หวายสาวไทยตื่นจากฝันร้ายเก็บชัย 4 นัดรวด คว้าเหรียญทองทีมเดี่ยวแก้ตัวจาก 2 ปีที่แล้วที่พ่ายให้กับ "สาวมังกร" ซิวแค่เหรียญเงิน และเป็นทองที่ 3 ของทัพตะกร้อไทยที่ทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หลังจากที่เอาชนะสาวอินโดนีเซียมาได้2-0เซต21-11,21-16คว้าเหรียญทองมาครอง

       ตะกร้อทีมเดี่ยว ประเภทหญิงแข่งแบบพบกันหมด และหวายสาวไทยดีกรีรองแชมป์เก่า ลงสนาม 2 นัดเอาชนะมาได้ทั้งสองนัด โดยนัดแรกดวลกับ "แชมป์เก่า" จีน ซึ่งเป็นคู่ชิงชนะเลิศของไทยครั้งที่แล้ว และไทยพ่ายให้กับ "สาวมังกร" ทำได้แค่เหรียญเงิน แต่ครั้งนี้สาวไทยเตรียมตัวมาดี เอาชนะจีนล้างตาได้สำเร็จ
 
     ก่อนที่จะมาตอกย้ำความแกร่งด้วยการเอาชนะฟิลิปปินส์มาอย่างง่ายดาย 2-0 เซต และวันนี้เป็นการลงสนามนัดที่ 3 ดวลกับเวียดนาม คู่ปรับเก่าอีกทีมที่ไทยจะประมาทไม่ได้
 
     เกมนัดนี้ไทยส่ง อรทัย บัวศรี ลงไปเสิร์ฟ และส่งให้ อภิญญา ทองภู เป็นตัวฟาด พร้อมด้วยตัวชงอย่าง วารี นันทสิงห์ และ สมฤดี ปรือปรัก ลงสนาม เปิดเกมในเซตแรก ไทยเล่นได้เหนือชั้นกว่า โดยเฉพาะการเสิร์ฟที่แม่นยำของอรทัย พาทีมนำห่าง 19-6 คะแนน และเปิดโอกาสให้ "สาวญวน" ทำแต้มเพิ่มได้อีกเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น ก่อนที่ไทยจะเป็นฝ่ายปิดเซตเอาชนะไป 21-8 คะแนน
 
     เซตที่ 2 ไทยเสิร์ฟดี ทำแต้มขึ้นนำ 4-0 คะแนน แต่เซตนี้เวียดนามแก้เกมมาค่อนข้างดี เน้นรุกหน้าเนตด้วยการขึ้นฟาดใส่สมฤดี ซึ่งเป็นตัวชงและสะกัดเกมรุก แต่นักหวดสาวไทยสะกัดไม่อยู่ เวียดนามทำแต้มไล่มา 2-4 คะแนน และเกมเริ่มสูสีมาก ญวนไล่ทำแต้มจี้ขึ้นมาเป็น 6-7 คะแนน
 
     เมื่อไทยเสียติดๆ กันถึง 3 แต้ม แต่ไทยไม่ปล่อยให้เวียดนามทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว เอาคืน 3 ลูกรวดจากการเสิร์ฟ ขยับหนีไป 10-7 คะแนน แต่โดนเวียดนามทำแต้มไล่ตีเสมอ 10-10 คะแนน
 
     เกมกลับมากดดันที่ไทย เพราะอรทัยเสิร์ฟเสีย แต่สุดท้ายก็เรียกฟอร์มของตัวเองกลับมาได้ทำแต้มขึ้นนำ 19-13 และปิดแมตช์เอาชนะไป 21-14 เก็บชัยนัดที่ 3 ติดต่อกัน
                                                                     

    ดับอิเหนาซิวทองมาครอง

     ส่วนในช่วงเย็นไทย ลงสนามนัดสุดท้าย  ดวลกับ "อิเหนา" และหากชนะนัดนี้สาวไทยจะคว้าเหรียญทองมาครองได้ทันที นัดนี้สาวไทยจึงพลาดไม่ได้ จึงจัดชุดเดิมที่เล่นกับเวียดนามลงสนามเหมือนกัน และปรากฏว่าหวายสาวเล่นแบบไร้ความกดดันเอาชนะไปอย่างง่ายดาย 2-0 เซต สกอร์21-11,21-16คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพตะกร้อไทย ส่วนเหรียญเงิน  จีน และทองแดง เวียดนาม                                                                     

    ดีใจลบฝันร้ายที่เก็บมา2ปี 

     ด้าน พัลลภ ชารีรักษ์ ผู้ฝึกสอนทีมหญิงเผยว่า ดีใจที่สุดที่คว้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้ เหมือนได้ตื่นจากฝันร้ายเมื่อสองปีที่แล้ว หลังจากแพ้ให้จีนในนัดชิงชนะเลิศ
 
     "นัดแรกที่เจอกับจีนนั้นถือเป็นนัดชิงชนะเลิศ แล้วพอชนะจีนได้เรามั่นใจว่าเหรียญทองต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน แต่ตอนที่เล่นกับจีน ยอมรับว่าเด็กค่อนข้างกดดันเพราะอยากจะเอานะ จึงเล่นฝืดไปบ้าง บวกกับเราเสียเปรียบเรื่องรูปร่างที่ตัวเล็กกว่า การขึ้นทำจึงลำบาก แต่ประสบการณ์จาก 2 ปีที่แล้วทำให้เราทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม เพื่อมาล้างตาจีนและทำสำเร็จ ตอนนี้เราตื่นจากฝันร้ายที่เก็บงำมา 2 ปีได้แล้ว"                                                                

    หนุนเข้ากีฬาแห่งชาติ-ยช.แห่งชาติ 

     ผู้ฝึกสอนตะกร้อสาวไทยกล่าวอีกว่า ในนัดที่แข่งกับเวียดนาม กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)  เดินทางมาดูการแข่งขันด้วย จึงอยากจะฝากไปถึงท่านผู้ว่าการกกท.ว่า ตอนนี้ตะกร้อชายหาดได้รับความสนใจมากเพิ่มมากขึ้นในระดับนานาชาติ อย่างเอเชียนบีชเกมส์ครั้งนี้ ตะกร้อเป็นอีกกีฬาที่มีคนดูค่อนข้างเยอะ
 
     แต่การพัฒนาในระดับประเทศตะกร้อชายหาดยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร แต่ละปีแทบไม่มีแมตช์แข่งเลยด้วยซ้ำ จึงอยากวอนให้ผู้ใหญ่ดันเข้าไปแข่งในระดับกีฬาแห่งชาติหรือกีฬาเยาวชนแห่งชาติ เพื่อให้เด็กที่สนใจเล่นตะกร้อชายหาดมีสนามแข่งขัน และทำให้มีนักกีฬาตะกร้อชายหาดเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงอยากให้ผู้ใหญ่ช่วยพิจารณาบรรจุตะกร้อชายหาดเข้าในเกมกีฬาแห่งชาติและเยาวชนแห่งชาติ พัลลภกล่าว                                                                

      "อภิญญา"เล่นของคาดคาถาขอม

     ด้าน อภิญญา ทองภู ตัวฟาดดาวรุ่งทีมชาติไทยเผยหลังเกมว่า ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการคว้าเหรียญทองให้กับทีม ทุกนัดตนจะมีผ้าคาดหัวสีแดง เขียนเป็นภาษาเขมรว่า "ชนะ" ตรงกลางตัวอักษรเป็นรูปพญาแล จ.ชัยภูมิ เป็นผ้าที่อาจารย์จากวพ.ชลบุรี ทำให้ลงแข่งขันตั้งแต่กีฬามหาวิทยาลัย
 
     "ผ้าผืนนี้คาดแล้วสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากเหมือนกัน เป็นเหมือนที่พึ่งทางใจ ใครไม่เชื่อแต่หนูเชื่อ ทุกครั้งที่ได้คาดผ้าแล้วรู้สึกตัวเองมั่นใจมากเวลาขึ้นฟาด จึงคาดมาตลอด ตอนลงแข่งประเภททีมคาดไว้ เป็นผ้าติดตัวไปแข่งที่ไหนต้องนำไปด้วยตลอดค่ะ เพื่อจะได้ชนะเหมือนกับตัวอักษรที่ปักไว้บนผ้า" อภิญญากล่าว                                                                 

     กมลทิพย์-ยุพาลิ่วรอบ8ดวล"อิเหนา" 
  
     วอลเลย์บอลชายหาด รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมไทย 1 กมลทิพย์ กุลนา/ยุพา ภูครองพลอย ชนะ ดาเรน อิบบราฮิม/ซาฟา มาซูด (ซีเรีย) 2-0 (21-4, 21-3) เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว โดยจะไปพบกับ อายู สยาม/ยอคเบท คาปาเซียง (อินโดนีเซีย) ที่ชนะ ฟาน ทิ คัม ฮอง/ไม ทิ ฮัว (เวียดนาม) 2-0 (21-10, 21-18) ส่วนทีมชาย ไทย 2 จ่าตรี สิทธิชัย สังขโชติ/นิพนธ์ นิ่มนวล แพ้ ดิแอน ซานโตซา/โกโก ดาคุนโคโร (อินโดนีเซีย) 0-2 (19-21, 17-21)                                                                          

    ติ๊กยังบาดเจ็บเล่นได้ไม่เต็มที่ 

     หลังเกม "เจ้าติ๊ก" กมลทิพย์ กุลนา เผยว่า แข่งขันครั้งนี้เริ่มมีอาการบาดเจ็บที่ไหล่ขวาตั้งแต่รอบแรก จึงทำให้เล่นไม่ดีนัก โชคดีที่นัดแรกๆ เจอกับทีมที่ไม่แข็งมาก หนักสุดเห็นจะเป็นญี่ปุน แต่นัดต่อไปเจอกับอินโดนีเซียเล่นไม่ง่ายเหมือนกัน ประมาทไม่ได้ ต้องเสียเองให้น้อยที่สุด แต่คิดว่าเล่นกับอินโดนีเซียคู่นี้น่าจะผ่านได้เพราะเคยชนะมาหลายครั้งแล้ว น่าจะผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้
 
     กมลทิพย์กล่าวอีกว่า หลังจบ อช.บีช ยังไม่รู้โปรแกรมแข่ง ต้องแล้วแต่สมาคมฯ จะส่งไปแข่งที่ไหน แต่วอลเลย์บอลชายหาดได้รับความใส่ใจจากสมาคมฯ น้อยอยู่แล้ว เมื่อเทียบอินดอร์ แม้สมาคมฯ จะบอกว่าชายหาดแข่งแล้วได้เงิน แต่อย่างผู้ชายถ้าตกรอบแรกไม่ได้เงินเหมือนกัน อยากให้สมาคมฯ หนุนชายหาดให้มากกว่า โดยเฉพาะการควอลิฟายโอลิมปิก ตนมั่นใจว่าชายหาดไทยมีสิทธิ์ไปอลป.ได้หากสมาคมฯ ให้โอกาสส่งไปแข่งเก็บคะแนนเพื่อควอลิฟาย
 
     นอกจากนั้นสนามแข่งที่ไทยจัดในช่วงเดือนเมษายน สนามที่พัทลุงอยากให้ปรับปรุง เพราะทรายที่พัทลุงแข็งมาก นักกีฬาบาดเจ็บกันระนาว ที่ผ่านมามีหลายๆ ทีมไม่อยากไปแข่ง แข่งที่นครศรีธรรมราชจบแล้ว จะเว้นสนามพัทลุงไปรอแข่งที่สงขลาทีเดียว
 
     "จริงๆ พัทลุงสามารถไปเอาทรายที่สงขลามาให้ทำสนามได้เหมือนที่โอมานเค้าลงทุนไปเอาทรายจากอีกเมืองที่อยู่ห่างกว่า 1000 กม.มาใช้เพื่อแข่งขัน อช.บีชครั้งนี้ แต่บ้านเราระยะทางไม่ถึง 100 กม.ไม่ยอมลงทุน นักกีฬาที่ไปแข่งก็เจ็บ" กมลทิพย์กล่าว 
                                                                         
ภูเก็ตคึกตั้งบูทโปรโมตอช.หน4

     ตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย วิรัช พาที ผู้อำนวยการศูนย์กกท. จ.ภูเก็ต ได้ออกบูทโปรโมตการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่ จ.ภูเก็ต โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรีล่า ประเทศโอมาน โดยได้นำเอกสารแจงรายละเอียดความพร้อมในด้านต่างๆ และของที่ระลึกไปแจก ได้รับความสนใจในระดับหนึ่งด้วย ในขณะที่เจ้าภาพครั้งต่อไป จีนได้มาออกบูทโปรโมตการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปเช่นกัน ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับบูทของประเทศไทย