จากเหตุการณ์ข่าวที่ช็อกความรู้สึกสาวกของบ้านเอเอฟ กรณีตร.รวบจับ “อ๊อฟ เอเอฟ 6-ชาญณรงค์ หอมชิต” ที่ถูกกล่าวหาว่าแอบถ่ายหญิงสาวขณะปฏิบัติกิจส่วนตัวในห้องน้ำของปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง แถมยังถูกตรวจพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ในรถของ “อ๊อฟ เอเอฟ 6” นั้น จนกลายเป็นข่าวคึกโครม แต่ผลสุดท้ายเมื่อมีการตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โทรศัพท์มือถือของ “อ๊อฟ เอเอฟ 6” ไม่พบภาพแอบถ่าย หรือ อนาจารแต่อย่างใด หญิงสาวผู้เสียหายจึงไม่ติดใจเอาความ และไม่พบสารเสพติดในตัวของอ๊อฟ เอเอฟ 6 แต่อย่างใด ทำให้ทั้งตัวของ “อ๊อฟ เอเอฟ 6” , ครอบครัว , ต้นสังกัด และ แฟนคลับ โล่งอกไปตามๆ กัน

แต่ยังมีข้อสงสัยติดค้างคาใจอยู่บ้างประเด็นว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดแม้หญิงสาวผู้เสียหายจึงไม่ติดใจเอาความและไม่พบสารเสพติดในตัวของอ๊อฟ เอเอฟ 6 แต่ทำไมจึงพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ในรถ และทางต้นสังกัดจะจัดการยังไงกับ “อ๊อฟ เอเอฟ 6” จะมีการแบนไม่ให้งานรึเปล่า ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง daradaily online ได้รับ จม.ชี้แจ้ง พร้อมทั้งคำบอกเล่าจากผู้ที่ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ จากปากของ “อ๊อฟ เอเอฟ 6” และเล่าให้ทางเราได้ทราบว่า...

*** ข้อความจาก จม.ชี้แจง ... ตามที่วันนี้ (6 มกราคม 2554) มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ กรณี นายชาญณรงค์ หอมชิต (อ๊อฟ – เอเอฟ 6) ถูกกล่าวหาว่า แอบถ่ายคลิปและถูกตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจสอบสารยาเสพติด ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบคลิปวีดิโอและไฟล์ภาพในโทรศัพท์แล้ว ไม่พบภาพที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งผลการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดใดๆ นั้น

บริษัท ทรู แฟนเทเชีย จำกัด ขอเรียนว่า ได้รับทราบกรณีที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ นายชาญณรงค์ จะมิได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่บริษัทจะติดตามดูแลนายชาญณรงค์อย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลักษณะดังกล่าว *** 

 คำบอกเล่าจากผู้ที่ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ จากปากของ “อ๊อฟ เอเอฟ 6”

“เกี่ยวกับอุปกรณ์ยาเสพยาเสพติดที่เจอในรถยนต์ของอ๊อฟ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นของใคร และมาอยู่ในรถได้ยังไง ส่วนทางต้นสังกัดไม่ได้แบน หรือไม่ให้งานอ๊อฟ แต่อ๊อฟได้ขอกับทางต้นสังกัดเองว่า ขอพักงานชั่วคราว เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชีวิตไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ และที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเพราะงง ทำอะไรไม่ถูก จากนี้อ๊อฟขอทำใจโดยการดูแลของครอบครัว และเมื่อสบายใจขึ้นจะกลับมาทำงานต่อไป ซึ่งผู้ใหญ่ทางต้นสังกัดก็เข้าใจ เพราะอ๊อฟไม่ได้ทำอะไรผิด แต่จะดูแลให้เข้มงวดและใกล้ชิดขึ้น” 

และยังมีการเล่าปิดท้ายว่า อาจจะเป็นเพราะอ๊อฟเข้าสู่วัยเบญจเพสจึงต้องมาเจอกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ก็ได้