วรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกเหรียญทองเอเชียนเกมส์ขวัญใจชาวไทยได้กลับบ้านเกิดที่ สุราษฎร์ธานี ผู้ว่าและแฟนมวยชาวสุราษฎร์แห่ออกมาตอนรับยอดนักชกอย่างยิ่งใหญ่พร้อมจัดงานเลี่ยงฉลองเหรียญทองเอเชียนเกมส์

     ยังอยู่ในกระแสของความชื่นชมฮีโร่จากกีฬาเอเชียนเกมส์ โดยเฉพาะการกลับคืนสู่บ้านเกิดของเหล่านักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลมาได้ เมื่อวันพุธที่ 8 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ชาวสุราษฎร์ธานี นำโดย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายธีรวัฒน์ เอี่ยมตระกูล และ นายก อบจ.นายมนตรี เพชรขุ้ม ได้จัดงานต้อนรับฮีโร่เหรียญทองเอเชียนเกมส์ วรพจน์ เพชรขุ้ม และคณะนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย พร้อมด้วยนักกีฬาที่มีสายเลือดชาวสุราษฎร์ธานีอย่างยิ่งใหญ่

     โดยได้จัดขบวนแห่ต้อนรับจากสนามบินสุราษฎร์ธานีไปรอบตัวเมือง ให้ประชาชนและนักเรียนได้ชื่นชมนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติและจังหวัดใช้เวลาร่วมสองชั่วโมง ซึ่งมีชาวสุราษฎร์ฯ และบรรดาเด็กนักเรียนออกมาปรบมือต้อนรับและขอสัมผัสมือพร้อมถ่ายรูปกับนักชกฮีโร่อย่างมากมายตลอดสองข้างทาง

     งานนี้นอกจาก วรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกเหรียญทองในรุ่น 56 กก.แล้ว ก็ยังมีทีมมวยสมัครเล่นทั้งนักมวยและสตาฟฟ์โค้ชร่วมเดินทางไปด้วยครบทุกคน โดยนักชกสาวเหรียญเงิน ทัศมาลี ทองจันทร์ และนักชกเหรียญทองแดง อำนาจ รื่นเริง กับ วุฒิชัย มาสุข แม้ไม่ใช่ชาวสุราษฎร์ธานี แต่ก็ได้รับความชื่นชมมากเช่นกัน

     รวมถึงอีกคนที่ต้องบอกว่าเป็นสตาร์เด่นซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดดังตลอดไม่แพ้กัน ก็คือ "ฮีโร่บาส" สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกคนแรก ที่ร่วมเดินทางไปฉลองชัยกับนักมวยรุ่นน้องด้วย ส่วนนักกีฬาประเภทอื่นที่เป็นชาวสุราษฎร์ฯ และร่วมอยู่ในขบวนแห่ต้อนรับกลับบ้านเกิดก็ยังมี นางสาวชลดา ชัยประพันธ์ นักกีฬาเหรียญเงินกาบัดดี้, นางสาวบุษยา บุญรักษ์ และ นางสาวไปรมา จูสม นักกีฬาเหรียญทองแดงรักบี้ฟุตบอลชุดประวัติศาสตร์ด้วย

     วรพจน์ เพชรขุ้ม ให้สัมภาษณ์กับ "มวยสยาม-สยามกีฬา" ถึงการกลับบ้านเกิดอย่างฮีโร่อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้เคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญเงินโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ มาแล้วว่า "ผมดีใจมากเลยครับที่ชาวสุราษฎร์ธานีให้การต้อนรับผมด้วยความยินดี ออกมาชื่นชมผมอีกครั้ง

     มันเป็นความปลื้มที่ต้องบอกว่า ผมไม่เสียดายเลยกับเวลาที่ทุ่มเทให้กับการซ้อมยาวนานร่วมปี จนทำให้ผมประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองมาได้ เหรียญทองของผมอันนี้ผมขอมอบให้ชาวไทยทุกคนและชาวสุราษฎร์ฯ ที่คอยเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างผมมาตลอดทุกครั้งที่ผมขึ้นสังเวียน 

     แม้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ อาจจะดูไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อตอนผมได้เหรียญเงินโอลิมปิก แต่มันก็คือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความภูมิใจของชาวสุราษฎร์ฯ ที่ผมได้สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดให้กับครอบครัวและตระกูลเพชรขุ้ม สำหรับอนาคตผมก็ขอสัญญาว่าจะพยายามตั้งใจฟิตซ้อมและทุ่มเทอย่างสุดฝีมือ 

     เพื่อคัดเลือกตัวไปชกกีฬาโอลิมปิกที่อังกฤษให้ได้ ซึ่งถ้าฝันของผมเป็นจริง ผมก็อยากจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนแรกของชาวสุราษฎร์ธานี ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาให้ได้ครับ ขอบคุณชาวสุราษฎร์ฯ ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ผมทั้งยามสุขและทุกข์ครับ"

     ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธีรวัฒน์ เอี่ยมตระกูล ได้กล่าวว่า ตนกับวรพจน์มีความผูกพันกันมานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นนายอำเภออยู่ที่อำเภอพนม บ้านเกิดของวรพจน์ ตนขอชื่นชมวรพจน์อย่างมากที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้อายุตอนนี้จะ 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังโชว์ฝีมือในการชกมวยได้อย่างยอดเยี่ยม 

     สมควรที่เยาวชนจะดูไว้เป็นตัวอย่าง และถ้าใครชื่นชอบทางด้านกีฬา ก็ให้เลียนแบบวรพจน์ให้ได้ ซึ่งก้าวมาจากเด็กโรงเรียนกีฬาธรรมดาๆ แต่เวลานี้วรพจน์มีทุกสิ่งทุกอย่างมากเกินกว่าคนในวัยเดียวกันจะไขว่คว้าหาได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง 

     ส่วน นายกอบจ. มนตรี เพชรขุ้ม ที่จัดงานฉลองเลี้ยงใหญ่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เปิดใจถึง สิบเอก วรพจน์ เพชรขุ้ม ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องร่วมตระกูลเดียวกันว่า วรพจน์เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง และมีความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะทำอะไร จะทุ่มเทและตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้ดีที่สุดของตัวเอง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนหรือไม่ประสบความสำเร็จเลย แต่วรพจน์ก็ไม่ท้อแท้ 

     วรพจน์ถือว่าเป็นนักกีฬาที่มีทัศนคติในการมองโลกในแง่ดีสูง จึงทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมในสถานการณ์ที่กดดัน 

     อนึ่ง สำหรับนักกีฬาทีมชาติที่ไปแข่งเอเชียนเกมส์ ณ นครกว่างโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นสายเลือดชาวสุราษฎร์ธานี คว้าเหรียญรางวัลจากศึกกว่างโจวเกมส์มีกันอยู่หลายคนทีเดียว ดังนี้ วรพจน์ เพชรขุ้ม เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น, กฤษณะ ธนากรณ์ เหรียญทองเซปักตะกร้อ, ชลดา ชัยประพันธ์ เหรียญเงินกาบัดดี้ทีมหญิง, จิระพงศ์ มีนาพระ เหรียญทองแดงกรีฑา วิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย, ไปรมา จูสม และ บุษยา บุญรักษ์ นักกีฬารักบี้ฟุตบอลทีมหญิงทั้งคู่ 

     สำหรับการจัดงานฉลองต้อนรับนักกีฬาฮีโร่เอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ธีรวัฒน์ เอี่ยมตระกูล ได้มอบรางวัลให้กับนักกีฬาทุกคนที่มาร่วมงานด้วย โดยนักชกเหรียญทอง วรพจน์ เพชรขุ้ม ได้เงินสด 50,000 บาท ส่วนคนที่ได้เหรียญเงินอย่าง ทัศมาลี ทองจันทร์ ก็ได้ 30,000 บาท และเหรียญทองแดงอย่าง อำนาจ รื่นเริง กับ วุฒิชัย มาสุข ได้ 20,000 บาท นอกจากนั้นคนที่ไม่ได้เหรียญก็ยังได้รางวัลปลอบใจอีกคนละ 10,000 บาท ด้วย