"บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย ยืนยันไม่ปลด ไบรอัน ร็อบสัน พ้นจากกุนซือทีมชาติไทย แน่ แม้ผลงานไม่แจ่ม ชี้ต้นเหตุโปรแกรมในประเทศชุก และมีปัญหาหลายอย่าง จนทำให้มีเวลาเตรียมทีมน้อย ส่วน ทีมชาติอังกฤษ จะมาอุ่นกับไทย ยังมีตามกำหนดการณ์เดิม พร้อมแจง "ร็อบโบ้" ไม่ใช้โค้ชขัดดอก สมาคมฯ ออกค่าจ้างให้ทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับเอฟเอผู้ดี

     ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้ถามถึงอนาคตของ "ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทย ที่ทำผลงานเสมอรวดสองนัดที่ผ่านมาในศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010" นายใหญ่สมาคมลูกหนังไทย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี เผยว่า "ยอมรับว่าผลงานของทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ ไบรอัน ร็อบสัน ไม่ดีต่อเนื่องมาตั้งแต่เอเชียนเกมส์
 
     แต่เราจะไปโทษเขาเพียงฝ่ายเดียวมันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยุติธรรมมากนัก เพราะว่าที่ผ่านมาเราต้องทบทวนถึงโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ ที่ไม่เอื้ออำนวยให้กับทีมชาติไทย อีกทั้งยังเจอกับปัญหาทางการเมือง และลมฟ้าอากาศ เข้าไปอีกเลยทำให้การเตรียมทีมน้อยตามไปด้วย"
 
     นายกลูกหนังไทย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "ฤดูกาลต่อไป ตนเชื่อว่าจะไม่เป็นเหมือนฤดูกาลนี้แน่ โดยเบื้องต้นเราจะมีการวางแผนงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เรื่องของโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศให้ลงล็อก ขณะที่ ไบรอัน ร็อบสัน พิจารณาแล้วไม่ใช่ความผิดของเขา ตนยืนยันว่าจะให้โอกาสเขาทำงานกับทีมชาติไทยต่อไป" บังยี กล่าว
   

ชี้อังกฤษแอนตี้ไทยลือกันไปเอง

 
     ส่วนข่าวลือที่แพร่สะพัดมาจากสื่อฝั่ง "เมืองผู้ดี" ว่า ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ผ่านการบิด เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปี 2018 จะไม่ส่งทีมชาติอังกฤษ มาเตะกระชับมิตรกับทีมชาติไทย ในช่วงเดือนกรกฎาคม นั้น
 
     นายวรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า "เป็นข่าวที่ลือกันไปเอง ในแวดวงสื่อมวลชนของเขา ซึ่งจริงๆ แล้วความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาคมฟุตบอลอังกฤษ กับสมาคมฟุตบอลไทย ยังแน่นแฟ้นกันเหมือนเดิม ซึ่งเราได้หารือกันระหว่างองค์กรมาโดยตลอด โดยตนยังคงยืนยันคำเดิมว่า ทีมชาติอังกฤษ จะมาเตะกระชับมิตรกับทีมชาติไทย แน่ตามกำหนดการณ์เดิม"   
 

แจง "ร็อบสัน" ไม่เกี่ยวกับเอฟเอผู้ดี

 
     ขณะเดียวกัน นายใหญ่ลูกหนังแดน "สยาม" ยังชี้แจง ถึงกรณีที่ "ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน เป็นโค้ชขัดดอก ให้กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เพื่อหวัง 1 เสียงในการโหวตเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ว่า "แท้ที่จริงแล้ว "ร็อบสัน" ไม่ได้มาคุมทีมชาติไทย เพื่อการหาเสียงของประเทศอังกฤษแต่อย่างใด หากแต่สมาคมฟุตบอลไทย เราเป็นฝ่ายออกค่าจ้างให้ทั้งหมด"
 
     นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีของ สตีฟ ดาร์บี้ ด้วยว่า "ในรายของ สตีฟ ดาร์บี้ ก็เช่นกัน สัญญาของเขากับสมาคมฟุตบอลไทย จะหมดภายในเดือนตุลาคม ปี 2554 ซึ่งช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของเขา เราก็ต้องใช้งานอย่างเต็มที่ เมื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับทีมชาติไทย ก็ถูกให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค หรือฝ่ายเอกสาร ก็ดำเนินการไปตามนั้น"

   

หวังเป็นเจ้าภาพ ยู-20 ปี ชิงแชมป์โลก

 
     พร้อมกันนั้น "นายกยี" วรวีร์ มะกูดี ยังกล่าวถึงโปรเจกต์ของประเทศไทยในปีหน้าว่า ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 17 ปี ชิงแชมป์โลก หรือเยาวชน 20 ปี ชิงแชมป์โลก ในปี 2014 "เราได้มีการเสนอตัวต่อฟีฟ่า ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก ทั้งสองรายการคือ เยาวชน 17 ปีชิงแชมป์โลก และเยาวชน 20 ปีชิงแชมป์โลก ในปี 2014
 
     ซึ่งใจจริงตนอยากจะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เยาวชน 20 ปีชิงแชมป์โลก มากกว่า เพราะว่าทัวร์นาเมนต์นี้ ประเทศไทยเรายังไม่เคยไปเล่นเลย และเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ มีซูเปอร์สตาร์ที่เล่นอยู่สโมสรดังๆ มั่นใจว่าถ้าเราได้จัดแฟนบอลบ้านเรา จะให้ความสนใจไม่แพ้กับทีมชาติชุดใหญ่เช่นกัน"

   

หนุนภาครัฐเป็นเจ้าภาพบอลโลก

 
     ในส่วนของการบิดเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก หนต่อไป นายกสมาคมฟุตบอลไทย ยังเผยอีกว่า "ในฐานะที่ตนทำงานให้กับฟีฟ่า ซึ่งเป็นองค์ลูกหนังของโลก ก็ยังคงยืนยันเจตนาเดิมของ รัฐบาล ที่พร้อมจะให้การหนุนหลังในการบิดเป็นเจ้าภาพอย่างเต็มที่ เพราะเวลานี้ตนยังมั่นใจในฟีฟ่า ว่าเขาให้โอกาสกับชาติ ซึ่งยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก และมีศักยภาพที่พร้อมจะจัดได้
 
     ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่า ประเทศที่มีขีดความสามารถเทียบเท่ากับไทย อย่าง แอฟริกาใต้ ก็จัดได้ด้วยความราบรื่น หรือแม้กระทั้ง กาตาร์ ซึ่งยังไม่เคยไปฟุตบอลโลกสักครั้งก็ได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพ ในปี 2022 ดังนั้นแล้วโอกาสที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในอีก 30-40 ปีข้างหน้าก็มีเช่นกันหากรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่" บังยี กล่าวทิ้งท้าย