียวกันนั้นเอง บีย่า โดนใบเหลืองจากการไปสอย ซามี่ เคดิร่า ก่อนที่นาทีต่อมา เปเป้ ของทีมเยือนโดนจดชื่อเช่นกันจากการฟาวล์น่าเกลียด
 
     นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โรนัลโด้ วางเท้าสับไกจากนอกกรอบตรงตัว บัลเดส จากนั้น เกมชุลมุนอีกเมื่อ เมสซี่ โดนแขนของ คาร์วัลโญ่ กระแทกก่อนลงไปนอน ทว่าผู้ตัดสินกลับแจกใบเหลืองให้ เมสซี่ ในข้อหาสำออย หมดครึ่งแรก บาร์ซ่า นำก่อน 2-0
 
     กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง โชเซ่ มูรินโญ่ ปรับแท็คติกส่ง ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า กองกลางชาวฝรั่งเศส ลงมาเล่นแทน เมซุต โอซิล
 
     อย่างไรก็ตามเกมของบาร์ซ่า ยังเหนือกว่ามีโอกาสก่อนในนาทีที่ 48 จากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า หลุดไปทางด้านซ้ายก่อนซัดไปติดเซฟของ กาซียาส
 
     กระนั้นก็ดี บาร์ซ่า ล่าประตูที่สามจนได้จากจังหวะที่ เมสซี่ เปิดบอลทะลุช่องให้กับ ดาบิด บีย่า หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปสับด้วยขวาบอลเสียบเสาไกลเข้าไปให้เจ้าบุญทุ่มนำขาด 3-0 ในนาทีที่ 55 

  
     ถัดมา 3 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สี่อีกจากจังหวะที่ เมสซี่ ยังเล่นได้อย่างเหนือชั้น โชว์การล็อคหลบผู้เล่นเรอัล บริเวณกลางสนาม ก่อนจ่ายบอลขึ้นหน้ามาทางซ้ายให้กับ ดาบิด บีย่า หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงลอดขาของ กาซียาส เข้าไปให้บาร์ซ่า นำกระจุย 4-0 และเป็นประตูที่สองของบีย่า ในเกมนี้แล้ว 

  
     หนึ่งชั่วโมงของเกม เรอัล ต้องแก้เกมอีกครั้งด้วยการส่ง อัลบาโร่ อาร์เบลัว ลงมาเล่นแทน มาร์เซโล่ วิเอยร่า
 
     นาทีเดียวกันนั้นเอง เรอัล ได้โอกาสจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่ โรนัลโด้ ยิงข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
 
     ผ่านมา 68 นาที บาร์ซ่า ยังครองเกมกันได้หมด ผู้เล่นของเรอัล มาดริด แทบไม่ได้บอลเลย เพราะโดนขุนพลบาร์ซ่าจ่ายบอลกันแบบเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำ เล่นเอาแฟนบอลร้องโอเล่ โอเล่ ขานรับกันอย่างสนุกสนาน
 
     เขยิบมานาทีที่ 76 บาร์เซโลน่า เปลี่ยนเอา ดาบิด บีย่า ออกมาพักแล้วส่ง โบยาน เกร์กิช ลงมาสัมผัสกับเกมเอล กลาซิโก้ บ้าง 
 
     เจ้าถิ่นน่าได้เพิ่มในนาทีต่อมา เมื่อ เกร์กิช ตัวสำรองหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงโดน กาซียาส นายทวารเรอัล ปัดออกมาได้
 
     ช่วงท้ายเกม บาร์ซ่าถอด ชาบี เอร์นานเดซ กับ เปโดร โรดริเกซ อกก แล้วส่ง เซย์ดู เกอิต้า กับ เจฟเฟรน ซัวเรซ ลงมา
 
     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บาร์ซ่า มาได้ประตู ที่ 5 โบยาน กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ เจฟเฟรน ตัวสำรองซัดเข้าไป เจ้าถิ่นนำห่างเป็น 5-0 

 

  
     เท่านั้นไม่พอ  เรอัล มาดริด ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เซร์คิโอ รามอส เข้าไปเตะ เมสซี่ อย่างแรง แถมยังเอามือไปผลักหน้า ปูโยล ที่วิ่งเข้ามาจะเอาเรื่องจนล้มคว่ำ ทำให้เกิดการชุลมุนกัน ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ รามอส ออกจากสนามทันที จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านยำใหญ่ เรอัล มาดริด ไปสิ้นสภาพ 5-0 เก็บสามแต้มสำคัญแซงขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ลา ลีกา พร้อมกับเอาชนะ ราชันชุดขาว ได้เป็นเกมที่ห้าติดต่อกันในลีกแล้ว โดย เรอัล มาดริด พ่ายเป็นเกมแรกในฤดูกาลนี้

  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
     บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม), เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,  อันเดรส อิเนียสต้า -เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า
     สำรอง: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เซย์ดู เกอิต้า, แม็กซ์เวลล์, อาเดรียโน่ คอร์เรอา, โบยาน เกร์กิช, เจฟเฟรน ซัวเรซ 
  
     เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย - คาริม เบนเซม่า
     สำรอง: เยอร์ซี่ ดูเด็ค (ผู้รักษาประตู) - ราอูล อัลบิโอล, มาอามาดู ดิยาร์ร่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, เปโดร เลออน, กอนซาโล่ อิกวาอิน 
  
     ผู้ตัดสิน: เอดูอาร์โด้ อีตูร์รัลเด้ กอนซาเลซ