ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค ได้เข้ามากลืนกิน และมีบทบาทกับประชาชนทั่วทุกมุมโลก และในปีที่ผ่านมาประเทศไทยแทบจะซึมลึกกับสังคมดังกล่าว โดยเฉพาะในด้านของอิทธิพลการนำเสนอข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต ที่เรียกได้ว่าปัจจุบันนี้สามารถเข้าใกล้ชิดเราได้มากยิ่งขึ้น นอกจากการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ  
      
โดยในปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงไทยบ้านเรา ได้นำเทคโนโลยีความทันสมัยดังกล่าวไปใช้ประโยชน์กันมากยิ่งขึ้น เป็นช่องทางทำให้ประชาชน แฟนคลับได้มีโอกาสสื่อสารใกล้ชิดกับดาราศิลปิน ที่ชื่นชอบแบบเข้าถึงได้มากที่สุด หรือแม้กระทั่งตัวดาราเองก็สามารถบอกเล่าความในใจ โพสต์ภาพในอิริยาบถส่วนตั๊ว..ส่วนตัว หรือชี้แจงข่าวสารได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องผ่านหลายช่องทางอื่นเหมือนที่ผ่านๆ มา ทุกวันนี้เรียกว่าถ้าดาราคนไหนไม่มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ จะถูกตราหน้าว่าเชยตกยุค
      
ซึ่งปรากฏการณ์นี้เองมักทำให้เกิดเป็นเรื่องราวอื้อฉาวบนหน้า 1 หนังสือพิมพ์อยู่หลายครั้งหลายครา ไล่เรียงตั้งแต่กรณีของหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” กับสาว “แอนนี่ บรู๊ค” หลังจากที่มีดีเจท่านหนึ่งโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ แฉดาราอักษรย่อ ฟ.ทำดาราตัวประกอบท้อง อีกทั้งยังมีการบอกใบ้ในหลายๆ ประเด็น จนทำให้รู้ว่าเป็นหนุ่มฟิล์ม ซึ่งจากกรณีดังกล่าวทำให้นักร้องหนุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ต้องออกมาแถลงข่าว จากนั้นก็เก็บตัวเงียบหาย และได้ใช้กระดานบนทวิตเตอร์ระบายความในใจกับแฟนคลับ ส่วนผู้ที่พลิกวิกฤตและยึดพื้นที่ทวิตเตอร์เป็นเวทีชี้แจงแถลงข่าวอีกคน หนีไม่พ้น “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” บิ๊กบอสอาร์เอส ที่อัพเดทความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวให้ได้ติดตามกันแทบทุกวัน จึงทำให้มีแฟนคลับของเฮียฮ้อเพิ่มขึ้นมากมายในโลกโซเชี่ยล เน็ตเวิร์คนี้ 

 

อีกกรณีฉาวที่ได้ข้อมูลมาจากโลกไซเบอร์ เห็นจะเป็นกรณีของนักล่าฝันเอเอฟซีซั่น 7 “มาร์ค วิทวัส ท้าวคำลือ” ที่หลังจากเข้าบ้านเอเอฟไปแล้ว เจ้าตัวก็ถูกแฉผ่านเว็บไซต์ชื่อดังด้วยการนำข้อความที่เคยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กด่าว่านายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ออกมาเผยแพร่ แถมตอกย้ำด้วยข้อความที่สบถหมิ่นสถาบันเบื้องสูง แต่กลับเทิดทูนนักโทษชาย “ทักษิณ ชินวัตร” จนกลายเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้หนุ่มมาร์คต้องตัดสินใจลาออกจากการแข่งขันเอเอฟกะทันหันเพื่อตัดปัญหา พร้อมยันไม่เคยหมิ่นเบื้องสูงเชื่อโดนกลั่นแกล้ง และกรณีดังกล่าวด้านนักโทษชายก็ได้ถือโอกาสนี้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์เรียกกระแสให้กับตัวเอง เพื่อสร้างความเห็นใจให้กับประชาชนที่จงรักภักดีกับตน

ส่วนประเด็นของสาว “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” กับสามี “อาท ศรา” ก็ถูกมือดีปล่อยคลิปลงเว็บยูทูป ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะมีปากเสียงทะเลาะแม่ลูกคู่หนึ่งหน้าโรงหนัง และที่เป็นเกาเหลาสุดฉาวเห็นจะเป็นกรณีของนางเอกสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ที่โพสต์ข้อความด่าพิธีกรหน้าหมวย “ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ” เป็นหมาผ่านเฟซบุ๊ก หลังให้ข่าวยังพูดคุยติดต่อกับด็อกเตอร์หนุ่ม “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” อยู่

 

อีกหนึ่งที่ระบายความในใจจนเกิดเรื่อง เห็นจะเป็นดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ที่หลังจากด่าสื่อต่อหน้าว่าหน้าไม่อาย กรณีไปลงข่าวว่าโดนตัวเองเหวี่ยง จากนั้นดาราสาวก็ไปโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของ “พลอย เฌอมาลย์” ว่าจิกกัดดูถูกสื่อต่ออีกรอบในทำนอง เงินเดือนสื่อส่วนหนึ่งก็มาจากพวกเธอ ทำเอาบรรดาสื่อมวลชนควันออกหูประกาศตัวชัดเจนว่าแบน “แตงโม” จนเจ้าตัวต้องใช้ช่องทางถ่ายคลิปวิดีโอลงยูทูป เผยความในใจและขอโทษสื่อ แต่ก็ยังไม่มีคำพูดไหนที่เจ้าตัวดูจะสำนึกแถมยังกัดสื่อซ้ำ เลยยิ่งเป็นการซ้ำบาดแผลที่มีให้ยิ่งใหญ่เวอร์เข้าไปอีก

 

แต่ที่เรียกว่าเป็นเจ้าพ่อโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค ต้องยกให้นักร้องหล่อขั้นเทพ “โดม ปกรณ์ ลัม” ที่มีความคิดแหวกแนวจากศิลปิน-ดาราคนอื่น ที่มักจะเก็บเรื่องราวส่วนตัวไว้เป็นความลับ แต่นักร้องหล่อขั้นเทพสวนกระแสอัพคลิปชีวิตประจำวันของตัวเองลงในยูทูปเป็นประจำ กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ตื่นนอน ไปทำงาน การพบเห็นสิ่งต่างๆ ไปกินข้าวกับแฟน ขอแก้ข่าวกรณีเลิกกับแฟนสาวหรือไปแย่งแฟนคนอื่น กระทั่งเข้านอน นอกจากนี้เวลามีภาพหรือข่าวสารใหม่ๆ หนุ่มโดมก็มักจะโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เพื่อให้แฟนๆ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวตลอด ล่าสุดถึงกับมีแอปพลิเคชั่นของตัวเองเพื่อให้แฟนๆ ที่ใช้มือถือไอโฟนได้โหลดไปดูโดยเฉพาะ แหม...ครบถ้วนกระบวนความเช่นนี้ จะไม่ยกให้เป็นเจ้าพ่อโซเชี่ยล เน็ตเวิร์คคงไม่ได้แล้ว

และที่เป็นประเด็นร้อนทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ล่าสุดกับกรณีของทายาทตระกูลดัง “แพรวา อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา” น้องสาวต่างแม่ของดาราหนุ่ม “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ที่ขับรถด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถตู้โดยสาร จนมีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นักสืบในโลกโซเชี่ยล เน็ตเวิร์คต้องตามขุดคุ้ยประวัติของ “แพรวา” และมีการแฉออกมาตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือผ่านโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่ จนกลายเป็นกระแสทำให้ “แพรวา” โดนสังคมประณามอย่างหนักหน่วง

      
นอกจากนี้ในช่วงที่ประเทศไทยประสบอุทกภัย เหล่าคนดังยังได้อาศัยช่องทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก เผยแพร่ข่าวสารและขอรับการบริจาคจากแฟนๆ ทั้งยังร่วมมือประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสำนักข่าวต่างๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งรายชื่อคนดังที่ทำความดีโดยอาศัยโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค และลงลุยพื้นที่น้ำท่วม มีอาทิ “เจ เจตริน วรรธนะสิน”, “นิหน่า สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา”, “แบงค์ พชร ปัญญายงค์”, “พาที สารสิน", “ศิขรินธาร พลายเถื่อน”, “โจอี้ บอย”, “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” ฯลฯ 
      
แม้คุณประโยชน์ของเทคโนโลยีโลกโซเชี่ยล เน็ตเวิร์คจะมีมาก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นดาบ 2 คม ฉะนั้นจึงควรเลือกเสพและเลือกรับสารอย่างมีสติ ที่สำคัญแม้คุณจะไฮเทคก้าวทันโลกเทคโนโลยีมากแค่ไหน แต่ควรที่จะมีเวลาใส่ใจและให้ความสำคัญกับคนรอบตัว มิเช่นนั้นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อนันต์จะกลับกลายเป็นโทษมหันต์ เพราะคุณเสพติดมันจนกลายเป็นส่วนหนึ่ง และกลืนกินชีวิตบนโลกที่สวยงามใบนี้ไปโดยมิรู้ตัว