ทัพนักกีฬาไทยกระหึ่มโอมาน วันเดียวกวาด 7 ทอง จาก "นักแล่นใบ" ดำรงศักดิ์-กฤษดา วงศ์ทิม และ ณัฐวุฒิ แป้นแย้ม ที่เบียด "เสือเหลือง" คว้าเหรียญทอง ให้กับทัพไทยได้ ส่วน "เจ้าท็อป" กีระติ บัวลง ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแพ้กรรมการเป็นครั้งทีสอง ในศึก อช.บีช เจ้าตัวถึงกับน้ำตาซึม ด้าน "น้องดาว" ศิริพร แก้วดวงงาม ไม่พลิก ปั๊มเซิร์ฟคู่ใจเข้าวินเฉือนญี่ปุ่น ซิวทองเทคโน ด้าน วู้ดบอล เจ๋งเหมาหมด 4 ทอง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา

      ผ่านมาครึ่งทางแล้ว สำหรับการแข่งขัน กีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 2 "มัสกัตเกมส์" และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา ชิง 12 เหรียญทอง จากเรือใบ 2 ทอง, วินด์เซิร์ฟ 4 ทอง, วู้ดบอล 4 ทอง และ เทนเพนกิ้ง 2 ทอง
 
     ปรากฏว่า ทัพนักกีฬาสร้างผลงานกระหึ่มวันเดียวกวาดไปถึง 7 เหรียญทอง จากเรือใบ 2 ทอง, วินด์เซิร์ฟ 1 ทอง และวู้ดบอล 4 ทอง ส่งผลให้แซงเจ้าภาพโอมาน ขึ้นมาเป็นผู้นำเหรียญทอง มี 11 ทอง 4 เงิน 6 ทองแดง ที่ 2 จีน 6 ทอง 3 เงิน 3 ทองแดง 3 โอมาน 5 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง
    

ดำรงศักดิ์ป้องแชมป์เรือโฮบี้สมัย 2

 
     เรือใบ วันสุดท้าย แข่งในเรซที่ 9 และ 10 ในประเภทโฮบี้ 16 ที่มีเจ้าของเหรียญทอง "กว่างโจวเกมส์" ดำรงศักดิ์-กฤษดา วงศ์ทิม ลงชิงชัย และทำแต้มนำมาตั้งแต่วันแรกและในสองเรซสุดท้ายสองพี่น้อง "วงศ์ทิม" ยังไม่ผ่อนมือช่วยกันแล่นเรือคู่ใจเข้าวินมาเป็นที่ 1 และที่ 5 รวมแต้มเสียทั้งหมด 13 แต้มคว้าเหรียญทองมาครองเป็นสมัยที่ 2 ส่วนเหรียญเงิน ฮ่องกง แต้มเสีย 27 คะแนน ทองแดง ธีระพงษ์ วาติบุญเรือง-ณัฐบุตรมาศรี เสีย 32 คะแนน    

เตรียมปั้นเลือดใหม่มาเสริมทัพ

 
     "เจ้าอ้วน" ดำรงศักดิ์ วงศ์ทิม เผยว่า ตอนนี้เรือใบประเภทโฮบี้ 16 ยังมีนักกีฬาเล่นกันน้อยเมืองไทยมีเล่นกันไม่กี่คน เพราะต้องมีนายเรือ ลูกเรือ การเล่นต้องประสานงานกันได้ ซึ่งตนได้วางแผนว่าหลังจากจบเอเชียนบีชครั้งนี้จะกลับไปสร้างนักกีฬาโฮบี้ 16 รุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาเสริม
 
     "ส่วนตัวผมเองยังเล่นไปเรื่อยๆ แต่โอลิมปิกไม่หวัง อยากแข่งอยู่ในโซนเอเชียมากกว่า และอยากให้การกีฬาแห่งประเทศไทยมองเห็นคุณค่าของนักกีฬาเก่าๆ บ้าง ผมรับใช้ชาติมานาน เล่นซีเกมส์มา 10 สมัยเอเชียนเกมส์อีก 4 สมัยทำเหรียญทองมาตลอด
 
     แต่การกีฬาแห่งประเทศไทยไม่เห็นจะตอบแทนอะไรนักกีฬา ที่ทำผลงานให้อย่างต่อเนื่อง ขนาดเครื่องราชฯ ยังถูกดองมา 3 ปีแล้ว เพราะเหลืออีกชั้นเดียว จะได้สายสะพายก็ไม่เห็นได้ อยากให้รัฐบาลมองเห็นคุณค่านักกีฬาเก่าที่ทำผลงานอย่างต่อเนื่องบ้าง เค้าจะได้มีกำลังใจ ที่จะรับใช้ชาติต่อไป ไม่ว่าในฐานะโค้ชหรือนักกีฬา" ดำรงศักดิ์ กล่าว    

"ณัฐวุฒิ" เบียดมาเลย์ ซิวทองเลเซอร์

 
     ด้าน เรือใบเลซอร์ เรเดียล ที่มี "เจ้าท็อป" กีระติ บัวลง เจ้าของเหรียญทอง "กว่างโจวเกมส์" เป็นเต็งแชมป์ แต่ศึกครั้งนี้ กีระติ แพ้กรรมการถูกจับฟาวล์ถึงสองครั้งหมดโอกาสลุ้นเหรียญ แต่ไทย ณัฐวุฒิ แป้นแย้ม กลับเป็นม้ามืดจบ 8 เรซ ขึ้นมารั้งที่ 1 ร่วมกับ "นักแล่นใบ" มาเลเซีย มีแต้มเสียเท่ากัน 25 แต้ม ต้องมาวัดชิงดำกันสองเรซสุดท้าย
 
     ปรากฏว่า เรซที่ 9 ณัฐวุฒิ เข้ามาเป็นที่ 4 ขณะที่ มาเลเซีย จาดิส โมฮัมหมัด เข้ามาเป็นอันดับ 8 ส่วนรอบที่ 10 กระแสลมเริ่มเบา ณัฐวุฒิ จึงได้เปรียบเข้าวินมาเป็นที่ 1 ส่วนมาเลย์ เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ส่งผลให้ ณัฐวุฒิ เบียดชนะมาเลเซียมา 5 คะแนน คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จมีแต้มเสีย 30 คะแนน ส่วนเหรียญเงิน จาดิส แต้มเสีย 35 คะแนน, ทองแดง กาน นาจาบ อูลา (ปากีสถาน) เสีย 48 คะแนน    

"กีระติ" น้ำตาซึมแชมป์หลุดมือ

 
     "เจ้าท็อป" เปิดเผยหลังแข่งว่า "เสียดายเล็กน้อยที่พลาดเหรียญถึงกับน้ำตาซึม แต่ทุกคน ให้กำลังใจ ครั้งนี้แพ้กรรมการแต่เหตุการณ์เหมือนกับ 2 ปีที่แล้วที่บาหลีนำอยู่ดีๆ ถูกกรรมการสิงคโปร์จับฟาวล์แพ้ให้สิงคโปร์เหมือนกัน ถือเป็นบทเรียนครั้งต่อไปต้องเล่นให้รอบคอบมากขึ้น ยิ่งแต้มสูสีกับคู่แข่งต้องไม่เล่นอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกปรับฟาวล์
 
     เป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่สำหรับตน แข่งเอเชียนบีชมาสองครั้งแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งสอง แต่ครั้งต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และโชคดีที่ครั้งนี้เหรียญทองยังเป็นของประเทศไทย เพียงแค่นี้ก็ดีใจแล้ว" กีระติกล่าว    

ลมเบา "ณัฐวุฒิ" ได้เปรียบ

 
     ด้าน ร.อ.วีรสิฎฐ์ พวงนาค ผู้ฝึกสอนเรือใบเลเซอร์ เผยหลังเกมว่า "กีระติเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีและยอมรับได้ ตนได้บอกไปว่า อช.บีช การตัดสินคนละมาตรฐานกับอชก. หรือชิงแชมป์โลกที่มีมาตรฐานสูงกว่า และครั้งนี้กรรมการมาเลเซียเต็มสนามไปหมด เมื่อคะแนนบี้กับมาเลย์ หากมีโอกาสที่จะช่วยนักกีฬาเขาได้ก็ทำ ฉะนั้นไม่ต้องเสียดาย แต่ให้เก็บไว้เป็นประสบการณ์คเพื่อเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"
 
     "ส่วน ณัฐวุฒิ ที่คว้าเหรียญทองมาครองได้ ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน การแข่งขันครั้งนี้ได้วางตัวนักกีฬาไว้ 2 คนคือกีระติ เล่นลมแรง ณัฐวุฒิเล่นลมเบา และที่โอมาน ลมเบา ณัฐวุฒิ น้ำหนักน้อยกว่ากีระติ ประมาณ 10 กก. จึงเล่นลมเบาได้ดีกว่าบวกกับคู่แข่งไปจับกีระติ ณัฐวุฒิ จึงเล่นสบายและคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ" ร.อ.วีรสิฎฐ์ กล่าว    

"น้องดาว" ไม่พลิกซิวทองโต้คลื่น

 
     วินด์เซิร์ฟ วันสุดท้ายแข่งรวดเดียว 3 เรซ และนักโต้คลื่นสาวไทย "น้องดาว" ศิริพร แก้วดวงงาม เจ้าของเหรียญทองยูธโอลิมปิก ที่ทำคะแนนนำ อันดับ 2 ญี่ปุ่นอยู่ 5 คะแนน สามเรซที่เหลือ "น้องดาว" ต้องประคองให้ติด 1 ใน 3 เพื่อคว้าเหรียญทอง
 
     ปรากฏว่า วันสุดท้ายลมพัดเป็นใจ "นักโต้คลื่นไทย" ที่มีแค่ 15 นอต ส่งผลให้ "น้องดาว" เล่นได้ง่ายขึ้นเพราะถนัดลมเบา ปั๊มเข้ามาอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ มีแต้มเสีย 14 คะแนน เฉือนเอาชนะญี่ปุ่น ไอดะ มายูกิ ไป 3 คะแนน คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ส่วน ไอดะ คว้าเหรียญเงิน แต้มเสีย 17 คะแนน ทองแดง มิชูอิชิ มาอิ (ญี่ปุ่น) เสีย 29 คะแนน    

"นภาลัย" ซิวเงิน, "เอก" ทองแดง โต้คลื่น

 
     ขณะที่ "เจ้าหนิง" นภาลัย ธารใส เจ้าของเหรียญทองแดง "กว่างโจวเกมส์" คว้าเหรียญเงินมาครองในประเภทอาร์เอสเอ็กซ์ มีแต้มเสีย 18 คะแนน เหรียญทองเป็นของ เป่ย นา ชาง (จีน) เสีย 9 คะแนน, ทองแดง สโรชา พุ่มไพร เสีย 27 คะแนน ส่วน เอก บุญสวัสดิ์ คว้าเหรียญทองแดงจากอาร์เอสเอ็กซ์ชาย มีแต้มเสีย 26 คะแนน เหรียญทอง ฟ่ง หนาม ชาง (จีน) เสีย 10 คะแนน, เงิน ชาง คุน ชี (จีน) เสีย 18 คะแนน    

"นาวี" ไล่ไม่ทันซิวที่ 2 เทคโนฯ ชาย

 
     ด้านการแข่งขันประเภทเทคโนชาย ที่มี นาวี สิงสาท ที่ทำคะแนนไล่บี้ผู้นำจากจีน และหวังจะไล่บี้ใน 3 รอบที่เหลือ แต่เพราะสภาพลมที่เบาเกินไป ส่งผลให้ "นักแล่นใบหนุ่ม" ไทยไล่ไม่ขึ้น คว้าแค่เหรียญเงินมาครองมีแต้มเสีย 19 คะแนน ส่วนเหรียญทอง บิน เปิง เว่ย (จีน) เสีย 15 คะแนน ทองแดง มู บิน ชาง เสีย 23 คะแนน    

อายุเกินอยากเล่นอาร์เอสเอ็กซ์

 
     "น้องดาว" เผยหลังแข่งว่า ดีใจที่คว้าเหรียญทองมาครองได้ เพราะก่อนแข่งได้รับอุบัติเหตุข้อเท้าซ้ายพลิก คิดว่าจะลงแข่งไม่ได้ แต่พยายามจะลง วันแรกยังมีอาการเจ็บอยู่แต่พอแข่งวันที่สอง สามอาการเจ็บเริ่มหาย ตอนนั้นไม่คิดว่าจะได้เหรียญทองเพราะเราทำได้ไม่เต็มที่
 
     "แต่พอลงทะเลไปแล้วมันลืมว่าเราเจ็บ พยายามเล่นไล่ประกบคู่แข่งที่เป็นญี่ปุ่นตลอด บวกกับลมที่โอมานไม่แรงมาก ซึ่งดาวชอบเล่นลมแบบนี้แต่ละรอบจึงทำผลงานออกมาจากที่ตามหลังอยู่ก็ขึ้นมานำ จนคว้าหรียญทองสำเร็จ
 
     ส่วนอนาคตต้องเปลี่ยนประเภทเล่น เพราะเทคโนฯ เล่นได้แค่อายุ 17 ปีตอนนี้ดาวอายุ 16 ปีแล้วเลยอยากเปลี่ยนไปเล่นอาร์เอสเอ็กซ์ เพราะเป็นประเภทสากลมีแข่งทั่วโลก แต่โค้ชบอกว่าตัวเล็กเกินไป ต้องไปเพิ่มกล้ามเนื้อ เล่นเวตให้มากขึ้นเพื่อเตรียมเปลี่ยนประเภทของเรือ" ศิริพร กล่าว    

วู้ดบอลไทยกวาดเรียบ 4 ทอง

 
     วู้ดบอล ที่นอร์ท เอา ฮาอิล วันสุดท้าย ประเภททีม หลังจากเล่นจบ 8 รอบ ปรากฏว่า ทีมหญิง ไทย ที่ประกอบด้วย พรพิมล บัวกลาง, แพรวพรรณ ชัยทอง, ศิริภัทร ไกรนิตย์, สยุมพร พิมพ์สวัสดิ์, มณทา พันพรม, สยุมพร พิมพ์สวัสดิ์ และ อัญทิรา บุญจิตร
 
     ซึ่งนำมาเป็นอันดับ 1 มาตลอดทุกรอบ ช่วยกันตีรักษาอันดับเอาไว้จนสามารถคว้าเหรียญทองมาครอง ด้วยการตีคะแนนรวมคิดจาก 4 คนที่ดีที่สุดได้ 685 คะแนน เหรียญเงิน ไต้หวัน ตีรวมได้ 732 คะแนน และเหรียญทองแดง จีน ตีรวมได้ 783 คะแนน
 
     ด้านทีมชาย ไทย ประกอบด้วย กล้ายุทธ์ มงคลสมัย, เขต ทิพย์สุมาลัย, จักรินทร์ ขันทอง, สิรภพ วรรณพิณ, ชินกฤต อิ่มกระจ่าง และ สมร คนล่ำ เมื่อคิดคะแนนจาก 4 คน ที่ตีได้น้อยที่สุด มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ตีรวมกันได้ 641 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนเหรียญเงิน อินโดนีเซีย ตีรวมได้ 717 และเหรียญทองแดง ไต้หวัน ตีรวมได้ 742 คะแนน
 
     สำหรับประเภทบุคล หลังนำเอา 9 อันดับแรกเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ อีก 2 รอบ ผลปรากฏว่า บุคคลชาย ไทยทำผลงานได้อย่างเหนือชั้นเหมาหมดทั้ง 3 เหรียญ โดยเหรียญทองเป็นของ เขต ทิพย์สุมาลัย ที่ตีได้เท่ากับ กล้ายุทธ์  มงคลสมัย 202 คะแนน แต่ในรอบชิงชนะเลิศตีได้คะแนนน้อยกว่าทำให้กล้ายุทธ์ได้เพียงเหรียญเงิน และ สิรภพ วรรณพิณ ได้เหรียญทองแดง ตีได้ 205 คะแนน 
 
     ส่วนบุคคลหญิง เหรียญทอง ศิริภัทร ไกรนิตย์ ตีได้ 217 เฉือนชนะ แพรวพรรณ ชัยทอง เพื่อนร่วมชาติ ซึ่งตีได้ 218 คะแนน เหรียญทองแดง ยู เชง ฟาง จากไต้หวัน ตีได้ 223 คะแนน ทำให้ทีมวู้ดบอลไทยกวาดมาได้หมดทุกประเภท 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง    

ดีใจทำได้ตามสัญญา

 
     ด้าน จันทร์นี กฤดิบวร ผู้จัดทีมวู้ดบอลทีมชาติไทย กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า ดีใจมากที่ทีมวู้ดบอลทำได้ตามสัญญา หลังจาก ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร นายกสมาคมวู้ดบอลฯ พูดเอาไว้ว่าจะคว้า 4 ทอง นอกจากนี้ในประเภทบุคคลยังเพิ่มเหรียญเงินกับทองแดงมาได้อีกด้วย
 
     "ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากในสมาคมทำงานกันเป็นทีม และสตาฟฟ์โค้ชวางแผนการซ้อมเป็นระบบ มีการดูแลนักกีฬาใกล้ชิด รวมทั้งนักกีฬาชุดนี้มีวินัยดีมาก" ผู้จัดทีมวู้ดบอล กล่าว    

ลุ้นวู้ดบอลเข้าซีเกมส์

 
     จันทร์นี กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้ยินมาว่าจะมีการผลักดันกีฬาวู้ดบอลบรรจุเข้าทำการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ปี 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ตนอยากให้ทำสำเร็จจะได้พานักกีฬาไปเข้าร่วมแข่งขัน โดยในซีเกมส์ ไทยจะไม่มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง ไต้หวัน แต่มีจะอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ที่กำลังพัฒนาฝีมือขึ้นมา