“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล กลับมาเก็บชัยชนะในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้งด้วยการถล่ม ปาร์ติซาน เบลเกรด ในเกมส่งท้ายช่วยให้ได้่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช (8 ธ.ค.53)

อาร์เซนอล 3-1 ปาร์ติซาน เบลเกรด

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ประตู :
1-0 ฟาน เพอร์ซี่ 30 (จุดโทษ)
1-1 เคลโอ 52
2-1 วัลค็อตต์ 73
3-1 นาสรี่ 77

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ลงสนามในเกมนี้ใต้แรงกดดันเนื่องจากต้องการเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียว แต่โชคดีตรงที่คู่แข่งอย่าง ปาร์ติซาน ตกรอบไปแล้ว ซึ่งทางด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ ก็จัดทัพชุดใหญ่เท่าที่มีลงสนามลุยทันที

แต่ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ปาร๋์ติซาน สามารถตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่นเรียกว่า อาร์เซนอล แทบไม่มีช่องเข้าทำเลยทีเดียว สร้างความอึดอัดให้กับแฟนบอลกันเนอร์ส เป็นอย่างยิ่ง

จนกระทั่งนาทีที่ 30 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำจากลูกจุดโทษเมื่อโดยที่ สตอยโกวิช ไปเสียบใส่ ฟาน เพอร์ซี่ ผิดจังหวะไป ซึ่งกองหน้าชาวดัตช์ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมนี้ด้วยก็ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด

 

อย่างไรก็ดีอาร์เซนอล ก็ไม่สามารถที่จะเปิดฉากบุกต่อได้ ทำให้ประตูของ ฟาน เพอร์ซี่ เป็นลูกโทนในช่วงครึ่งแรกที่เงียบเชียบมาก ต้องรอจนครึ่งหลังที่กันเนอร์ส กลับมาเล่นได้ตามจังหวะเกมของตัวเอง สามารถที่จะต่อบอลได้อย่างสวยงาม

แต่เล่นดีไม่ทันไรก็กลับมาโดนตีเสมอในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ เคลโอ ตัวเก่งของ ปาร์ติซาน ยิงไปแฉลบ เซบาสเตียน สกิลลาชี่ บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 แล้ว

ถึงตรงนี้ อาร์เซนอล ไม่มีอะไรจะเสียเพราะเสมออาจถึงตกรอบได้ ก็พยายามเปิดฉากถล่มเต็มตัว โดย ฟาน เพอร์ซี่ มีจังหวะซัดฟรีคิกก็โดนเซฟได้

และในนาทีที่ 73 ก็มาได้ประตูหนีเป็น 2-1 อีกครั้งสมใจ จากการยิงของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ยิงสวนจังหวะโหม่งสกัดของ โยวาโนวิช เข้าไปคลายแรงกดดันของทีมลงไปได้มาก ก่อนที่อีก 4 นาทีถัดมาตัวเก่งอย่างซามีร์ นาสรี่ จะทำประตู 3-1 ได้อีกเมื่อได้บอลจาก อเล็กซ์ ซง ที่ฝากมาก่อนจะตัดสินใจยิงเองเข้าไปอย่างเฉียบขาด

 

แต่ก่อนจบเกม บาการี่ ซาญ่า กลับไปโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในจังหวะทำฟาวล์ ซึ่งจะส่งผลให้ติดโทษแบนในรอบน็อคเอาต์ ก็เป็นจุดด่างพร้อยในเกมนี้ไปสำหรับกันเนอร์ส ที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ในที่สุด