"บังยี" วรวีร์ มะกูดี พร้อมดันให้ "ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน คุมทีมชาติไทยต่อในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่จะเริ่มดวลแข้งในปี 2012 ส่วนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ปลายปีหน้ายังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าจะให้ "กัปตันมาร์เวล" ทำทีมต่อหรือไม่ ส่วนตัวเองทำทุกอย่างเป็นไปตามระบบสากลแล้ว ท้าใครคิดว่ามีความสามารถเห็นว่าตัวเองเหมาะสมจะเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ก็เสนอตัวเข้ามาทำงานได้

แข้งไทยกลับถึงบ้านแฟนสื่อแห่รับ
  
     ภายหลังจากที่ขุนพลทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งเพิ่งสร้างความผิดหวังให้กับแฟนฟุตบอลชาวไทยทั่วทั้งประเทศในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการตกรอบแรกในรอบ 6 ปี หลังเก็บได้เพียงแค่ 2 แต้มจากการลงสนาม 3 นัด ซึ่งถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ตกรอบแรกด้วยการไม่ชนะทีมใดเลย 
 
     ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 53 ที่ผ่านมา  ทัพนักเตะไทย ที่นำโดย  "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย  ผจก.ทีม และ "ร็อบโบ้"  ไบรอัน ร็อบสัน ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ด้วยสายการบินไทย  เที่ยวบิน ทีจี 343 เวลา 16.35 น. โดยมี "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เดินทางมารับด้วยตนเอง ขณะเดียวกันยังมี สื่อมวลชนไทยได้ดักรอเพื่อสัมภาษณ์ ไบรอัน ร็อบสัน คับคั่ง นอกจากนั้นยังมีบรรดาญาติๆ และครอบครัวของนักเตะได้เดินทางมารอรับด้วย
          
  "ร็อบโบ้" ย้ำทุกคนเต็มที่แล้ว
      
     และทันทีที่มาถึง "ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ว่า ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างผิดหวัง เพราะตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่านี้ แต่คงไม่มีทีมไหนในโลกที่นักเตะมารวมตัวแล้วลงแข่งขันเลย ทีมไทยเองได้รวมตัวกันหลังจบนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ แค่วันเดียว แล้วลงเล่นกับเรา ซึ่งที่ผ่านมาเคยบอกกับสมาคมฟุตบอลฯ ไปแล้วไม่ใช่ว่าเพิ่งจะพูดเรื่องนี้ หลังทีมตกรอบ และในฐานะผู้ฝึกสอนก็คงไม่มีหน้าที่ที่จะไปจัดโปรแกรมการแข่งขันลีกภายในประเทศต่างๆ ได้
           
     "ทีมไทยเตรียมทีมแค่วันเดียว แต่ทีมอื่นเตรียมทีมกัน 2-3 เดือน ทุกคนทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ผมก็ให้ทุกอย่างเท่าที่ให้ได้แล้ว ผมภูมิใจในนักเตะทุกคน เราแสดงให้เห็นว่าดีกว่าลาว มาเลเชีย และอินโดนีเซีย แต่การตัดสินของผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นมีผลต่อทีมอย่างมาก ผมไปดูดีวีดีการแข่งขันย้อนหลังแล้วเห็นได้ชัดว่าทีมไทยควรจะได้จุดโทษ 4-5ครั้ง ตรงนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ส่วนการเลือกตัวผู้เล่นนั้น ผมมั่นใจว่าได้เลือกคนที่ดีที่สุดมาติดทีมแล้ว"
           
รับมีความสุขดีกับประเทศไทย

 
     กุนซือทีมชาติไทยเผยต่อว่ายังมีความสุขกับทำงาน และเป็นเกียรติที่จะทำงานกับทีมชาติไทยต่อไป แต่ก็หวังว่าโปรแกรมแข่งขันลีกในอนาคตจะดีขึ้นกว่านี้ เพราะส่งผลถึงทีมชาติไทยด้วย ส่วนอนาคตของตัวเองบอกได้เลยว่าจะไม่มีวันเดินหนีจากทีมชาติไทยแน่ ที่ผ่านมาพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้ว ตอนเอเชียนเกมส์เราโชคไม่ดีเล่นดีแต่แพ้ญี่ปุ่น ส่วนซูซูกิ คัพ ก็เป็นเพราะเตรียมทีมไม่ดี
 
     "สัญญาของผมกับสมาคมฟุตบอลไทยยังเหลืออยู่ถึงเดือนเมษายน หลังจากนั้นต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร แต่ผมบอกได้เลยว่ายังมีความสุขที่เมืองไทย และมีความสุขกับนักฟุตบอล นักข่าว แต่เมื่อผลการแข่งขันออกมาไม่ดีก็เข้าใจว่าต้องมีกระแสที่ไม่ดีตามมา และขอยืนยันว่าตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา มุ่งมั่นทำงานกับทีมชาติไทยอย่างหนัก ไม่เคยเดินทางกลับไปอังกฤษหรือสิงคโปร์เพื่อทำงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนที่คนวิพากษ์วิจารรณ์กันแน่นอน" ร็อบโบ้ กล่าวปิดท้าย
      
"ให้ร็อบโบ้" ทำบอลโลกต่อ,ซีเกมส์ยังไม่พิจารณา

 
     ทางด้าน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เผยถึงเรื่องการเตรียมทีมชาติไทย เพื่อเข้าแข่งขันในรายการสำคัญ ปี 2554  ภายหลังจากรอบปีที่ผ่านมา ผลงานของทีมนั้นต้องถือว่าล้มเหลว โดยนายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า "เราได้ตั้งเป้าเอาไว้ 3 รายการว่าจะต้องทำผลงานให้ดี และจะจัดเวลาให้แต่ละทีมได้เวลาฝึกซ้อมที่เพียงพอ เริ่มตั้งแต่ฟุตบอลปรีโอลิมปิก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่มี "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน เป็นคนคุมทีม ส่วนรายการกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประทศอินโดนีเซีย ยังไม่แน่ใจว่า จะให้ร็อบสันคุมทีมดีหรือไม่ เพราะในปีหน้าก็จะเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลก 2012 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในช่วงปลายปีเหมือนกัน"
           
นายกพร้อมให้คนคิดว่าทำงานดีเสนอตัว

 
     ขณะเดียวกัน นายกสมาคมฟุตบอลฯ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "เป้าหมายหลักและนโยบายที่ชัดเจนของผมคือทีมชาติไทยต้องเข้าไปถึงฟุตบอลโลก และโอลิมปิก ส่วนฟุตบอลลีกต้องเจริญก้าวหน้า การทำอะไรให้สำเร็จไปพร้อมกันถือว่ายากพอสมควร ที่ผ่านมาผมทำทุกอย่างแล้วนอกจากลงไปเล่นเอง ถ้ามีอะไรบกพร่องผมพร้อมจะพิจารณาตัวเอง แต่ตอนนี้ผมก็ทำในลักษณะปกติสากลทำกัน ผมว่าดีกว่าหลายสมาคม ขอยืนยันว่าทำดีที่สุดแล้ว และสมาคมฟุตบอลฯ เป็นของส่วนรวมใครคิดว่ามีความสามารถเห็นว่าตัวเองเหมาะสมจะเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ก็เสนอตัวเข้ามาทำงานได้" บังยี กล่าว
      
"เสี่ยแฮ๊งค์" ชี้นอกสนามทำผลงานแย่

 
     ในขณะที่ "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้ให้เหตุผลถึงการที่ผลงานทีมชาติไทยไม่เป็นไปตามที่แฟนบอลคาดหวังไว้ โดยเผยว่าเป็นเพราะโปรแกรมฟุตบอลลีกที่ไม่สามารถจัดได้อย่างลงตัว  เนื่องจากเรื่องนอกสนามไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองทำให้ส่งผลกระทบต่อลีกที่ต้องมีการเลื่อนโปรแกรมบ่อยครั้ง  และจากเหตุผลดังกล่าวทำให้ส่งผลต่อทีมชาติที่ทำให้มีระยะเวลาในการเก็บตัวค่อนข้างน้อย  ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับวงการฟุตบอลไทยที่จะได้แก้ไขเพื่ออนาคตของทีมชาติไทยต่อไป
           
มองลีกแข็งแกร่งแล้วแต่ต้องใช้เวลา

 
     ยอดผู้จัดการทีมชาติไทยยังเผยถึงฟุตบอลลีกของเมืองไทยว่ากำลังมาถูกทาง  เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูกเท่านั้น และเชื่อว่าอนาคตทุกอย่างน่าจะดีขึ้นตามความคาดหวังของทุกคน"ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นวงการฟุตบอลไทยพัฒนา และตอนนี้ฟุตบอลลีกบ้านเรากระแสดีมากๆ โดยเฉพาะแฟนบอลที่ให้ความสนใจเป็นอย่างดี  ซึ่งต้องให้เครดิตกับทางสมาคมฟุตบอลฯ ที่มีการจัดการที่ดี แต่จากที่ลีกแข็งแกร่งทำให้ทุกคนคาดหวังว่าทีมชาติไทยจะดีขึ้นด้วยนั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ถูกแต่ช่วงแรกๆ มันอาจต้องส่งผลต่อทีมชาติ เนื่องจากนักเตะต้องรับใช้สโมสร ซึ่งอนาคตหากทุกอย่างลงตัว ทีมชาติไทย ก็น่าจะได้รับผลประโยชน์ตรงนี้แน่นอน"
            
ขอโทษแฟนบอลพร้อมรับผิดชอบ

 
     นอกจากนั้น "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย  ได้สรุปผลงานของทีมชาติไทยในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ครั้งนี้ว่า "แต่ละเกมมันค่อนข้างอึดอัด เพราะทุกชาติจ้องที่จะหักไม่ให้เราเข้ารอบ  บอกตามตรงว่า ไทยเราศักยภาพเหนือกว่าทุกทีม แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะ การตกรอบครั้งนี้ต้องขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง และผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง  แต่สำหรับตัวนักฟุตบอลผมบอกได้เลยว่าพวกเขาทำเต็มที่แล้ว"
 
       "เสี่ยแฮ๊งค์" เผยต่ออีกว่า "หลังจบเกมหากใครได้เห็นนักฟุตบอลไทยร้องไห้ในห้องพักจะรู้ว่าทุกคนผิดหวังมากแค่ไหนกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้เลย  ดังนั้นอยากขอให้แฟนบอลเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยต่อไปด้วย"
           
แข้งไทยบ่นเสียดายขอโทษแฟนบอล

 
     ส่วนทัพนักเตะไทยที่มีโอกาสได้ลงสนามในทัวร์นาเมนต์ของอาเซียนอย่าง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ได้เผยในทำนองเดียวกันว่าเสียดายกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ และอยากขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ศูนย์หน้าจอมเก๋าที่ยิง 2 ประตูให้กับทีมชาติไทยในเกมแรกที่เสมอกับลาว 2-2 กล่าวว่า "เสียใจและเสียดายกับผลงานที่ทำได้ไม่ดีพอ ที่สำคัญยังสร้างความผิดหวังให้กับคนไทยทั้งประเทศ ตอนนี้เราคงต้องหันมามองถึงความเป็นจริงว่าเราเป็นรองชาติคู่แข่งไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ทีมชาติไทยมักจะข่ม สิ่งสำคัญที่เราจะเน้นมากก็น่าจะเป็นเรื่องระยะเวลาในการเตรียมทีมชาติ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้"
 
     ขณะที่ "ดวง" นฤพล อารมณ์สวะ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่แพ้ อินโดนีเซีย 1-2 เผยว่า "เสียดายเหมือนกันครับที่ทีมชาติไทยตกรอบ พี่ๆ ทุกคนรวมถึงตัวผมเองก็ได้พยายามทำหน้าที่กันอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เนื่องจากเรามาเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยความไม่พร้อม ซึ่งดูจะเป็นสาเหตุหลักของการตกรอบในครั้งนี้"