ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ถึงกับเซ็งพร้อมกับจวกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินชาวเมียนมาร์ว่าลูกทีมสมควรจะได้จุดโทษถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายปล่อยให้เล่นต่อพร้อมควักใบเหลืองให้แข้งไทย ชี้แม้ครองเกมได้แต่ยังคงมีข้อเสียโดยเฉพาะเรื่องการส่งบอลที่ต้องจับติวเข้มใหม่หมด เช่นเดียวกับเกมรุกยังคงเป็นเรื่องเหนื่อยใจเหมือน อชก.ที่หาจังหวะจบได้เยอะแต่ไม่คม เตรียมปรับใหม่หมดเช่นกัน

ร็อบสันชี้น่าได้จุดโทษถึง 2 ครั้ง 
            
     หลังจบเกมการแข่งขันทางด้าน ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยก็ได้เผยว่า "เกมนี้เป็นอีกเกมหนึ่งที่น่าผิดหวังสำหรับเรา ซึ่งทั้งเกมก็จะเห็นได้ว่าทีมชาติไทยน่าจะได้จุดโทษถึง 2 ครั้งแต่สุดท้ายผู้ตัดสินชาวเมียนมาร์ ก็ปล่อยให้เล่นต่อไป มันคงไม่มีคำแก้ตัวอื่นๆ นอกจากเสียใจ และเสียดายกับผลที่เกิดขึ้นวันนี้"     

พร้อมติวเรื่องการส่งบอลใหม่หมด 
             
     พร้อมกันนั้น ไบรอัน ร็อบสัน ก็ยังได้ตอบคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องฟอร์มของทีมชาติไทยจะเล่นได้ดีกว่านี้อีกไหม ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้กุนซือใหญ่ชาวเมืองผู้ดีก็ได้ตอบว่า "จุดบอดที่ทำให้วันนี้ทีมชาติไทยยิงประตูไม่ได้ นั่นคือเรื่องของการส่งบอล แทบจะทุกครั้งลูกทีมของเราส่งบอลได้เสียเปรียบคู่แข่ง รวมถึงจ่ายพลาดเองก็มี โดยผมเองคงต้องติวเข้มเรื่องนี้กันใหม่ก่อนที่จะพบกับอินโดนีเซีย ในเกมสุดท้ายต่อไป"     

เหนื่อยใจ ยิงเยอะเหมือนอชก.แต่ไม่เข้า 
         
     เช่นเดียวกับเรื่องจังหวะการยิงประตูที่ถือเป็นปัญหาหลังของทีมชาติไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมนี้ที่เสมอกับมาเลเซีย 0-0 ทีมชาติไทยสามารถหาจังหวะยิงได้ถึง 30 ครั้งแต่ซัดเข้ากรอบเพียงแค่ 7 ครั้ง โดยเรื่องนี้ ร็อบสันก็ถึงกับเป่าปากก่อนให้ความเห็นว่า "ในศึกเอเชียนเกมส์ 2010 ที่ผ่านมา ทีมชาติไทยก็มีจังหวะในการยิงประตูต่อเกมไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถเบิกสกอร์ได้อย่างที่หวัง เช่นเดียวกันกับในเกมนี้เรามีจังหวะยิงที่เยอะจนนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย คงต้องปรับไม่แพ้กับเรื่องการส่งบอลให้หนักขึ้น"     

เสี่ยแฮ๊งค์เผยเจออินโดฯ จะเล่นง่ายกว่า
             
     ในขณะที่ "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีมชาติไทย ก็ได้เผยเช่นเดียวกันว่า "อย่างแรกคงต้องกล่าวขอโทษแฟนฟุตบอลชาวไทยที่ต้องทำให้ผิดหวังเป็นซ้ำสอง ณ ตอนนี้ เราคงต้องยอมรับว่าคู่แข่งในย่านอาเซียน ที่เราต้องเจอไม่ว่าจะแข่งขันในรายการอะไรก็แล้วแต่ รวมถึงรายการนี้พวกเขาก็จะมาเน้นเกมรับเป็นหลัก ซึ่งก็ทำให้เราเล่นยากขึ้น ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ในเกมสุดท้ายที่พบกับอินโดนีเซีย เราก็หวังว่าอินโดฯ เขาจะเปิดเกมรุกสู้กับเรา และตรงจุดนี้ก็น่าจะช่วยให้ทีมชาติไทยเล่นกันได้ง่ายขึ้น" 
     
ณัฐพรชี้ฟุตบอลมันก็อย่างนี้แหละ
            
     ด้าน ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ปราการหลังกัปตันทีมชาติไทย ก็ได้เปิดใจหลังจบเกมที่เจ๊ากับมาเลเซีย 0-0 ว่า "นี่แหละครับฟุตบอล มันก็อย่างนี้แหละ เราครองเกมบุกตลอดทั้ง 90 นาทีแต่สุดท้ายดันจบไม่ได้ ก็ต้องรับชะตากรรมไป ดูแล้วเกมนี้เหมือนเราจะไม่มีโชคและวาสนา แต่เกมหน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะเป็นฝ่ายเข้าข้างเราบ้าง ผมเชื่ออย่างนั้น"      

ทำสถิติไม่ชนะต่อเนื่อง 4 แมตช์ติด
            
     จากผลการแข่งขันที่ทีมชาติไทยยังคงทำได้แค่เสมอกับมาเลเซีย 0-0 ก็ทำให้เพิ่มสถิติไม่ชนะทีมใดต่อเนื่องเป็นนัดที่ 4 ในรายการชิงแชมป์อาเซียน ทันที ต่อจากเกมแรกที่เสมอกับลาว 2-2 แบบน่าจะแพ้ รวมถึงนัดชิงปี 2008 เจอกับเวียดนาม แพ้กับเสมออย่างละแมตช์ ซึ่งถือเป็นสถิติไม่ชนะใครต่อเนื่องที่สูงสุดของทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้