โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฟอร์มยังร้อนแรง ล่าสุดบุกไปเอาชนะ เนิร์นแบร์ก สบายๆ 2-0 หนี ไมนซ์ รองจ่าฝูงห่างเป็น 10 คะแนนแล้ว ด้าน เลเวอร์คูเซ่น เปิดรังเฉือนเอาชนะ โคโลญจน์ 3-2 ศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2553

เลเวอร์คูเซ่น 3 - 2 โคโลญจน์

สนาม : ไบอารีน่า 

  
  
        จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เทรนเนอร์ "ห้างขายยา" เลเวอร์คูเซ่น ได้ เรเน่ อ๊าดเลอร์ นายด่านทีมชาติเยอรมนีหายจากอาการบาดเจ็บสะโพก กลับมายืนเฝ้าเสาอีกครั้ง ทำให้ ฟาเบียน กีเฟอร์ หลุดไปเป็นสำรองตามเดิม ส่วนตำแหน่งหน้าเป้ายึด พาทริค เฮลเมส ยืนล่าตาข่ายต่อไป
 
        ด้าน ฟรังค์ เชเฟอร์ เทรนเนอร์ "แพะบ้า" โคโลญจน์  ปรับทัพจุดเดียวจากเกมล่าสุด ส่ง  เซบาสเตียน ไฟรส์ ลงมายืนเป็นหน้าเป้าแทน มิลิโวเย่ โนวาโควิช ที่บาดเจ็บ
 
       สภาพสนามในเกมนี้มีหิมะตกลงมาโปรยปราย ทำให้ผู้ตัดสิน ดร. เฟลิกซ์ ไบรช์ ต้องเปลี่ยนมาใช้ลูกฟุตบอลสีส้ม เขี่ยลูกเริ่มเกมมา 6 นาที เป็นเจ้าบ้านได้เสียวก่อนเลย จากจังหวะที่ ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า ครอสบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาที่เสาแรกให้ เฮลเมส โผเข้ามาชาร์จบอลโด่งข้ามคานออกไปไม่ไกล
  
       รูปเกมเป็นของ ห้างขายยา ที่ครองบอลบุกกดดันได้มากกว่า และนาที 21 ก็มาเขย่าตาข่าย แพะบ้า ออกนำไปก่อนจนได้  จากจุดเริ่มต้นที่ ซิดนี่ย์ แซม เลี้ยงบอลตัดเข้ากลางมาจ่ายบอลให้ เรนาโต้ เอากุสโต้ แต่งหาจังหวะกดบอลเรียดด้วยซ้าย โดย ฟาริด มอนดราก้อน รับบอลซองแตกออกมาให้ เฮลเมส ได้ตามซ้ำง่ายๆเข้าไปสบายแฮ เลเวอร์คูเซ่น ออกนำ 1-0
 
       ทว่า ห้างขายยา ดีใจได้แค่ 6 นาทีก็มาโดนอาคันตุกะ โคโลญจน์ ตามตีเสมอเป็น 1-1 อย่างรวดเร็ว ลูคัส โพดอลสกี้ โยนลูกฟรีคิกเข้ามาในเขตโทษให้ เปโดร เกโรเมล สอดเข้ากระโดดตวัดยิงบอลไปชนเสาในเด้งเข้าประตูไป ชนิดที่ อ๊าดเลอร์ ได้แค่ใช้สายตาป้องกัน
 
       เกมของเจ้าบ้านช็อตไปดื้อๆ และเกือบมาโดนอาคันตุกะยิงประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่ มิโซ่ เบรคโก้ แบ็กขวา แพะบ้า ได้บอลหลุดทะลุกับดักล้ำหน้ามาเลี้ยงจี้เข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจพลาดเลือกเปิดบอล กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาหมายให้ ไฟร์ส แรงหลุดออกหลังไปแบบเสียของ
 
      ท้ายครึ่งแรกนาที 44 ไฮย์เกส ปรับแท็กติกเปลี่ยนตัวคนแรกทันที ถอด ซามี่ ฮูเปีย ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ออกมา และส่ง ซิมอน โรลเฟส ลงมาเล่นแทน พร้อมถอย สเตฟาน ไรนาร์ทซ์ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ มานูเอล ฟรีดริช จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 1-1
 
      กลับลงสนามมาสู้กันต่อในเกมครึ่งหลังถึงนาที 55 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้มาเฮฉลองเป็นคำรบสอง จากความผิดพลาดของ ฟาบริซ เอห์เรห์ ที่ทำพลาดเสียบอลมาให้ อาร์ตูโร่ วิดาล เปิดบอลต่อมาให้ ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า สลัดหนี เบรคโก้ มาอัดบอลด้วยซ้ายเสียบมุมเข้าไปเด็ดขาด เลเวอร์คูเซ่น ออกนำอีกครั้ง 2-1
 
      เจ้าบ้านยังเครื่องแรกไม่ตก นาที 61 ก็มาทิ้งห่างเป็น 3-1 จากลูกเตะมุมที่ กอนซาโล่ กาสโตร เปิดเข้ามาให้ ฟรีดริช ขึ้นโหม่งบอลพุ่งไปชนคานบนกระเด้งลงมายังไม่ข้ามเส้น และเป็น ไรท์นาร์ทซ์ ที่ไวทายาทตามโหม่งบอลซ้ำเข้าประตูไป
 
      ทว่าถัดมาอีกแค่ 4 นาที แพะบ้า ก็มามีความหวังเก็บแต้มในเกมนี้ เมื่อมาได้ประตูไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-3 จากการลากตะลุยขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ โพดอลสกี้ ที่เลี้ยงบอลหนี แซม มาได้ ก่อนครอสบอลเข้ากลางมาให้ มาร์ติน ลานิก เข้ามาอัดบอลปิดบัญชีเสยตาข่ายเข้าไป
 
      ช่วงท้ายเกม แพะบ้า โหมบุกเต็มพิกัดเพื่อเอาประตูตีเจ๊าให้ได้ ทว่าก็ไม่มีโอกาสหลุดเข้าไปลุ้นประตูจังๆเลย ทำให้นาที 80 โพดอลสกี้ หันมาใช้วิธีส่องไกล แต่ลูกยิงของเจ้าตัวก็เหินโด่งข้ามคานออกไป
 
      กระทั่งผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวจบเกม ส่งผลให้ เลเวอร์คูเซ่น เปิดบ้านเฉือนชนะ โคโลญจน์ 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 29 แต้ม รั้งอันดับสามของตารางต่อไป ด้าน โคโลญจน์ รั้งรองบ๊วยเช่นเดิม มีเพียง 12 แต้ม
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
     เลเวอร์คูเซ่น : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - กอนซาโล่ กาสโตร, มานูเอล ฟรีดริช, ซามี ฮูเปีย (ซิมอน โรลเฟส น.44), มิชาล คัดเล็ช - สเตฟาน ไรนาร์ทซ์, อาร์ตูโร่ วิดาล - ซิดนี่ย์ แซม (ลาร์ส เบนเดอร์ น.70), เรนาโต้ เอากุสโต้ (ฮันโน่ บาลิตซ์ น.79), ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า - พาทริค เฮลเมส 
     สำรองไม่ได้ใช้ : ฟาเบียน กีเฟอร์, ดาเนียล ชว้าบ, นิโคไล ยอร์เกนเซ่น, เอเรน แดร์ดิย็อค
  
     โคโลญจน์ : ฟาริด มอนดราก้อน - มิโซ่ เบรคโก้ (ซิมอน เตร็อดเด้ น.85), ยูสเซฟ โมฮาหมัด, เปโดร เกโรเมล, ฟาบริซ เอห์เรห์ - เควิน เพซโซนี่ (มาร์ติน ลานิก น.64), อาร์มันโด้ เปตีต์ - มาโต้ ยายาโล่, อดัม มาตูชีค,  ลูคัส โพดอลสกี้ - เซบาสเตียน ไฟรส์ (อเล็กซานดรู โลนิต้า น.70) 
     สำรองไม่ได้ใช้ :  มิโร วาร์โวดิช, คริสโตเฟอร์ ชโรห์, เควิน แม็คเคนน่า, คริสเตียน เคลเมนส์
  
     ผู้ตัดสิน : ดร. เฟลิกซ์ ไบรช์

 

เนิร์นแบร์ก 0 - 2 ดอร์ทมุนด์

สนาม : อีซี่-เครดิต สตาดิโอน   

 

     ดีเตอร์ เฮ็คกิ้ง เทรนเนอร์ "แดร์คลุบ" เนิร์นแบร์ก จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้ เยนส์ เฮเกแลร์, อิลคาย กุนโดกัน และ โรเบิร์ต มักซ์ ยืนทำเกมรุก หน้าเป้าเป็น  ยูเลียน ชีเบอร์
 
     ฟาก ดอร์ทมุนด์ ทีมจ่าฝูงที่ครองแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกไปแล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ "เสือเหลือง" ปรับทัพจากเกม ยูโรปา ลีก คืนวันพฤหัสบดีที่ป่านมาตำแหน่งเดียว ส่ง มาริโอ เกิทเซ่ ลงมาเล่นแทน ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้
 
     เปิดฉากมาถึงนาที 13 เสือเหลือง เกือบทะยานขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ ชินจิ คากาวะ จอมทัพซามูไร โชว์เหนือพักบอลเพื่อนโยนยาวเข้ามาด้วยอกคืนต่อให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะ 16 หลา บอลพุ่งไปเข้าซอง ราฟาเอล เชเฟอร์ นายด่านเจ้าถิ่นที่ยืนถูกตำแหน่ง
 
     นาที 21 แดร์คลุบ มาได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ อันเดรียส์ โวล์ฟ เปิดบอลยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ชีเบอร์ สอดเข้ามาโขกบอลตัดหน้า เนเว่น ซูโบติช หลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
 
     ทว่าวลสองนาทีต่อมา ดอร์ทมุนด์ ก็มาทะยานขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ จากลูกฟรีคิกสูตรของ นูริ ซาฮิน ที่โยนบอลยาวจากกึ่งกลางสนามเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็น มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ กองหลังทีมชาติเยอรมนี สอดเข้ามาทิ้งตัวโหม่งบอลเด้งลงพื้นเสียบเสาสองเข้าไปสุดสวย
 
     รูปเกมยังคงเป็นของ เสือเหลือง ที่พยายามบุกเพื่อเอาลูกที่สองให้ได้ นาที 31 เกือบมาทำสำเร็จ จากจังหวะที่ มาร์เซล ชเมลเซอร์ เติมขึ้นมาครอสบอลให้ คากาวะ เทกขึ้นโหม่งบอลไปติดเซฟ เชเฟอร์ ที่รับบอลอยู่หมัด
 
     โอกาสลุ้นยังเป็นของฝั่งอาคันตุกะ ซาฮิน เปิดลูกเตะมุมมาที่เสาแรกถูกกองหลังเจ้าถิ่นโขกสกัดบอลออกมาเข้าทางปืน สเวน เบนเดอร์ ได้ตั้งป้อมอัดบอลสวนโด่งข้ามคานออกไปไม่ไกล
 
     นาที 40 เจ้าบ้านมาได้โอกาสลุ้นตีเจ๊าจากการลากตะลุยขึ้นมาของ เยนส์  เฮเกแลร์ ก่อนโดนกองหลัง ดอร์ทมุนด์ สไลด์แซะบอลออกมาถึง โรเบิร์ต มักซ์ กดบอลเรียดไปตรงตัว โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ล้มตัวตะครุบรับบอลอยู่หมัด จบครึ่งแรก ดอร์ทมุนด์ บุกมานำ 1-0
 
     กลับลงสนามมาสู้กันต่อใน 45 นาทีหลัง เทรนเนอร์ของทั้งสองทีมยังยึดผู้เล่นชุดเดิม นาที 48 ทีมเยือนมาได้ลุ้นทิ้งห่างอีกครั้งจากลูกฟรีคิก ซาฮิน เปิดบอลเลยมาถึง ฮุมเมิ่ลส์ เติมขึ้นมาซัดบอลเหินโด่งข้ามคานออกไป
 
     นาที 54 เจ้าบ้านเกือบมาได้ลูกตีเจ๊าสำเร็จ จากความยอดเยี่ยมของ มักซ์ ที่โชว์สเต็ปลากบอลหลบนักเตะแนวรับ เสือเหลือง มาทั้งยวง จนทะลุเข้าในกรอบเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้าย มักซ์ กลับตัดสินใจพลาดไม่ยอมยิง โดยกลับเลือกจ่ายบอลเรียดเข้ากลาง จึงทำให้โดน ชเมลเซอร์ ตามมาสไลด์เคลียร์บอลออกหลังไปได้ทัน
 
     โอกาสต่อมาเป็นของฝั่งทีมเยือนอีกครั้ง ลูคัสซ์ พิซเซ็ค เปิดบอลยาวเข้ามาถูก โวล์ฟ โหม่งเคลียร์บอลออกมาเข้าทางของ คากาวะ ฮาล์ฟวอลเลย์บอลเหินโด่งข้ามคานออกไปนิดเดียว
 
     นาที 73 ดอร์ทมุนด์ มาทิ้งโอกาสทองในการได้ลูกที่สองไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ่ เลี้ยงบอลหลบกองหลังเจ้าบ้านมาสองสามคนไปจนถึงสุดเส้นหลัง ก่อนปาดบอลเรียดเข้ากลางมาให้ เลวานดอฟสกี้ ทำเสียของแปบอลไปตรงตัว เชเฟอร์ ล้มตัวใช้ขาสกัดบอลออกไป
 
     กระทั่งนาที 88 ดอร์ทมุนด์ ก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจนได้ จากความสุดยอดของ เกิทเซ่ เจ้าเก่าที่ลากบอลตะลุยจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษทำชิ่งกับ เลวานดอฟสกี้ และซัดบอลไปติดบล็อคของกองหลังเจ้าบ้าน แต่ เลวานดอฟสกี้ ไวทายาทตามไปตวัดยิงบอลด้วยซ้ายตามน้ำเสียบตาข่ายเข้าไป ดอร์ทมุนด์ นำห่างเป็น 2-0 และก็จบเกมไปด้วยสกอร์นี้ ทำให้ ดอร์ทมุนด์ แชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกมีเพิ่มเป็น 40 คะแนน ทิ้งห่าง ไมนซ์ รองจ่าฝูงถึง 10 แต้ม ขณะที่ เนิร์นแบร์ก แพ้ติดต่อกัน 4 เกมรวด อยู่ในอันดับ 11 ของตาราง
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
     เนิร์นแบร์ก : ราฟาเอล เชเฟอร์ - ยูริ ยุดท์ (เมห์เม็ต เอคิซี่ น.68), อันเดรียส์ โวล์ฟ, โดมินิค มาโรห์, มาร์วิน แพล็ตเทนฮาร์ดท - ทิมมี่ ซิมงส์, อัลม็อก โคเฮน (มาร์คุส เมนด์เลอร์ น.83) - เยนส์ เฮเกแลร์, อิลคาย กุนโดกัน, โรเบิร์ต มักซ์ (คริสเตียน ไอก์เลอร์ น.75)  - ยูเลียน ชีเบอร์ 
     สำรองไม่ได้ใช้ :  อเล็กซานเดอร์ สเตฟาน, ปาสกาล บีเลอร์, ฟิลิปป์ วอลส์ไชด์, มาเร็ค มินทาล
  
     ดอร์ทมุนด์  : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, นูริ ซาฮิน (เฟลิเป้ ซานตาน่า น.90) - มาริโอ เกิทเซ่, ชินจิ คากาวะ (อันโตนิโอ ดา ซิลวา น.85), เควิน โกรสครอยท์ซ (ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ น.61) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
     สำรองไม่ได้ใช้ :  มิทเชลล์ ลังเกรัค, เดเด้, , ดาเมียง เลอ ตัลเล็ก, โมฮาเหม็ด ซีดาน
  
     ผู้ตัดสิน : มิชาเอล ไวเนอร์