เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูจากการเล่นปกติได้แล้ว โดยยิงเบิกร่องให้ก่อนที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเอาชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้อย่างหวุดหวิด 2-1


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (1 ม.ค.53)

เวสต์ บรอม 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : ฮอว์ธอร์นส
ประตู :
0-1 รูนี่ย์ 3
1-1 มอร์ริสัน 14
1-2 ชิชาริโต้ 75

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมนำจ่าฝูงลงสนามในเกมต้อนรับปีใหม่ด้วยการยกทัพไปเยือน “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน โดยเกมนี้เจ้าบ้านมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 4 ตำแหน่งด้วยกัน โดยขาด คริส บรันท์ และกาเบรียล ทามาสที่ต้องโทษแบน

ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ โทมัส คุสแซ็ก ลงสนามแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และมีชื่อของ แกรี่ เนวิลล์, กาเบรียล โอแบร์กต็อง และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ลงเป็นตัวจริง โดยคู่หน้ายังเป็นคู่เทพ เวย์น รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

และเริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที เท่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูออกนำทันที โดยเป็นจังหวะการเปิดบอลจากกราบซ้ายของ ปาทริซ เอวร่า ที่ครอสเข้ามาถึง เวย์น รูนี่ย์ ได้โขกบอลเสียบเสาเข้าไป ซึ่งลูกนี้เป็นประตูจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ลูกแรกของ รูนี่ย์ นับตั้งแต่ยิง บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว

แต่เจ้าบ้านก็ไ่ม่ได้ขวัญเสียพยายามตอบโต้กลับมาทันที และเกือบทำได้ดีทีเดียวในจังหวะที่ เจมส์ มอร์ริสันครอสบอลจากขวาเข้ามาได้น่ากลัว บอลผ่านไปถึง แกรี่ เนวิลล์ น่าจะเคลียร์ทิ้งได้ไม่ยาก แต่กลับโดน เฌโรม โธมัส เข้ามาโฉบเอาบอลไปได้แต่ยังดีที่บอลหลุดออกนอกสนามไปก่อน

จากนั้นมาถึงนาทีที่ 14 เจ้าบ้านก็มาตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ คริส บรันท์ สาดบอลยาวขึ้นหน้าไป เนมันย่า วิดิช พยายามจะเคลียร์ทิ้งแต่ว่าไม่พ้นอันตราย บอลไปตกที่ เจมส์ มอร์ริสัน ได้ซัดจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม โดยที่ คุสแซ็ก หมดสิทธิ์เซฟอย่างสิ้นเชิง

ประตูตีเสมอ 1-1 ทำให้ เวสต์ บรอม กลับมาเล่นอย่างมั่นใจและสามารถต่อบอลได้สวยงามสร้างความกดดันให้กับทีมเยือนที่ต้องลงไปตั้งรับบ้าง แต่ก็พออาศัยความเร็วของ โอแบร์กต็อง ในเกมสวนกลับที่สร้างความปั่นป่วนได้ดีเช่นกัน

เวสต์ บรอม พยายามร้องขอจุดโทษในจังหวะที่ แกรม ดอร์แรนส์ พยายามจะง้างเท้ายิงแต่โดน เนวิลล์ สอยล้มไปก่อนแต่ผู้ตัดสิน คริส ฟอย ยังนิ่งอยู่ ก่อนที่ทั้งสองทีมจะลุยใส่กันอย่างสนุก โดยเจ้าบ้านต่อบอลได้งดงามถูกใจแฟนๆอย่างมาก แต่เกมก็จบลงด้วยการเสมอกันไปก่อนในครึ่งแรก

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนจะดูดีขึ้นแล้ว แต่ก็เกือบโดนทีเด็ดของเจ้าบ้านเล่นงานอีกโดยคราวนี้เป็นจังหวะลูกเตะมุม บรันท์ เปิดเข้ามาถึง พอล ชาร์เนอร์ ได้โขกแต่ว่าบอลหลุดกรอบออกไป

จากนั้น เฟอร์กี้ เห็นท่าไม่ดีส่ง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ และ ดาร์รอน กิ๊บสัน ลงสนามมาแก้เกมแทน โอแบร์กต็อง และเบอร์บาตอฟ แต่ว่าก็กลับมาเสียจุดโทษในจังหวะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ไปทำฟาวล์ใส่ เฌโรม โธมัส เพียงแต่ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ กลับยิงพลาดอย่างน่าเสียดาย

มาถึงนาทีที่ 75 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูแซงนำเป็น 2-1 โดยรูนี่ย์ เตะมุมเข้ามาถึง ชิชาริโต้ ที่ไม่มีตัวประกบเลยได้โขกจากระยะ 6 หลาเข้าไปอย่างสบายๆ พลิกสถานการณ์ให้ทีมจ่าฝูงได้แล้ว

เวสต์ บรอม ยังมีโอกาสตีเสมอหลังจากนั้นโดย เฌโรม โธมัส ได้ยิงไซด์ก้อยซึ่งบอลทำท่าจะเข้าแน่ๆอยู่ล้วแต่ก็ยังมี วิดิช ที่สกัดได้จากเส้นอีก ก่อนที่ไม่กี่วินาทีจากนั้น บรันท์ จะซัดเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

โธมัส ยังพยายามต่อไปโดยทำชิ่งกับเพื่อนก่อนจะหลุดเข้าเขตโทษและได้ยิงมุมแคบแต่ก็ออกไป ก่อนที่เจ้าบ้านจะไล่ไม่ทันแม้จะพยายามเต็มที่แล้วก็ตาม จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 3 แต้มเต็มจากชัยชนะ 2-1 หนีแมนฯ ซิตี้ ที่จะลงสนามตามมาเป็น 3 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เวสต์บรอมวิช : สกอตต์ คาร์สัน - สตีเฟ่น รีด, พอล ชาร์เนอร์, ปาโบล อิบันเญซ, มาเร็ค เช็ก -  เจมส์ มอร์ริสัน, คริส บรันท์, ยูซูฟ มูลัมบู, เกรแฮม ดอร์แรนส์, เจอโรม โธมัส  -  ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ 

แมนฯยูไนเต็ด : โทมัส คุสแซ็ค - แกรี่ เนวิลล์, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, กาเบรียล โอแบร์กต็อง, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์

ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย