"แฝดใหญ่" สุรพงษ์ อริยะมงคล นำทัพฮีโร่ "กว่างโจวเกมส์" สักการะ "องค์ดำ" สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมถวายไก่ชน 1 คู่ "แฝดใหญ่" เผย ก่อนเดินทางไปแข่ง ได้นำนักกีฬามาสักการะขอพร ให้ประสบความสำเร็จ และเมื่อสร้างผลงานมาได้ ต้องนำมากราบไหว้บอกกล่าวถึงผลงานที่นักกีฬาทำได้ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อเป็นความเชื่อ แต่ทำได้แล้วผล พร้อมเล็งเปลี่ยนชื่อโค้ชบางคนอีก เพื่อเพิ่มพลังให้กับทีม

 

      "แฝดใหญ่" พล.ต.ต.สุรพงษ์ อริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย "แฝดเล็ก" ศุภวณัฐ อริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอน เดินทางนำคณะนักกีฬาชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กว่างโจวเกมส์"

      ที่สร้างผลงานคว้า 1 เหรียญทอง จาก 4 คูณ 100 ม.หญิง 2 เหรียญทองแดง จาก 4x100 ม.ชาย และเขย่งก้าวกระโดด สักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.ปักธงชัย  จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 53 โดยคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้นำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมทั้งไก่ชน 1 คู่มาถวาย

      โดยนักกีฬาที่เดินทางมาสักการะในครั้งนี้ประกอบด้วย นงนุช แสนราช, ลภัสร ถาวรเจริญ, ณีรนุช กล่อมดี, วัชระ สอนดี, สิทธิชัย สุวรประทีป, สมโภช สุวรรณรังษี, ทัศพร วรรณกิจ และ ทวีศักดิ์ พูนทอง

      "แฝดใหญ่" เปิดเผย ทัพกรีฑาไทย ให้ความนับถือสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมานานแล้ว ตั้งแต่ปี  2521 ก่อนจะเดินทางไปแข่งแต่ละแมตช์ จะไปไหว้ขอพรเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับนักกีฬา อย่างตอนไปเก็บตัวที่พิษณุโลก เพื่อเตรียมแข่งชิงแชมป์โลก ก็ไปไหว้ขอพรจากสมเด็จพระนเรศวร เพราะพระองค์ท่านคือ ตัวแทนของชัยชนะ ตัวแทนของนักสู้ ก่อนออกไปทำศึกใหญ่ จึงพานักกีฬาขอพร

      เช่นเดียวกับเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 16 ก่อนแข่ง 2 เดือน ทัพกรีฑาไทยเดินทางมาเก็บตัวที่ จ.นครราชสีมา ก่อนแข่งจึงได้พานักกีฬาไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ อ.ปักธงชัย จนทำผลงานคว้า 1 ทอง 2 ทองแดง

      "ก่อนไปเรามาสักการะขอพรจากท่าน เมื่อกลับมาแล้วพร้อมกับผลงานที่น่าพอใจก็ต้องมาสักการะบอกถึงผลสำเร็จ ไม่เชิงแก้บน เพียงแต่ใครขอพรอะไรไว้ก็กลับมาบอกกล่าวและขอบคุณท่าน เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เพราะมัน เป็นเรื่องของกำลังใจ และสร้างความมั่นใจให้กับนักกีฬา"

      "แฝดใหญ่" กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อนักกีฬา สำหรับทีมหญิงเปลี่ยนให้หมดแล้ว ก่อนจะเดินทางไปแข่ง อชก. ก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทอง 4 x100 ม.มาครอง ยกเว้น นงนุช แสนราช คนเดียวที่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเพราะชื่อของ นงนุช มีพลัง และเป็นมงคลต่อตัวเองอยู่แล้ว

      ส่วนที่เล็งให้เปลี่ยนชื่อ คือโค้ชบางคน เพราะยังมีพลังไม่พอ ที่จะดันให้ก้าวไปถึงระดับสูงสุด เช่นเดียว วาสนา วินาโท ที่เปลี่ยนชื่อเป็น อมรรัตน์ วินาโท แต่ชื่อใหม่ชนกับดวง จึงทำให้ชวดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย จึงจะให้เปลี่ยนชื่อแต่จะใช้ชื่อเดิมหรือใช้ชื่อใหม่ ต้องเอาดวงของวาสนา ไปดูใหม่อีกครั้ง" พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าว

      หลังจากนั้น ก็ได้เดินทางไปยังโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา เนื่องจากที่โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครราชสีมานั้น เป็นแหล่งผลิตนักกรีฑระดับเยาวชนที่ก้าวไปสร้างผลงานให้กับประเทศชาติมาอย่างมากมาย จากนั้นในเวลา 16.30 น. ทัพฮีโร่กรีฑา ได้เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยนายสุวัจน์ ลิมปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งมอบพวงมาลัยให้แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่เดินทางมาสักการะ

      นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนยินกับนักกรีฑาที่สามารถสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์มาครองได้สำเร็จ และขอให้มุ่งมั่น ตั้งใจซ้อมเพื่อเป้าหมายที่สูงขึ้นนั้นคือโอลิมปิก และอยากให้กรีฑากลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่นครราชสีมาอีก เพราะเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีความศักดิ์สิทธิ์ นักกีฬามาเก็บตัวที่โคราชก็จะประสบความสำเร็จเหมือนดั่งที่ทัพกรีฑาไทย

      "ตอนนี้ผมอยากให้ทุกกีฬามาเก็บตัวที่โคราช เพราะเรามีสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน หากกีฬาอะไรสนใจอยากมาเก็บตัวทางจังหวัดนครราชสีมายินดีให้การต้อนรับ เพราะตอนนี้คนโคราชมีความตื่นตัวในเรื่องกีฬามาก จึงอยากปลุกกระแสความนิยมกีฬาของชาวโคราชให้มากขึ้นกว่าเดิม" นายสุวัจน์ กล่าว