"ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน รับสู้ไม่ได้ บ่นอุบไม่น่าพลาดในช่วงท้ายเกม ด้าน "เสี่ยแฮ็งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีม ยันไม่ทิ้งนักเตะขอโอกาสทำทีมต่อ ส่วน "น้าเทิด"เทิดศักดิ์ ใจมั่น เพลย์เมกเกอร์จอมเก๋า อำลาทีมชาติไม่สวยร่วงรอบแรก ทีมชาติไทยในศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ" ทั้งสองหน

ร็อบสันรับสภาพสู้ไม่ได้

 
     หลังจบเกมการแข่งขันทางด้าน ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยก็ได้เผยว่า "ผลที่เกิดขึ้นเราคงต้องยอมรับสภาพกับมันให้ได้ จริงๆ แล้วทีมชาติไทยไม่น่าจะพลาดตั้งแต่เกมแรกหากมีการเตรียมทีมที่ดี, ส่วนเกมสองต้องยอมรับว่าเราพลาดเอง ชณะที่เกมนี้ต้องบอกเลยว่าผู้ตัดทำหน้าที่ได้แย่มาก แต่จะพูดไปมันก็สายไปแล้ว"
     

พร้อมให้พิจารณาผลงาน 

     พร้อมกันนั้น ไบรอัน ร็อบสัน ก็ได้เผยต่อถึงเรื่องการทำทีมชาติไทยในอนาคตหลังจากที่เพิ่งคุมทัพพาทีมชาติไทยตกรอบแรกว่า "ตอนนี้ผมเหลือสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลอีก 18 เดือน แต่เมื่อผลงานที่ผ่านมาดูท่าว่าจะไม่เข้าตาผู้ใหญ่ของสมาคมฯ ร่วมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องก็สามารถพิจารณาตัวผมได้เลยครับ ผมยอมรับหากจะต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้ทีมชาติไทย

     

เสี่ยแฮ๊งค์ยันสงสารเด็กไม่ทิ้งทีมแน่ 

     ด้าน "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีมชาติไทยก็ได้เผยว่า "ผมรู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรายอมรับเลยว่าเราสู้ไม่ได้ ส่วนเรื่องของการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนี้ผมเองไม่อยากพูดถึงมัน พูดไปก็เท่านั้น ส่วนเรื่องการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมต่อไปหรือไม่สำหรับผมบอกเลยว่าผมรู้สึกสงสารเด็กที่มีร้องไห้หลังจบเกม ซึ่งผมก็ผูกพันกับทีมชุดนี้มาก ผมคงไม่กล้าทิ้งทีมไปไหนหรอกครับ"

     

น้าเทิดอำลาทีมชาติไม่สวย 

     ขณะที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ได้ออกระบายความรู้สึกกับผู้สื่อข่าวหลังจบเกมว่า เสียดายมากเพราะเรานำไปก่อน ซึ่งจุดเปลี่ยนคงจะอยู่ที่การเสียลูกโทษครั้งแรกโดยผมเองก็เห็นไม่ชัดเจนว่าสมควรหรือไม่ที่โดนลูกโทษในจังหวะนั้น แต่ผมเองก็ไม่ได้เอาจุดนั้นมาอ้าง กีฬาย่อมมีแพ้มีชนะเป็นธรรมดาแม้ว่าผมจะอำลาทีมชาติไม่สวยแต่อยากจะให้แฟนบอลให้กำลังใจเชียร์ทีมชาติต่อไป

     

ตี๋รับสภาพเล่นอินโดฯ มีจุดโทษแน่ 

     ด้าน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูของทีมชาติไทยก็ได้เผยว่า "เกมนี้ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวผมเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าหากมาเล่นที่นี้เหมือนไหร่จะต้องมีจุดโทษ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นถึง 2 ลูก ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลที่จะแก้ตัวครับ เราเป็นรองพวกเขาเยอะ"

     

ทีมชาติไทยเดินทางกลับ 16.35 น. 

     หลังเสร็จภารกิจในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010รอบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น คณะนักเตะทีมชาติไทยจะเดินทางกลับในวันพุธที่ 8 ธ.ค. 53 ด้วยสายการบิน ทีจี 434 ออกจากสนามบินกรุงจาการ์ตา เวลา 13.05 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 16.35 น.  

     

8 ธ.ค. เวียดนามชี้ชะตาสิงคโปร์
     
         
     สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2010 นัดต่อไปจะมีขึ้นในวันพุธที่ 8 ธ.ค. 53 ซึ่งจะเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายในสาย บี 2 คู่ระหว่าง เมียนมาร์ พบ ฟิลิปปินส์ ณ สนามนัมดิน สเตเดี้ยม ส่วนอีกคู่จะเป็นการพบกันระหว่าง เวียดนาม เจ้าภาพที่จะต้องไปวัดกับ สิงคโปร์ ในการเข้ารอบรองฯ ณ สนามมีดิ่ง สเตเดี้ยม โดยทั้ง 2 สนามจะแข่งขันพร้อมกันที่เวลา 19.30 น.  

     

ทำสถิติยอดแย่ไม่ชนะใครเลย 
  
              
     สำหรับผลการแข่งขันการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ในสาย เอ ปรากฏว่า มาเลเซีย เอาชนะ ลาว 5-1 เก็บ 3 แต้มพร้อมเข้าป้ายในอันดับที่ 2 ของกลุ่ม เอ ตามอินโดนีเซียเข้าไป ขณะที่ทีมชาติไทยและลาว ตกรอบแรกไปตามระเบียบ ที่สำคัญการตกรอบของทีมชาติไทยในครั้งนี้ยังถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ตกรอบแรกด้วยการไม่ชนะใครเลย หลังจากเมื่อปี 2004 ที่มาเลเซีย ทีมชาติไทยก็ตกรอบแรกเช่นกัน รวมถึงสถิติที่ไม่ชนะใครติดต่อกันเป็นนัดที่ 5 ของทัวร์นาเมนต์อีกด้วย