"ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี 10 ตัว เปิดบ้านสอย "เจ้าเวหา" ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. เอฟซี 2-0 ขณะที่ "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี ไล่ขย้ำ "พญาชาละวัน" พิจิตร เอฟซี สุดมันส์ 3-2 ส่วน "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี ไม่พลาดบุกดับยิง "พะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี ดับคาถิ่น 3-1 ศึกลูกหนัง ดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก สายเอ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา

 

     การแข่งขันฟุตบอล เอไอเอส ดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา

                                                     สระบุรี เอฟซี 2-0  ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. เอฟซี

     ที่สนาม อบจ.สระบุรี "ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี อันดับ 3 ของกลุ่ม เอ เปิดบ้านพบกับ "เจ้าเวหา" ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. เอฟซี ทีมอันดับ 4 ของสาย
 

     เกมนี้ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ป้ายแดง สระบุรี เอฟซี ก็ได้วางผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดย ภานุวัฒน์ พรมเย็น, ยุทธพงษ์ ศรีละคร และ สามารถ ปัญญา ลงเป็นตัวชูโรง ส่วน "โค้ชดำ" กฤษฎา เพี้ยนดิษฐ์ กุนซือใหญ่ ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว.เอฟซี ก็ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มที่ เนื่องจากไม่มีใครเจ็บหรือแบน นำโดย ธาดา ทองท้วม, อิทธิพล จันแปงเงิน และ เจมส์ บัวเต็ง
 

     ครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันแบบระมัดระวังตัวยังไม่กล้าเปิดเกมแลกกันมากสักเท่าไหร่ น.15 อัลฟ่า ซาม่า ของสระบุรี เอฟซี ตัดบอลได้จากผู้เล่นของ ม.รังสิตฯ ก่อนที่จะแทงบอลขึ้นหน้าให้ สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช หลุดขึ้นไปทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจัดการครอสบอลไปที่เสาสองให้กับ เอกภพ สนิทวงศ์ ขึ้นโขกเต็มศีรษะ บอลพุ่งเข้าประตูไป สระบุรี เอฟซี ขึ้นนำ ม.รังสิตฯ ไปก่อน 1-0
 

     น.33 สระบุรี เอฟซี มาได้ลูกโทษที่จุดโทษจากจังหวะที่ ศตวรรษ มั่นประสิทธิ์ ได้โอกาสยิงบอลในเขตโทษ แต่ว่า เจมส์ บัวเต็ง ยกมือขึ้นมาเหมือนจะกันบอล ทว่าผู้ตัดสินก็เป่าให้จุดโทษไปและเป็น ภานุวัฒน์ พรมเย็น ที่ส่งเข้าไป สระบุรี ขึ้นนำ ม.รังสิตฯ อีกครั้ง 2-0
 

     น.43 บอลยาวจากกลางสนามของสระบุรี เอฟซี ขึ้นหน้าให้กับ สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช พักบอลได้ก่อนที่จะพยายามกระดกบอลข้ามหัว ณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ม.รังสิตฯ ทว่า ณรงค์ ออกมาไวตัดบอลไว้ได้ จากนั้น ทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรเพิ่มกันได้ หมดเวลาครึ่งแรก สระบุรี เอฟซี นำ ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว.เอฟซี อยู่ 2-0
 

     ครึ่งหลัง น.49 สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช กองหน้าสระบุรี เอฟซี พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายของสนาม แล้วลากจี้จากกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายต่อให้ ศตวรรษ มั่นประสิทธิ์ ที่เติมขึ้นมายิงแบบดีดกะให้แสกหน้า ณรงค์ วงศ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ม.รังสิตฯ ทว่า ณรงค์ ยังไวเซฟไว้ได้
 

     น.54 วาเลรี่ โชม่อน กองหน้าสระบุรี เอฟซี โชว์ความสามารถเฉพาะตัว ลากพาบอลหลบผู้เล่น ม.รังสิตฯ 3 คน จากกลางสนามถึงกรอบเขตโทษ ก่อนที่จังหวะยิงบอลจะปลิ้นเลยไปถึง อัลฟ่า ซาม่า ที่เติมขึ้นมา แต่ว่ายิงไม่ดีเท่าไหร่ บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
 

     น.56 จากจังหวะคอร์เนอร์ทางฝั่งขวาของสนาม อิทธิพล จันแปงเงิน เปิดบอลยาวเลยออกไปที่เสาสอง ธาดา
ทองท้วม เก็บบอลได้ก่อนที่จากลากบอลเข้าเขตโทษ แล้วเปิดยัดไปที่เสาแรก จักรินทร์ บุญมี ผู้รักษาประตูสระบุรี จะรับแต่บอลหลุดมือดีที่บอลปลิ้นออกหลังไป
 

     น.64 มงคล นกกาศักดิ์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษของสระบุรี ก่อนที่จะพยายามรอจังหวะยิง ทว่าช้าเกินไปมาก โดนกองหลัง สระบุรี เอฟซี มาสไลด์ฉกบอลไปได้ พลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับ ม.รังสิตฯ
 

     น.67 สระบุรี เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น เมื่อ อัลฟ่า ซาม่า กองกลางตัวตัดเกมของทีมไปทำฟาวล์หนักใส่ผู้เล่น ม.รังสิตฯ กรรมการไม่รอช้าจัดการควักใบแดงไล่ ซาม่า ออกจากสนามทันที
 

     น.77 สระบุรี เอฟซี ได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช รับอาสายิงเอง ทว่าบอลมันแรงเกินไป เหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้นอะไร
 

     น.87 ณรงค์ศักดิ์ สดใส วิงแบ็กของสระบุรี หนุนบอลยาวออกซ้ายมาให้ ภานุวัฒน์ พรมเย็น ที่ยืนโล่งอยู่คนเดียวจับบอลลงได้สวย ก่อนจะลากตัดเข้าหากรอบเขตโทษเพื่อหาจังหวะยิงแต่ว่าช้าเกินไป กองหลัง ม.รังสิตฯ เข้ามาบีบหมดแล้วต้องรีบยิง และก็ยิงออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
 

     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ภานุวัฒน์ พรมเย็น ได้บอลทางกราบซ้ายของสนามอีกครั้ง แล้วลากเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายบอลต่อให้ ภณัฐพงษ์ สงวนพรรค ที่สอดขึ้นมาได้กดเต็มหลังเท้า ณรงค์ วงศ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ม.รังสิตฯ ยังไวพุ่งปัดเอาไว้ได้ ต่อจากนั้นไม่มีใครสามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน สระบุรี เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะ ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว.เอฟซี ไปได้ 2-0

วาทะโค้ช

     ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ สระบุรี เอฟซี - เกมวันนี้ออกมา 3 คะแนน ก็ถือว่าพอใจ เพราะว่าเราเองทั้งเจ็บและแบนหลายตัวทีเดียว ทำให้การจัดตัวมันดูจะยากสักหน่อย เพราะว่าเราเองต้องตัดสินใจในเรื่องการเปลี่ยนตัวด้วย และเราเองก็เปลี่ยนได้แค่ไม่กี่ตัว แถมยังมาโดนใบแดงไปอีก ก็เลยทำให้ค่อนข้างยาก แต่ก็โอเคครับ สำหรับ 3 คะแนน

     กฤษฎา เพี้ยนดิษฐ์ กุนซือ ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว.เอฟซี - จริงๆ แล้วเราก็น่าจะได้ประตูบ้าง แต่ว่าพอมีโอกาสแล้วก็ทำกันไม่ได้เอง แต่จะว่าไปวันนี้ทุกคนก็พยายามกันเต็มที่แล้วล่ะ แต่ว่ามันอยู่ที่จังหวะเท่านั้นเอง เรายังเหลืออีก 2 เกม หากเก็บได้ 3 แต้ม ใน 2 นัดเราก็น่าจะได้เล่นรอบเพลย์ออฟแน่นอน

     คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
สระบุรี เอฟซี : จักรินทร์ บุญมี 7, ยุทธพงษ์ ศรีละคร 6.5 (นรินทร์ บุญไทย 6), สเตฟาน จ็อคกี้ 6.5, ศตวรรษ มั่นประสิทธิ์ 7, เอกภพ สนิทวงษ์ 7 (มนัส ตัดสุนทร 6.5), สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช 8, ณรงค์ศักดิ์ สดใส 7, สามารถ ปัญญา 6.5, ภานุวัฒน์ พรมเย็น 7, วาเลรี่ โชม่อน 7 (ภณัฐพงษ์ สงวนพรรค 7), อัลฟ่า ซาม่า 6
ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. เอฟซี : ณรงค์ วงษ์ทองคำ 6.5, ธนา ปุ่นประโคน 6, อิทธิพล จันแปงเงิน 6, เจมส์ บัวเต็ง 6 (อำนาจ ทรงรัมย์ 6.5), จิระศักดิ์ ทิจันทร์ 6.5, ธาดา ทองท้วม 6, อำพล สมบัติ 6, ศุภชัย มัยวงศ์ 6, วิลลี่ เอ็นโญ่ 5.5 (มงคล นกกาศักดิ์ 5), วรายุทธ กล่อมนาค 5.5, เลสลี่ย์ 6

     แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช นักเตะ สระบุรี เอฟซี

 

                                                            เชียงใหม่ เอฟซี 3-2 พิจิตร เอฟซี

     ที่สนามกีฬาสมโภช 700 ปี จ. เชียงใหม่ เป็นศึกดาร์บี้แมตช์เมืองเหนือ ระหว่าง "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี จ่าฝูงสาย เอ เปิดบ้านพบกับ "พญาชาละวัน" พิจิตร เอฟซี ทีมอันดับ 4 ของกลุ่ม

     เกมนี้ เชียงใหม่ เอฟซี มีผู้เล่นติดโทษแบน 2 คน เป็นทางด้าน วรุตน์ สัพโส และ ภาณุวัฒน์ อาจอินทร์ ส่วนผู้เล่นตัวหลัก รายอื่นทั้ง เอกลักษณ์ ทองกริต, ศรันย์ ศรีเดช และ พรรษา มีสัตย์ธรรม ยังอยู่นำทีมเช่นเดิม
 

     ด้าน พิจิตร เอฟซี เกมนัดนี้ต้องการแต้มเป็นอย่างมาก เพื่อลุ้นต่อในช่วงท้ายของรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมนัดนี้ไร้ผู้เล่นติดโทษแบน ทำให้ สรสักดิ์ แรตสอน จัดชุดใหญ่ลงเต็มสูบ นำโดย คำแก้ว โสภา, พิสิฐ ยืนยิ่ง, ศุภกร นาคน้อย, เอกพันธ์ ศรสิทธิ์, สัจจา มณีโชติ และ อำนาจ รักประเสริฐ
 

     เริ่มเกมครึ่งแรก ได้ไม่ถึงนาที พิจิตร เอฟซี ก็มีโอกาสได้ลุ้นก่อน จากลูกยิงหน้าประตูของ สุภกร นาคน้อย แต่ผู้ตัดสินยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน น.3 กองเชียร์เชียงใหม่ได้เสียวบ้าง จากลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเป็น  ชนัตพล สิขะมณฑล บรรจงปั่นด้วยขวา ลูกไซด์โค้งทำท่าจะมุดเข้าเสียบใต้คาน แต่ผู้รักษาประตูของทีมเยือน กระโดดชกออกไปได้หวุดหวิด
 

     น.6 ชนัตพล ได้โอกาสได้ปั่นฟรีคิกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนอกกรอบเขตโทษ เยื้องทางซ้ายเช่นเดิม แต่ระยะกว่า 30 หลา ก่อนเปิดด้วยขวาลูกพุ่งไปทางเสาสอง แต่ คำแก้ว โสภา นายทวารพิจิตร ก็มากระโดดคว้าได้ ก่อนที่นักเตะของเชียงใหม่จะเข้าถึง
 

     เกมการแข่งขันเริ่มเปิดแลกกันได้อย่างสนุก ทั้งสองฝ่ายต่างก็พยายามเปิดเร่งเกมบุกเข้าใส่กันอย่างเต็ม ที่เพื่อหวังประตูออกนำก่อน น.14 เจ้าถิ่น พยัคฆ์ล้านนา ได้โอกาสลุ้นจากลูกเปิดจากมุมธงซ้ายของ ศรันย์ ศรีเดช เปิดโด่งข้ามไปทางเสาสอง แต่ทว่า คำแก้ว นายทวารของ พิจิตร เอฟซี ก็ยังออกมากระโดดชกออกไปได้อีก
 

     น.17 ในที่สุดกองเชียร์ของเชียงใหม่ ก็ได้เฮสมใจ จากลูกสวนกลับขึ้นฝั่งซ้ายของสนาม แล้วก็เป็น วสุวัฒน์ หลักฐาน ที่ขยันวิ่งไล่บอลไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดโด่งข้ามไปทางเสาสอง เป็นทางด้าน ศรันย์ ศรีเดช จับบอลได้ก่อน หาจังหวะยิงสวนทางผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างใจเย็นให้ เชียงใหม่ เอฟซี ออกนำไปก่อน 1-0
 

     หลังจากที่เสียประตูให้กับทางเจ้าถิ่น พิจิตร เอฟซี ก็พยายามเร่งเกมบุกเข้าใส่อย่างเต็มที่ หมายทวงประตูคืนให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะผ่านแนวรับของทางเชียงใหม่ ถึงหน้าปากประตูได้
 

     เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ยังเป็น เชียงใหม่ เอฟซี ที่นำอยู่ 1-0 เกมการแข่งขันเริ่มจะผ่อนลง โดยรูปเกมส่วนใหญ่ เป็นการชิงจังหวะกันอยู่ที่แดนกลางของสนาม
 

     น.34 พิจิตรสวนกลับขึ้นมาอีกครั้ง ศุภกร นาคน้อย เปิดบอลตัดหลังผู้เล่นของเชียงใหม่ เอฟซี ให้กับทางด้าน โอลิเวร่า ได้หลุดเดี่ยว แต่ผู้ตัดสินริมเส้นก็ยังยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปอีก
 

     น.38 ชนัตพล ก็มาปั่นฟรีคิกบริเวณริมเส้นซ้ายนอกกรอบเขตโทษ ให้แฟนบอลเชียงใหม่ได้เสียวอีกครั้ง บอลไซด์โค้งมุดตกลงหลังตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
 

     น.39 พิจิตร เอฟซี บุกหนักแล้วได้ลุ้นติดๆ กัน 2 ครั้ง จากจังหวะแรก เป็นทาง โคฟี่ เอ็ทซิบ้า แต่ผู้รักษาประตูก็ยังเครียร์ออกมาได้ ก่อนที่จังหวะต่อมาเป็นทาง ศุภกร นาคน้อย ซัดนอกกรอบเขตโทษ ไปแฉลบผู้เล่นของเชียงใหม่ เอฟซี หลุดออกหลังไป
 

     น.41 จากลูกเตะมุมของ อำนาจ รักประเสริฐ เปิดบอลมาหน้าประตู เป็นจังหวะชุลมุนก่อนที่จะเป็นทาง ติเอโก้ โรมาโน่ เดอ โอริเวร่า จิ้มบอลส่งลูกเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้พิจิตรไล่มาเป็น 1-1 หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็เปิดเกมแลกกันได้เสียวหลายจังหวะ แต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม หมด 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 1-1
 

     ครึ่งหลังเริ่มได้เพียงนาทีเดียว กองเชียร์ของเชียงใหม่ ก็ต้องเงียบกริบ เมื่อ ศุภกร นาคน้อย พาบอลตะลุยขึ้นริมเส้นซ้าย ก่อนเปิดครอสไปหน้าประตู แล้วก็เป็นทางด้าน พิสิฐ ยืนยิ่ง วิ่งเข้ามายิงง่ายๆ ส่งลูกกระทบก้นตาข่ายให้ พิจิตร เอฟซี พลิกแซงนำ 2-1
 

     น.48 เชียงใหม่ได้ลุ้นจากเกมบุกขึ้นริมเส้นขวาของ ศรันย์ ศรีเดช เปิดยัดมาหน้าประตูก่อนที่ วสุวัตน์ หลักฐาน จะยิงไปติดผู้รักษาประตูบอลกระดอนออกมาเข้าทาง ชนัตพล ได้วอลเลย์ซ้ำ แต่ลูกโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
 

     พิจิตร ยังคงเปิดเกมบุกได้เสียวอย่างต่อเนื่อง น.55 ศุภกร นาคน้อย ได้โอกาสส่องนอกรอบ 18 หลาเยื้องมาทางซ้าย บอลพุ่งไปชนเสาออกหลังอย่างน่าหวาดเสียว
 

     น.57 เชียงใหม่ได้ลุ้นเหมือนกัน เบนจามิน มุซซ่า เลี้ยงจี้กองหลังทีมเยือนก่อนผ่านบอลต่อให้ ชนัตพล วิ่งมายิง บอลยังไปตรงตัวผู้รักษาประตู
 

     น.58 แฟนบอลเชียงใหม่ได้เฮกันสุดเสียงอีกครั้ง ชนัตพล สิขะมณฑล เปิดบอลจากทางด้านริมเส้นขวาไปหน้าประตู แล้วก็เป็นทางด้าน เบนจามิน มุซซ่า วิ่งมาซัดให้ เชียงใหม่ เอฟซี ไล่มาเป็น 2-2
 

     เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสุดมันส์ น.68 เจ้าถิ่นได้เสียว จากลูกเตะมุมของ เอกลักษณ์ ทองกริต เปิดโด่ง
ไปหน้าประตู ศรันย์ ศรีเดช ได้โหม่งแต่หลุดข้ามคานออกไป
 

     น.69 ศรันย์ ศรีเดช เกือบทำให้แฟนเชียงใหม่ได้เฮ จากลูกเปิดมาจากฝั่งขวา ศรันย์ ตวัดเท้าวอลเลย์ซัดจังหวะเดียว บอลพุ่งไปหน้าประตู แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ คำแก้ว โสภา
 

     น.74 ยังเป็นชียงใหม่ที่ได้ลุ้น อนุชา ชัยวงศ์ ตัวสำรอง ที่เพิงเปลี่ยนตัวลงมาได้โอกาสหลุดไปดวลผู้รักษาประตู ก่อนกระดกบอลข้ามหัว ลูกหลุดเสาออกหลังไปอย่างได้ลุ้น
 

     น.84 หลังจากที่บุกอยู่ในที่สุด เชียงใหม่ เอฟซี ก็ได้ประตูที่รอคอย มารีล เดอร์ซิแยร์ เปิดบอลต่อให้กับ  ศรันย์ ศรีเดช ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เพชฌฆาตประจำทีม เชียงใหม่ เอฟซี จะสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เชียงใหม่ เอฟซี ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2
 

     ช่วงท้ายเกม ทั้งสองฝ่ายยังคงเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.93 เชียงใหม่เกือบได้ประตูเพิ่มจากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทางด้าน อนุชา ไชยวงศ์ ซัดไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลา เชียงใหม่ เอฟซี เอาชนะ พิจิตร เอฟซี ไปได้สุดมันส์ 3-2

 วาทะโค้ช

     สฤษดิ์ วุฒิช่วย หัวหน้าผู้ฝึกสอน เชียงใหม่ เอฟซี - ต้องบอกว่าเป็นเกมที่สนุกและมันส์มากสำหรับวันนี้ พิจิตรมีการเตรียมตัวมาดีและต้องการแต้มเพื่อลุ้นเพลย์ออฟ มีเสียสมาธิไปบ้างหลังจากที่ได้ประตูออกนำเร็ว ทำให้โดนไล่มาจนโดนแซง แต่ก็ปรับเปลี่ยนเกมและเปิดเกมบุกแลก ซึ่งนักเตะก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีจนเอาชนะไปได้ ตอนนี้โอกาสเลื่อนชั้นก็มีสูง แต่ถ้าเกมที่เหลือได้เพียง แต้มเดียวก็จะเลื่อนชั้นอย่างแน่นอน

     สรศักดิ์ แรตสอน เฮดโค้ช พิจิตร เอฟซี - เป็นเกมที่สนุกและเร้าใจมาก ทั้งสองทีมต่างก็เล่นกันได้ดี วันนี้ต้องชมลูกทีมที่พยายามกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าช่วงท้ายจะมีเสียสมาธิบ้าง แต่ก็เหลือเกมให้ได้ลุ้นอีก 2 นัด ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อเล่นในรอบเพลย์ออฟต่อ เชื่อว่ายังพอมีโอกาส

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

     เชียงใหม่ เอฟซี : พรรษา มีสัตย์ธรรม 7, เอกลักษณ์ ทองกริต 7.5, ณัฐพล เจริญพร 7, วสุวัฒน์ หลักฐาน 7.5, คริสเตียน เหยา 7, จักรพงษ์ แสนหลวง 7, ศรันย์ ศรีเดช 8, เบนจามิน มุซซ่า 6 (อนุชา ไชยวงศ์ 5.5), ชนัตพล สิกขะมณฑล 7 (จิ๊บกัง คัตชวง), ธนพล นาตาแสง 7, ซากีรีน กีตาสม 6 (มินก้า เดอซิแยร์ 5.5)

     พิจิตร เอฟซี : คำแก้ว โสภา 6.5, สุทน กุลมัย 6.5, นิรัตน์ อินทรเทศน์ 6.5 (อาทิตย์ สุขประมาณ 5), พิสิฐ ยืนยิ่ง 7, ศุภกร นาคน้อย 7, เอกพันธ์ ศรสิทธิ์ 6.5, สัจจา มณีโชติ 6, เอกสถา ธัญกรรม 6, อำนาจ รักษ์ประเสริฐ 6 (ธีรวุฒิ รัตนสิทธิ์ 5.5), ติเอโก้ โรมาโน่ เดอ โอริเวร่า 7, ซอร์ โคฟี่ เอ็ทซิบ้า 6

     แมน ออฟ เดอะ แมตช์ :  ศรันย์ ศรีเดช กองหน้า เชียงใหม่ เอฟซี

 

                                                                     ตรัง เอฟซี 1-3 บุรีรัมย์ เอฟซี

     ที่สนามกีฬากลาง จ.ตรัง "พะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง สาย เอ เปิดบ้านรับมือ "ลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี ทีมอันดับ 2 โดยเกมแรกที่พบกับ บุรีรัมย์ เอฟซี เอาชนะมาได้ 1-0
 

     เกมนี้ ชัยวัตน์ สุนทรนนท์ กุนซือเจ้าถิ่น ตรัง เอฟซี จัดทัพใหญ่สู้เต็มที่ นำโดย เคย์ ลังกาวงศ์, ยุทธการโพซสาลี, ตารุตดิน อุศมา และ กิตติพงษ์ รงรักษ์ ส่วนทีมเยือน "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือใหญ่ ส่ง ศุภกิจ จินะใจ, เกียรติชัย ศรีโปฎก, อุกกฤษ วงศ์มีนา และ พิชิตชัย จิวขุนทด ลงเป็นตัวชูโรง
 

     เริ่มเกมได้เพียงนาทีแรก บุรีรัมย์ เอฟซี มาได้จังหวะลุ้นประตูก่อน เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ระยะกว่า 22 หลา เป็นทางด้าน ศิวพงษ์ เจริญศิลป์ ที่รับหน้าที่ปั่นลูกนี้ไปติดศีรษะของ โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ
 

     น.6 บุรีรัมย์ เอฟซี มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อได้จังหวะวางบอลยาวเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโดนทางด้าน ทามาโค้ วาเลนติน ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านสอดมาชิงโหม่งบอลได้ก่อน บอลมาเข้าเท้า กฤษดา สาแก้ว ยิงสวนจังหวะเดียวบอลลอยโด่งข้ามคาน
 

     เกมส่วนใหญ่ยังเป็นทีมเยือน ที่มีโอกาสมากกว่า น.14 ได้จังหวะลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนาม เป็น ประวิทย์ ปะริวันตา ที่รับหน้าที่เปิดยาวที่หน้ากรอบเขตโทษให้กับ เกียรติชัย ศรีโปฎก ที่วิ่งสอดขึ้นไป แต่เกี่ยวบอลไม่ติดพลาดโอกาสยิงประตู
 

     น.18 จากจังหวะโต้กลับขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ ตรัง เอฟซี โดย ชัยวัฒน์ ฤทธิ์ศักดิ์ ปีกตัวจี๊ดของทีม ก่อนที่จะล็อกหลบก่อนหลังไปสุดเส้นแล้วตวัดเข้ามากลางกรอบเขตโทษ อุกฤษณ์ วงศ์มีนา พุ่งปัดบอลไว้ได้นิดหนึ่ง ก่อนจะไหลมาเข้าเท้าของ อานนท์ ปานมีทอง ซัดนอกกรอบตูมเดียวบอลเหินข้ามคานออกไป
 

     น.22 บุรีรัมย์ เอฟซี ได้จังหวะลุ้นจากลูกฟรีคิกทางด้านขวาอีกครั้ง เป็นทางด้าน ศิวพงศ์ เจริญศิลป์ ที่รับหน้าที่เปิดเข้าที่เสาสองบอลเลยหัวทางด้าน เกียรติชัย ศรีโปฎก ที่ขึ้นโหม่งจังหวะนี้ไปนิดเดียว
 

     นาทีถัดมา น.23 บุรีรัมย์ หวิดได้ประตูออกนำ เมื่อ ประวิทย์ ปะริวันตา ได้จังหวะส่องไกล บอลพุ่งส่ายเข้ากรอบ แต่ ทามาโค้ วาเลนติน ผู้รักษาประตูตรัง เอฟซี ยังล้มตัวรับไว้ได้
 

     น.28 บุรีรัมย์ เอฟซีได้ประตูออกนำจนได้ จากจังหวะทำเกมสวนขึ้นมาโดยทางด้าน เกียรติชัย ศรีโปฎก ที่เก็บบอลได้ที่กลางสนามก่อนที่จะเปิดบอลยาวไปให้ เมนซาห์ แต่ ดาวิด บัวเต็ง ชิงโหม่งเจตนาคืนให้กับ ทามาโค้ วาเลนติน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่จะวิ่งออกมาตัดบอลไม่รู้กัน บอลเลยกลิ้งเข้าประตูไป ให้ทางด้าน บุรีรัมย์ เอฟซี บุกมานำ 1-0
 

     ยังเป็น บุรีรัมย์ เอฟซี ที่เปิดเกมบุกมากกว่า และน่าที่จะได้ประตูที่ 2 น.33 เมื่อ ศุภกิจ จินะใจ เก็บบอลได้ที่กรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะผ่านเข้ากลางให้กับ กฤษดา สาแก้ว ตวัดยิงจังหวะนี้หลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
 

     น.38 ตรัง เอฟซี มีโอกาสที่ลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่ทำเกมขึ้นมากลางสนาม ก่อนที่บอลจะมาเข้าเท้าของทางด้าน อานนท์ ปานมีทอง แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วยิงไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งไปเข้าซองของ อุกฤษณ์ วงศ์มีนา ผู้รักษาประตูทีมเยือน
 

     น.42 ทีมเยือนมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ทำเกมสวนกลับขึ้นมาที่กลางสนาม ก่อนที่จ่ายบอลยาวไปหน้ากรอบเขตโทษของ ตรัง เอฟซี แล้วเป็นทางด้าน วิคเตอร์ เมนซาห์ ที่วิ่งแข่งเอาชนะกองหลังตรัง เอฟซี หลุดเข้าไปยิงผ่านตัวผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเข้าไปให้ บุรีรัมย์ เอฟซี นำห่าง 2-0
 

     น.45 ตรัง เอฟซี น่าจะได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ ชัยวัฒน์ ฤทธิ์ศักดิ์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่จะยิงไกล ไปตรงตัวทางด้าน อุกฤษณ์ วงศ์มีนา ผู้รักษาประตูทีมเยือนกระฉอกมาเข้าทาง ตารุตดิน อุศมา จับหนึ่งจังหวะก่อนที่จะไปชนกับทางด้าน อุกฤษณ์ วงศ์มีนา ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นแค่ลูกเตะมุม จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ เอฟซี นำอยู่ 2-0
 

     ครึ่งหลังเจ้าถิ่นมีโอกาสเข้าไปลุ้นเขตโทษ บุรีรัมย์ เอฟซี ได้ก่อน น.49 เมื่อทางด้าน ชัยวุฒิ พระคง เปิดบอลโด่งจากกลางสนามเข้าในกรอบเขตโทษ และเป็น ตารุตดิน อุศมา ที่สอดขึ้นไปจังหวะนี้ แต่ทาง อุกกฤษ วงศ์มีนา ผู้รักษาประตูทีมเยือนออกมาตัดบอลได้ก่อน
 

     ถัดมา น.50 จากจังหวะโต้กลับของทางด้าน บุรีรัมย์ เอฟซี โดย เกียรติชัย ศรีโปฎก ที่พาบอลขึ้นมาทางด้านฝั่งขวาก่อนที่จะผ่านเข้ากลางให้กับ วิคเตอร์ เมนซาห์จับหนึ่งจังหวะก่อนที่จะสะกิดบอลให้กับ วัชระ เกรียมรัมย์ ซัดเต็มข้อไปติดบล็อกผู้เล่นตรัง เอฟซี ออกไป
 

     น.52 บุรีรัมย์ เอฟซี ที่ต้องได้ประตูที่สาม เมื่อได้ลูกเตะมุมทางด้านฝั่งขวาเล่นสั้นมาที่ รณกฤต ธัญญานนท์ ก่อนที่จะเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ เกียรติชัย ศรีโปฎก ได้โอกาสโหม่งเหน่งๆ ไม่โดนบอล ก่อนที่จะเลยไปที่ พิชิตชัย จิวขุนทด โหม่งจังหวะที่ 2 บอลข้ามคานออกไป
 

     น.53 ตรัง เอฟซี ได้จังหวะทำเกมขึ้นมาที่กลางสนาม ก่อนที่บอลจะมาเข้าทางของ อานนท์ ปานมีทอง และตัดสินใจซัดด้วยขวาระยะกว่า 25 หลา บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไป
 

     น.59 เจ้าถิ่นมาได้จังหวะลุ้นประตูตีไข่แตกอีกครั้ง เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ระยะไม่ถึง 20 หลา เป็นทางด้าน วิชิต เปรมจันทร์วงษ์ รับหน้าที่ปั่นจังหวะนี้ บอลโค้งหลุดคานออกหลังไปนิดเดียว
 

     น.62 เป็นทางฝั่ง บุรีรัมย์ เอฟซี ที่มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย เป็นทางด้าน ศิวพงศ์ เจริญศิลป์ ที่รับหน้าที่เปิดมาหน้าประตู แต่ไปติดหัวทางด้าน ดาวิด บัวเต็ง โหม่งออกหลังไปก่อนที่บอลจะเข้าหัวของ วิคเตอร์ เมนซาห์
 

     น.67 ทีมเยือน บุรีรัมย์ เอฟซี น่าจะได้ประตูเพิ่มอีกครั้ง เมื่อได้จังหวะทำเกมขึ้นมาตรงกลางสนามก่อนที่จะแทงทะลุให้กับทางด้าน เกียรติชัย ศรีโปฎก พาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนที่จะพยายามยิงให้สวนตัวผู้รักษาประตู แต่ ทามาโค้ วาเลนติน นายทวารเจ้าบ้านล้มตัวปัดไว้ได้ทัน
 

     น.71 ตรัง เอฟซี ที่มีโอกาสหวาดเสียวน้อยกว่ามาได้ประตูไล่ขึ้นมา จากจังหวะทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายที่ ศุภชัย สังฆบุญ ก่อนที่จะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษตรงกลางประตู แล้ว อานนท์ ปานมีทอง ที่ขึ้นโหม่งโล่งเข้าไปให้ ตรัง เอฟซี ไล่มาเป็น 1-2
 

     น.76 บุรีรัมย์ เอฟซี พลาดที่จะได้ประตูที่ 3 อย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อทางด้าน วิคเตอร์ เมนซาห์ ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะไหลให้ ศุภกิจ จินะใจ หลุดเข้าไปดวลกับผู้รักษาประตูแต่เจ้าตัวกลับยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง
 

     น.77 ยังเป็นทีมเยือนที่น่าจะได้ประตูเพิ่ม เมื่อทางด้าน กฤษณะ วงศ์บุตรดี พาบอลขึ้นมาตรงกลางก่อนที่จะแทงให้กับ ศุภกิจ จินะใจ หลุดเข้าไปได้โอกาสจิ้มบอล แต่ยังไม่ผ่านมือของทางด้าน ทามาโค้ วาเลนติน ที่ปัดลูกนี้ไว้ได้
 

     น.80 หลังจากที่พยายามอยู่นานสำหรับ บุรีรัมย์ เอฟซี สุดท้ายก็มาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ ศุภกิจ จินะใจ ได้บอลทางด้านริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา บอลเลยมาที่ วิคเตอร์ เมนซาห์ แปโล่งๆ เข้าไป ให้ บุรีรัมย์ เอฟซี นำห่างอีกครั้ง 3-1
 

     หลังจากนั้น ตรัง เอฟซี เปิดเกมรุกอย่างหนักหวังทวงประตูคืน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่านแนวรับของ บุรีรัมย์ เอฟซี ทำให้จบ 90 นาที บุรีรัมย์ เอฟซี บุกมาเอาชนะ ตรัง เอฟซี ไปได้ 3-1

วาทะโค้ช

     จอห์น มาร์ค ชูชู่ โค้ชของ ตรัง เอฟซี - นี้เป็นเกมแรกที่ผมได้ลงมาทำหน้าที่ในการคุมทีม และเพิ่งได้ซ้อมนักเตะไปเมื่อวันจันทร์ เรามีนักเตะที่ขาดประสบการณ์ อายุยังน้อย และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ผมเข้ามาซ้อมนักเตะบางคนยังอยู่กรุงเทพฯ อยู่เลยซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น แต่เชื่อว่าอนาคตทีม ตรัง จะเป็นทีมที่ดี

     ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือของ บุรีรัมย์ เอฟซี - วันนีเด็กเราเล่นตามอารมณ์กันมากไปหน่อยในช่วงแรกของเกมทำให้บางจังหวะที่ควรได้กลับไม่ได้ แต่สุดท้ายเราชนะและเก็บสามแต้มได้ก็ดีใจ รวมๆ แล้วนักเตะทุกคนโอเค กับอีกสองเกมที่เหลือนั้นในสัปดาห์หน้าเราต้องเจอกับพิจิตร เอฟซี คงไม่น่าจะมีปัญหาและเราจะไป ด.1 ในเกมนั้น

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

     ตรัง เอฟซี : ทามาโค้ วาเลนติน 6, โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ 6, ดาวิด บัวเต็ง 5.5,  เคย์ ลังกาวงศ์ 6, วัยวุฒิ พระคง 5.5, ชัยวัฒน์ ฤทธิ์ศักดิ์ 6, ศุภชัย สังฆบุญญา 5.5, อานนท์ ปานมีทอง 6.5, ยุทธการ โพซสาลี 5.5 (วิชิต เปรมจันทร์วงษ์ 5), กิตติพงษ์ รงรักษ์ 6 (เติมชัย พรหมชัย -), ตารุตดิน อุศมา 6 (ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน น.59 5)

     บุรีรัมย์ เอฟซี : อุกกฤษ วงศ์มีนา 6.5,  พิชิตชัย จิวขุนทด 6, ประวิทย์ ปะริวันตา 5 (เดชา สร้างดี 6), รณกฤต ธัญญานนท์ 6.5, วัชระ เกรียมรัมย์ 6.5, ศุภกิจ จินะใจ 7, เกียรติชัย ศรีโปฎก 7, ศิวพงศ์ เจริญศิลป์ 7 (กฤษณะ วงศ์บุตรดี 6), กฤษดา สาแก้ว 6.5 (สมรชัย พลายงาม -), ดุรงค์ฤทธิ์ ศรีลา 6, วิเตอร์ เมนซาห์ 7

     แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : วิคเตอร์ เมนซาห์ กองหน้าชาว กานา ของบุรีรัมย์ เอฟซี