"ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ฟื้นตัวเร็วราวปาฏิหาริย์ ไข้ลด ชีพจร ความดันปกติ หลับสนิททั้งคืน พอตื่นตอนเช้าไม่เห็นแม่ร้องไห้อาละวาด จะลุกจากเตียงเดือดร้อนพยาบาล 5 คน ถึงจับอยู่ แพทย์ต้องให้ยานอนหลับสงบสติอารมณ์ไว้ก่อน ด้านอารักษ์ พรประภา เผยแม้อาการฟีมดีขึ้นแต่ยังไม่ไว้ใจ อยากดูจากรายงานผลของแพทย์ดีกว่า เตรียมหานักจิตวิทยาประกบฟีมหลังหายสนิทเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ เพราะนักบิดบอบช้ำสาหัส

     ความคืบหน้าของ "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดโมโตทู หนึ่งเดียวของไทย ที่ได้รับอุบัติเหตุ ณ ถนนเลียบริมหาด จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมก่อนถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สุขุมวิท มาแล้ว 3 วัน ล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ฟีมยังคงอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอซียู ต่อ โดยมี นางอารีย์ วิไลโรจน์ เป็นผู้เฝ้าไข้
      

แพยทย์ตรวจเช้าไข้ลดทุกอย่างดีขึ้น

     ช่วงเช้ามืดของวันคณะแพทย์ได้เข้าตรวจอาการของฟีมอีกครั้งหลังนอนหลับสนิทมาทั้งคืนพบว่า อาการไข้ของฟีมลดลง อัตราการเต้นของหัวใจ และชีพจร สู่สภาวะปกติ ร่างกายมีการฟื้นตัวได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น นางอารีย์  วิไลโรจน์ จึงแยกตัวจากการเฝ้าอาการของฟีม เดินทางมุ่งหน้าสู่วัดใหญ่อินทราราม พร้อม นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร เอพี ฮอนด้า ที่เข้าเยี่ยมฟีมแต่เช้า เนื่องจากในวันดังกล่าวจะมีพิธีบรรจุศพ คริสมาส วิไลโรจน์ บิดาของรัฐภาคย์ ในช่วงสายของวัน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า
 
     ในระหว่างที่ นางอารีย์ เดินทางไปแล้วนั้น ฟีมได้ตื่นขึ้นจากการหลับยาวทั้งคืน เมื่อมองไม่เห็นนางอารีย์ ก็ร้องหาถามกับพยาบาลผู้เฝ้าไข้ว่าแม่อยู่ไหน เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่พอใจ ทำให้ ฟีม เริ่มร้องไห้ และร้องงอแง หาแม่เพียงอย่างเดียว พร้อมเริ่มดิ้นรนพยายามจะลุกจากเตียงจนต้องใช้พยาบาลถึง 5 คนช่วยกันจับตัวฟีม ก่อนที่แพทย์ต้องให้ยานอนหลับเพื่อให้ฟีมสงบลง  ตลอดจนนางอารีย์ ต้องรีบกลับมายังโรงพยาบาล โดยไม่ได้ร่วมพิธีบรรจุศพแต่อย่างใด 
  
        
เริ่มพูดได้ร้องอยากลุกจากเตียง 

     นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร เอพี ฮอนด้า เมื่อเสร็จจากงานบรรจุศพคริสมาส แล้วจึงรุดกลับมายังกรุงเทพฯ เพื่อดูอาการของฟีมทันที ก่อนจะเผยว่า แม้ทราบถึงเรื่องการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และฟีมแข็งแรงได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว แต่ตนก็ยังไม่อุ่นใจจนกว่าจะได้รับรายงานจากแพทย์ ก่อนที่ช่วงบ่ายแพทย์ได้เข้าตรวจดูอาการอีกครั้ง ก่อนจะเผยผลการตรวจว่าฟีมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถพูดตอบโต้ได้บ้าง แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็เป็นสิ่งบ่งชี้ที่ดี และในวันรุ่งขึ้นจะนำแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และกายภาพ เข้ามาดูแลในเรื่องของการเตรียมจัดโปรแกรมกายภาพให้แก่ฟีมเอาไว้ด้วย
 
     นายอารักษ์ เผยต่อว่า ขณะที่แพทย์เข้าเยี่ยม ได้ซักถามอาการของฟีม ซึ่งนักบิดได้พูดโต้ตอบว่า ต้องการลุกจากเตียง เนื่องจากนอนมาหลายวันรู้สึกเมื่อย แต่ไม่มีการปวดหรือเจ็บตรงไหนอีกแล้ว ที่รำคาญคือบรรดาท่อยางต่างๆ ทั้งท่อยา และท่อปัสสาวะซึ่งได้ร้องขอให้ปลดออกด้วย แพทย์จึงตัดสินใจที่จะปลดท่อปัสสาวะออก แต่ไม่อนุญาตให้ลุกจากเตียงไปฉี่เอง ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างอื่นแทน อย่างไรก็ตามแพทย์ยังคงให้ฟีมอยู่ในระยะที่ไม่พ้นขีดอันตราย เนื่องจากห่วงเรื่องการติดเชื้อ และยังคงเป็นผู้ป่วยที่งดเยี่ยมต่อไป
   
       
  เพื่อนเผยนาทีชีวิตเห็นแล้วฟีมไม่น่ารอด 

     ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวใน เอพี ฮอนด้าว่า ในช่วงของวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่ฟีมยังอยู่ในอาการโคม่า และมี นางอารีย์ เฝ้าไข้นั้นมีเพื่อนของฟีมที่อยู่ในเหตุการณ์อุบัติเหตุรุดมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลทำให้นางอารีย์ ได้สอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำเอานางอารีย์ ถึงกับอึ้งเมื่อเพื่อนยืนยันว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุฟีมกระเด็นออกจากรถไปไกลมากเนื่องจากไม่มีจุดยึดเกาะใดๆ และอาการของฟีมในที่เกิดเหตุดูแล้วเรียกได้ว่ามีโอกาสรอดเพียง 50-50 เนื่องจากเห็นทีมแพทย์ฉุกเฉินต้องปั้มหัวใจ และดูดเลือดที่ตกในออกจากช่องจมูก และปาก ของฟีมเป็นจำนวนมาก
 
     ขณะที่ผู้เสียชีวิต คือ นายธรรมวิทย์ บุญช่วยเจริญ แม้จะล้มลงไปแต่ยังมีอาการดี และสามารถลุกเดินได้ ไม่ได้เสียชีวิตคาที่อย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งการรอดชีวิตครั้งนี้ทำให้เพื่อนๆ ต่างพูดกันว่าถือเป็นปาฏิหาริย์ทีเดียว แต่ นายธรรมวิทย์ ที่สภาพดูดีกว่ากลับเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่นางอารีย์ เฝ้าไข้ลูกชาย เห็นนางอารีย์ จุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบอกไปถึง คริสมาส ที่จากไปว่าให้ช่วยดูแลลูกให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วด้วย
    
      
อารักษ์เตรียมส่งนักจิตวิทยาช่วยดูแล 

     นายอารักษ์ พรประภา เผยต่อด้วยว่า ด้านงานศพของ คริสมาส วิไลโรจน์  ณ วัดใหญ่อินทราราม ก็ผ่านไปด้วยดี มีบรรดาเพื่อนและญาติพี่น้องร่วมงานกันหลายสิบคนท่ามกลางความอาลัยรัก และต่างก็อธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของ คริสมาส มาช่วยเหลือดูแลฟีมให้ปลอดภัยโดยเร็ววัน เพื่อจะให้ฟีมมาฌาปนกิจศพเมื่อครบ 100 วันด้วย ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดีความนั้น แม้จะยังมีความสับสนเรื่องผู้ขับขี่ว่าจะเป็น ฟีม หรือน ายธรรมวิทย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าสอบปากคำฟีมอีกครั้งหลังอาการดีขึ้นนั้น นายอารักษ์ เผยว่า ล่าสุดยังไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด ซึ่งตนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงรอให้แพทย์อนุญาตให้เข้าเยี่ยมก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนเรื่องแผนการในอนาคตที่นอกจากจะปรับปรุงเรื่องรถมอเตอร์ไซค์สำหรับแข่งแล้ว ตนจะเพิ่มนักจิตวิทยาชาวไทย ประกบไปกับฟีม เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจให้แก่ฟีมด้วย หลังจากต้องบอบช้ำอย่างหนักจากการสูญเสียพ่อ และตัวเองต้องประสบอุบัติเหตุรุนแรงในครั้งนี้