เดชา ไกรศาสตร์ และ เฉลิมพล ผลไม้ นักบิดจากปิโตรนาส ยามาฮ่าไทยแลนด์เรซซิ่ง ประกาศศักดาควบ ยามาฮ่า YZF-R6 คว้าแชมป์ และ รองแชมป์ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ประจำฤดูกาล 2010 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรซแรก ในศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย พร้อมทำคะแนนสะสมทะลุชาร์ต ซิวประเภททีม ที่ประเทศการ์ตา โดยสนามสุดท้าย เฉลิมพล เหมาแชมป์ประจำสนามทั้ง 2 เรซ

      การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ "ปิโตรนาส เอเชียโร้ดเรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2010" ในนัดปิดสนาม รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามโลเซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศการ์ตา เมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
 
      เป็นการแข่งแบบไนต์เรซ เป็นไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อมีนักแข่งโมโต-ทูจากสเปน ริคาร์ด คาร์ดัส และแชมป์ออลแจแปนฤดูกาลล่าสุดอย่าง ทัตซึย่า ยามากูจิ ประกาศร่วมชิงชัยด้วยในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี พร้อมกับเหล่าซูเปอร์สตาร์เอเชียเรซซิ่ง ที่ประกอบไปด้วยนักแข่งจากประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน และ ออสเตรเลียรวม 17 คันซึ่งต้องชิงชัยกัน 2 เรซเพื่อหาแชมป์ประจำสนามและแชมป์เอเชียประจำปี
 
      การแข่งขันในเรซแรกแข่ง 15 รอบสนามจากความยาวรอบละ 5.380 ก.ม.ก่อนการแข่งขัน เดชา ไกรศาสตร์ มีคะแนนเก็บที่ 158 แต้มและทีมเมตอย่าง เฉลิมพล ผลไม้ มี 126 แต้มโดยคะแนนเก็บคู่แข่งที่ตามมาคือมาเลเซียมี 123 แต้มนั่นเท่ากับว่าหากเดชาจบได้แค่ที่ 3 ในเรซแรก ก็จะสามารถคว้าแชมป์เอเชียไปครอง โดยไม่ต้องไปรอลุ้นกับการแข่งขันในเรซที่ 2
 
      ซึ่งผลปรากฏว่า เฉลิมพล ที่ควอลิฟายอยู่ที่ 2 พุ่งทะยานออกจากกริดสตาร์ตนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว ตามด้วย เดชา ไกรศาสตร์ ทีมเมตที่สตาร์ตในอันดับ 4 โดยมีนักแข่งสเปน, มาเลเซีย ที่ออกสตาร์ตแถวหน้าพร้อมนักแข่งญี่ปุ่นแถวสองพุ่งไปสู่โค้งแรกได้ไม่ดีนัก
 
      หลังจากนั้นทั้ง เฉลิมพล และ เดชา ก็โชว์ฟอร์มสมศักดิ์ศรี อดีตแชมป์เอเชียปีที่แล้ว และ ปี 2007 ตามลำดับควบยามาฮ่าคู่ใจเบอร์ 1 และเบอร์ 24 วิ่งตามกันมาเข้าเส้นชัยไปอย่างเหนือชั้น ท่ามกลางความพลิกล็อกของกลุ่มหลังเพราะตัวเต็งทั้งจากมาเลเซีย ที่พอจะลุ้นรองแชมป์เอเชียประจำปี ต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 4
 
      ในขณะที่นักแข่งโมโต-ทู จากสเปนจบแค่ที่ 4 และ ตัวเต็งจากญี่ปุ่นอีกคน เข้ามาที่ 8 เท่านั้น สรุปผลเรซ 1 ที่ 1 เฉลิมพล ผลไม้ 32.29.801 นาที 2 เดชาไกรศาสตร์ 32.30.267 นาที 3 ฟาดี้ อิมามุดดิน (มาเลย์) 32.36.926 นาที
 
      เรซที่ 2 เหลือรถแข่งเพียง 15 คัน แข่ง 15 รอบเช่นเคย เฉลิมพล แชมป์เรซแรกออกตัวดี แต่หลังจากนั้น ไปเสียจังหวะโดนแซงในโค้งรอบแรก อันดับหล่นไปที่ 5 โดยผู้นำในช่วงนั้นเป็น เดชาไกรศาสตร์ ที่ไล่บี้กับนักแข่งญี่ปุ่นอีกคนคือ ฮามากูชิ
 
      หลังจากเสียจังหวะ เฉลิมพล ก็ไล่แซงอันดับขึ้นมาทีละคัน จนในที่สุด ขึ้นมารั้งเป็นผู้นำในรอบที่ 6 โดยมี เดชา ตามประกบหลังไม่ห่าง แต่พอเข้ารอบที่ 10 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ดันมาเกิดขึ้นกับ เดชา เมื่อกรรมการตีธงดำให้กับรถแข่งของ เดชา ในข้อหารถจั๊มฟ์สตาร์ต ซึ่งกรรมการชูป้ายเตือนแล้ว แต่ เดชา ไม่ยอมนำรถเข้าพิต เพื่อมีการปรับเวลา 10 วินาที ทำให้ เดชา ต้องออกจากการแข่งขันไปโดยปริยาย
 
      ปล่อยให้ เฉลิมพล ที่วันแมนโชว์หนีการไล่ล่ากับคู่ปรับเก่าอย่าง ทัตซึย่า ยามากูจิ และในที่สุดเมื่อธงตาหมากรุกถูกสะบัดลง เฉลิมพล เป็นฝ่ายวิ่งชาร์จเข้าเส้นชัยไปก่อนด้วยเวลา 32.27.759 นาที โดยมีแชมป์ออลแจแปนตามมาติดๆ ที่ 32.28.140 นาที ส่วนที่ 3 เป็นของนักแข่งญี่ปุ่น โตชิยูกิ ฮามากูชิ 32.29.009 นาที
 
      และ เมื่อรวมคะแนนสะสมทั้ง 2 เรซแล้ว ปรากฏว่า เดชา ไกรศาสตร์ สามารถคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลไปครอง ด้วยคะแนน 178 แต้ม เฉือน เฉลิมพล ผลไม้ ที่รับตำแหน่งรองแชมป์ประจำฤดูกาลแค่ 2 แต้ม เพราะมี 176 คะแนน ส่วนคะแนนประเภททีม ตกเป็นของปิโตรนาสยามาฮ่าไทยแลนด์เรซซิ่งทีม มี 249 คะแนน
  
      ภายหลังจบการแข่งขัน คุณกรธัช แก่นจันดา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์จำกัด เผยว่า "เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในเรซแรก ได้บอกกับ เฉลิมพล ว่าสามารถบู๊ได้เต็มที่ โดยมี เดชา ที่คะแนนค่อนข้างขาดให้ดูจังหวะคือ ไม่ต้องแลกประคองได้ ก็ประคองและในที่สุด ทีมแข่งของเราก็สามารถทำได้สำเร็จ ส่วนในเรซที่ 2 นั้นไม่ซีเรียสอะไร ให้เขาทั้ง 2 ตัดสินใจกันเอง เพราะแชมป์เอเชีย และรองแชมป์ปี 2010 เป็นของทีมแข่งไทย ตั้งแต่จบเรซแรกแล้ว