"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ฟอร์มยังร้อนแรง เปิดรังไล่ต้อน มาลาก้า ไปแบบสบายเท้า 4-1 ดาบิด บีย่า ตะบันคนเดียวสองตุงช่วยเจ้าถิ่นเก็บสามแต้มรั้งจ่าฝูงต่อไป โดยมีคะแนนทิ้งห่างทีม เรอัล มาดริด ที่บุกไปไล่ตีเสมอ อัลเมเรีย แบบหืดจับ 1-1 อยู่ 4 แต้ม ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554

บาร์เซโลน่า 4 - 1 มาลาก้า

สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, บาร์เซโลน่า

      "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มได้กร้าวแกร่งเหลือเกินไม่แพ้ใครมายาวนานถึง 27 นัดติดต่อกันแล้ว (จากทุกรายการ) หากนับเฉพาะในบอลลีกก็ปาเข้าไป 16 นัดติดแล้วที่ไร้พ่าย โดยเกมนี้ได้ตัว บิคตอร์ บัลเดส นายทวารมือหนึ่งกลับมาเฝ้าเสา ส่วน เอริก อบิดัล ดาวเตะชาวฝรั่งเศส กลับมาเล่นแบ็คซ้าย

     สามประสานแดนหน้าจัดจ้านเหลือเกิน ลีโอเนล เมสซี่ ที่เพิ่งซัดแฮททริคในบอลถ้วยนัดถล่ม เบติส และ ทำไปแล้ว 18 ประตูในลา ลีกา ผนึกกำลังร่วมกับ ดาบิด บีย่า และ เปโดร โรดริเกซ 
 
     ทางด้าน "โบเกโรเนส" มาลาก้า ส่ง "ไอ้ยักษ์" ชูลิโอ บาปติสต้า ดาวเตะชาวบราซิล ที่ย้ายมาจากโรม่า ลงประเดิมสนามทำเกมรุกร่วมกับ เปาโล ดูด้า โดยมี ควินซี่ โอวูซู-อเบยี่ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

     เปิดเกมขึ้นมาได้แค่ 8 นาที บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายชิงขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ดาเนี่ยล อัลเวส เปิดบอลจากขวามาหน้าเส้นเขตโทษให้กับ อันเดรส อิเนียสต้า วิ่งเข้ายิงด้วยขวาบอลพุ่งชนเสาซ้ายเข้าประตูไปให้ เจ้าบุญทุ่ม นำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว

     เกมรุกของบาร์ซ่า ดุดันเหลือเกินมีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 15 เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ เปิดบอลให้กับ เปโดร โรดริเกซ ยิงโค้งด้วยซ้าย แต่ เซร์คิโอ อเซนโฆ นายทวารมาลาก้า ป้องกันไว้ได้

     ถัดมาสองนาที บาร์ซ่า น่าได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า ให้บอลไปกับ ชาบี เอร์นานเดซ ยิงลักไก่ด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลย้อยไปคานกระดอนออกมาโดนหัวของ เซร์คิโอ อเซนโฆ นายทวารมาลาก้า แต่ไม่เข้าประตู ก่อนช่วยกันเคลียร์ทิ้งออกมาได้

     อย่างไรก็ตาม เจ้าบุญทุ่ม มาได้ประตูที่สองจนได้ในนาทีที่ 18 เมื่อ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ เสียบแย่งบอลมาได้บอลมาถึง ดาบิด บีย่า แตะสั้นๆให้กับ เมสซี่ เปิดขึ้นหน้าให้กับ บีย่า หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายลอดขาของเซร์คิโอ อเซนโฆ นายทวารมาลาก้า เข้าประตูไปให้ บาร์ซ่า นำห่าง 2-0 อย่างรวดเร็ว

     กระเถิบมาถึงนาทีที่ 27 บาร์ซ่า จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา ดาเนี่ยล อัลเวส แบ็คขวาจอมบุกทีมชาติบราซิล ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาพักแล้วส่ง อาเดรียโน่ คอร์เรอา ลงมาเล่นแทน

     นาทีเดียวกันนั้นทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากลูกฟรีคิกทางกราบซ้าย เปาโล ดูด้า เปิดเข้ามาที่กลางประตู มาร์ติน เดมิเคลิส ขึ้นไปโขกบอลโดนไม่เต็มจึงข้ามคานออกไป

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 36 เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สาม เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ เปิดเข้าช่องให้กับ อิเนียสต้า หลุดเข้าไปซัดติด อเซนโฆ บอลทะลักออกมาให้ เปโดร โรดริเกซ ซ้ำด้วยขวาง่ายๆ เข้าไปให้บาร์ซ่า นำขาด 3-0

     ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 4 นาที ดาบิด บีย่า ของเจ้าถิ่นได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง ชาบี เอร์นานเดซ ปล่อยบอลให้ ลีโอเนล เมสซี่ ได้ดวลตัวๆกับ เซร์คิโอ อเซนโฆ แต่ยิงไปติดนายทวารมาลาก้า ออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ หมดครึ่งแรก บาร์ซ่า นำสบาย 3-0

     มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง มาลาก้า มาได้ลุ้นประตูในนาทีที่ 65 จากจังหวะที่ โฮเซ่ รอนดอน กองหน้าตัวสำรองหลุดเดี่ยวแล้วยิงด้วยขวาไม่ผ่าน บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ที่เซฟไว้ได้

     อย่างไรก็ตาม มาลาก้า มาได้ประตูไล่มาเป็น 1-3 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ไปดึง ชูลิโอ บาปติสต้า ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิกของทีมเยือนบริเวณกลางประตูพอดี ก่อนที่ เปาโล ดูด้า จะปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงามในนาทีที่ 68

     เขยิบมานาทีที่ 73 บาร์ซ่า มาได้ประตูที่สี่หนีห่างออกไปอีก จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ ไหลบอลขึ้นหน้าให้กับ ดาบิด บีย่า หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปคลึงบอลหนี เซร์คิโอ อเซนโฆ นายทวารมาลาก้า ก่อนจะยิงด้วยซ้ายเข้าไปง่ายๆให้ เจ้าบุญทุ่ม นำขาด 4-1

     เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านไล่ถล่ม มาลาก้า ไปหายห่วง 4-1 เก็บสามแต้มเต็ม นำเป็นจ่าฝูงลา ลีกา ต่อไป พร้อมทิ้ง เรอัล มาดริด ไปเป็น 4 คะแนนแล้ว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

     บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม), เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า

     สำรอง: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - กาเบรียล มิลิโต้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, แม็กซ์เวลล์, อิบราฮิม อเฟลลาย, โบยาน เกร์กิช, เจฟเฟรน ซัวเรซ

     มาลาก้า: เซร์คิโอ อเซนโฆ - มาโนโล่ กาสปาร์, มาร์ติน เดมิเคลิส, เวลิกตัน ร็อบสัน, พาทริค เอ็มติลิก้า - เอ็นโซ มาเรสก้า, อันโตนิโอ อปอนโญ่, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ - ชูลิโอ บาปติสต้า, เปาโล ดูด้า - ควินซี่ โอวูซู-อเบยี่

     สำรอง: ฟรานเชสก์ อาร์เนา (ผู้รักษาประตู) - คริส สตัดส์การ์ด, เอลแดร์ โรซาริโอ, เอลิเซว เปเรยร่า, เซบาสเตียน เฟร์นานเดซ, โฮเซ่ รอนดอน, เฟร์นานโด เฟร์นานเดซ

     ผู้ตัดสิน: โฆเซ่ หลุยส์ กอนซาเลซ

อัลเมเรีย 1- 1 เรอัล มาดริด

สนาม : เอสตาดิโอ เมดิเตร์ราเนโอ

     "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด มาเยือนอัลเมเรีย ด้วยการดร็อป คาริม เบนเซม่า กองหน้าปืนฝืดไว้ที่ข้างสนาม และส่ง ริคาร์โด้ กาก้า เป็นตัวจริงนัดแรก พร้อมขยับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเป็นกองหน้าตัวเป้า

     นาที 17 ราชันได้ลุ้นก่อน โรนัลโด้ ได้บอลจากซ้าย เลี้ยงตัดเข้าใน ก่อนผ่านบอลมาให้กาก้า ที่อยู่ตรงกลาง กองหลังเจ้าถิ่นสกัดได้ บอลกลับเข้าทางโรนัลโด้อีกครั้ง ก่อนสตาร์ฝอยทองสับไกด้วยขวา อัลเวสล้มตัวรับได้สบาย

     อีกนาทีถัดมา อัลเมเรียได้ลุ้น อูเช่เลี้ยงจากขวาตัดเข้าใน ก่อนตะบันด้วยซ้าย ไม่ผ่านมือกาซียาส

     นาที 30 ราชันได้ลูกเตะมุม โอซิล เปิดด้วยซ้ายไปเสาสอง รามอสขึ้นโหม่ง แต่บอลหลุดกรอบออกหลัง อีก 3 นาที อลอนโซ่ผ่านบอลให้โรนัลโด้ ที่หันหลังให้ประตู ก่อนดาวยิงค่าตัวแพงกลับตัวยิงด้วยซ้าย บอลเข้าซองอัลเวสเหมือนเดิม

     ราชันบุกหนัก นาที 41 กาก้า เปิดบอลจากซ้าย เข้าเขตโทษให้โรนัลโด้ ที่สลัดกองหลังเจ้าถิ่นได้แล้ว ก่อนตวัดยิงตามน้ำ แต่ติดขาอัลเวสกระดอนออกมา

     จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

     กลับมาเล่นครึ่งหลังต่อ นาที 53 ราชันต่อบอลกันสวย กาก้าจ่ายคืนหลังให้ อลอนโซ่ ตะบันหน้าเขตโทษ แต่อัลเวสยังเซฟได้ นาทีถัดมา มูรินโญ่ อยู่นิ่งไม่ได้ ส่งเบนเซม่า ลงมาล่าตาข่ายแทนกาก้าทันที

     แต่แล้ว นาที 60 อัลเมเรียพลิกนำอย่างเหลือเชื่อ ปาโบล ปิอัตติ เลี้ยงตะลุยจากฝั่งซ้ายตัดเข้ากลาง ก่อนโดนรามอสดักชนล้มในเขตโทษ บอลมาเข้าทางอัลลัวตวัดยิงด้วยซ้าย ผ่านมือกาซียาสตุงตาข่าย เจ้าถิ่นนำ 1-0 ท่ามกลางความช็อกของเรอัล

     โดนไปก่อนอย่างนี้ ราชันบุกแหลก อีก 3 นาที อลอนโซ่ผ่านบอลให้โรนัลโด้ หลุดเข้าไปยิง แต่ยังติดเซฟอัลเวสเช่นเดิม

     นาที 71 ดิ มาเรีย เปิดบอลโด่งมาให้รามอสขึ้นโขก อัลเวสเซฟได้ตามเคย

     ราชันมาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะเล่นเร็ว เบนเซม่าได้บอลตรงกลางประตู และดึงกองหลังเจ้าถิ่นมาได้ 2 คน ก่อนจ่ายออกขวาให้ เอสเตบาน กราเนโด้ ตัวสำรอง วิ่งมาตะบันเต็มข้อด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบเสาเหลี่ยมสวยงาม

     ช่วงทดเจ็บ มาดริดน่าได้ประตูชัยสุดๆ เมื่อได้ฟรีคิกระยะหวังผล โรนัลโด้กระหน่ำตามสไตล์ บอลพุ่งผ่านกำแพงชนคานดังสนั่น และกระดอนออกมา จบเกม ชุดขาวจึงทำได้แค่เสมออัลเมเรีย 1-1 ชวดทำแต้มจี้บาร์เซโลน่า จ่าฝูงอย่างน่าเสียดาย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

     อัลเมเรีย : ดีเอโก้ อัลเบส, มิเชล, การ์ลอส การ์เซีย, มาร์เซโล่ ซิลบา, ฆวน มานูเอล ออร์ติซ, โมเดสต์ เอ็มบามี่, เอร์นาน แบร์นาร์เดโย่, อัลเบิร์ต กรูซาต, คาลู อูเช่, ปาโบล ปิอัตติ, เลโอนาร์โด้ อัลลัว
     สำรอง : ซูอาเรซ เอสเตบาน, มิเกล อังเกล กอโรน่า, โฆเซ่ ออร์ติซ, ไมเคิ่ล จาค็อบเซ่น, ฟาเบียน บาร์กาส, เอร์นาน ดาริโอ เปเยราโน่, เอ็น็อค กอยตอม

     เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, ราอูล อัลบิโอน, มาร์เซโล่, ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคห์ดิร่า, ริคาร์โด้ กาก้า, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

     สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, คาริม เบนเซม่า, เฟร์นานโด กาโก้, เปโดร เลออน, เอสเตบาน กราเนโร่, เซร์คิโอ กานาเลส

     ผู้ตัดสิน : ลาซ่า เปเรซ

ผลการแข่งขันลาลีกา สเปน
- บาเลนเซีย ชนะ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า  2-0
- อัลเมเรีย เสมอ เรอัล มาดริด  1-1
- บาร์เซโลน่า ชนะ มาลาก้า 4-1