"แบ๋น" วันดี คำเอี่ยม จอมพลังสาวจากศรีสะเกษ สุดแกร่ง ทุบสถิติกีฬาแห่งชาติ ท่าแสนทช์ คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 63 กก.หญิง ก่อนประกาศโบกมือลาเวทียกเหล็ก เบนเข็มขอเป็นโค้ชต่อ ในกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 39 "ชลบุรีเกมส์" เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา

     การแแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 "ชลบุรีเกมส์" เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
   

วันดี ยกทุบสถิติซิวทองสแนตช์

 
     ยกน้ำหนัก ที่โรงยิมเนเซียม สวนสาธารณเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ชิง 9 ทอง ไฮไลต์ อยู่ที่ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 63 กก.หญิง ที่มี "น้องแบ๋น" วันดี คำเอี่ยม จอมพลังสาวดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 จากศรีสะเกษ ลงล่าเหรียญด้วย และมี ดารัตน์ ศรีสุวรรณ จอมพลังดางรุ่งจากชลบุรี และ กรรณิการ์ สาระไอ จากสุพรรณบุรี เป็นคู่แข่งสำคัญ
 
     โดยในท่าแสนทช์ จอมพลังดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 ยังแข็งแกร่งยกเหล็กได้มากถึง 98 กก. พร้อมทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ 93 กก. ของ ลักขณา วาจาขำ ที่เคยทำไว้ในกีฬาแห่งชาติสุพรรณบุรีลงได้ถึง 5 กก. ส่วนเหรียญเงิน ดารัตน์ ศรีสุวรรณ ยกได้ 97 กก. และทองแดง กรรณิการ์ สาระไอ ยกได้ 95 กก.

   

แบ๋น ยกไม่ติดไร้เหรียญคลีนฯ และรวม

 
     ขณะที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก แฟนยกน้ำหนักเมืองชลบุรี ต้องช็อก เมื่อ "น้องแบ๋น" พลาดท่ายกเหล็กไม่ติดในทั้ง 3 ครั้ง โดย น้องแบ๋น เรียกน้ำหนัก 120 กก. ทำให้จอมพลังสาวพลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย โดยเหรียญทอง เป็นของ ดารัตน์ ศรีสุวรรณ ยกได้ 121 กก. ส่วนเหรียญเงิน กรรณิการ์ สาระไอ ยกได้ 108 กก. และเหรียญทองแดงภัทรสุดา สุวรรณเพ็ชร ยกได้ 102 กก.
 
     ส่วนประเภทน้ำหนักร่วม เหรียญทอง ดารัตน์ ศรีสุวรรณ  ยกรวมได้ 218 กก. ส่วนเหรียญเงิน กรรณิการ์ สาระไอ ยกรวมได้ 203 กก. และเหรียญทองแดง ภัทรสุดา สุวรรณเพ็ชร ยกรวมได้ 177 กก.

   

ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ

 
     หลังจากแข่งขันเสร็จสิ้น "วันดี" กล่าวว่า สำหรับผลงานหนึ่งเหรียญทอง ที่ทำได้ในท่าสแนตช์ ก็ถือว่าน่าพอใจแลว เพราะด้วยสภาพร่างกายมันก็ล้ามาจากเอเชียนเกมส์ ซึ่งเพิ่งจบไปไม่นานทำให้ร่างกายฟื้นตัวไม่ทัน
 
     สำหรับ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ส่วนทีมชาติคงเลิกแล้วเช่นกัน เพราะด้วยอายุและสภาพร่างกายคงไม่ไหวแล้ว และอีกอย่างคืออยากเห็นน้องได้ก้าวขึ้นรับใช้ทีมชาติบ้าง ส่วนอนาคตตนอยากจะไปเป็นผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักให้กับน้อง

   

"พรชัย" ยกหยิบ 2 ทองให้ ชลบุรี

 
     ส่วนในรุ่นนำหนัก 77 กก. ชาย เป็นการชิงชัยกันของสามจอมพลังหนุ่ม ประกอบด้วย พรชัย ลบศรี จากเจ้าถิ่น "ชลบุรี", สมพล แก้วเกิด และ จตุภูมิ ชินวงศ์ 2 นักยกน้ำหนักจากนครราชสีมา ท่าสแนตช์ เหรียญทอง สมผล แก้วเกิด ที่ยกได้ 146 กก. (ทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ 136 กก. ของตนเองที่เคยทำไว้เมื่อครั้งที่แล้ว) เหรียญเงิน จตุภูมิ ชินวงศ์ ยกได้ 144 กก. และทองแดง พรชัย ลบศรี ยกได้ 143 กก.
 
     ขณะที่ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เหรียญทอง จอมพลังเจ้าถิ่น ที่ยกได้ถึง 180 กก. (ทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ 177 กก. ของ ไกรสอน ดัชถุยาวัฒ ที่เคยทำเมื่อครั้งที่แล้ว) เหรียญเงิน สมผล แก้วเกิด ที่ยกได้ 177 กก. ทองแดง จตุภูมิ ชินวงศ์ ที่ยกได้ 172 กก.
 
     ส่วนในน้ำหนักร่วม เหรียญทอง พรชัย ลบศรี ที่ยกน้ำหนักรวมได้เท่ากับ สมผล แก้วเกิด ที่น้ำหนัก 323 กก. แต่ พรชัย น้ำหนักตัวน้อยกว่า และยังทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ 306 กก. ของ ไกรสอน ดัชถุยาวัฒ ที่เคยทำเมื่อครั้งที่แล้วลงได้อีกด้วย ส่วนเหรียญทองแดง จตุภูมิ ชินวงศ์ ยกน้ำหนักรวมได้ 316 กก.

   

พิทยา เจ๋งคว้า 3 ทองรุ่น 85 กก.

 
     ขณะที่รุ่นน้ำหนัก 85 กก. ชาย ปรากฏว่า ท่าสแนตช์ ทอง พิทยา ตีบนอก จากสุรินทร์ ยกได้ 146 กก. เงิน จักรพันธุ์ เหล็กกล้า จากนครราชสีมา ยกได้ 136 กก., ทองแดง เพชร นิ่มวรรณัง จากชลบุรี ยกได้ 145 กก.
 
      ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทอง พิทยา ยกได้ 192 กก. (ทำลายสถิติประเทศไทย 191 กก. ของตัวเองที่เคยทำไว้เมื่อปี 52) เงิน จักรพันธุ์ ยกได้ 176  กก., ทองแดง เพชร ยกได้ 151 กก. ขณะที่น้ำหนักรวม พิทยา ยกรวมได้ 338 กก. (ทำลายสถิติกีฬาห่งชาติ 332 กก. ของตัวเองที่เคยทำไว้เมื่อปี 50) เงิน จักรพันธุ์ ยกรวมได้ 312  กก., ทองแดง เพชร ยกรวมได้ 296 กก.