พจน์ อานนท์ โยนหินเสนอเงิน 5 หมื่น-หนังให้ ''แอนนี่-ทีฆายุ'' เล่น หวังยุติคดีฟ้องร้อง ด้านดาราแม่ลูกอ่อน เซย์โนลั่นเรื่องราวยังไม่จบ เตรียมไกล่เกลี่ยหาข้อยุตินัดสอง ในวันที่ 22 ก.พ. 2554 บ่ายโมง ที่ศาลธัญบุรี

 

กลายเป็นประเด็นที่ยังต้องตามดูกันต่อ สำหรับในส่วนของคดีความฟ้องร้องระหว่าง ทางดาราแม่ลูกอ่อน ผู้อื้อฉาว ''แอนนี่ บรู๊ค'' กับทางผู้กำกับฯ ปากจัด ''พจน์ อานนท์'' หลังศาลนัดไกล่เกลี่ยนัดแรก เมื่อช่วง 13.00 น. ที่ศาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี

 

โดยการไต่สวน และไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายกินเวลานานร่วม 4 ชั่วโมงเต็ม แต่กระนั้นก็ยังไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว เพราะทั้งสองฝ่ายต่างยื่นข้อเสนอให้แก่กัน แต่ยังตกลงกันไม่สำเร็จ ทำให้ต้องมาไกล่เกลี่ยอีกนัด ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ศาลธัญบุรี เวลาบ่ายโมงอีกครั้ง

 

เรื่องนี้ทางฝั่งของ พจน์ อานนท์ ซึ่งไม่ขอให้สัมภาษณ์ จึงส่งทาง ลีน่า จัง เป็นตัวแทน เปิดเผยข้อมูลการไกล่เกลี่ยให้ฟังคร่าวๆ ว่า การคุยกันเป็นไปอย่างราบรื่น และส่อเค้าว่าจะเจรจากันได้อย่างไม่น่ามีปัญหาใดใด

 

อีกทั้งเตรียมพูดคุยกับทางฝั่งอาร์เอส และทางฟิล์มถอนฟ้องกับทางแอนนี่ หากทางแอนนี่ พร้อมจะถอนฟ้องเช่นเดียวกัน และพร้อมมอบเงินจำนวน 5 หมื่นบาทเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูลูกชายทีฆายุ ขณะเดียวกันทางพจน์ อานนท์ เตรียมอุ้ม 2 แม่ลูกเล่นหนังในบทที่เหมาะสมในโอกาสต่อไปด้วย ก่อนที่จะเดินทางกลับ

 

จากนั้นทาง ''แอนนี่ บรู๊ค'' พร้อมทนายความ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนอย่างละเอียด พร้อมกับยืนกรานว่ากับข้อเสนอของฝ่ายผู้กำกับฯ คนดังนั้น ยังไม่มีการตกลงปลงใจแต่อย่างใด และต้องมาตามที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยนัดสองอีกครั้ง

 

ผลการไกล่เกลี่ยเป็นยังไงบ้าง?

''ก็ต้องเลื่อนไปอีกนัดนึงค่ะ ต้องเจอกันนัดหน้าวันที่ 22 ก.พ. 2554''

 

ทางเรายื่นข้อเสนออะไรไปบ้าง?

''ก็พอมีบ้าง แต่จำไม่ได้'' ก่อนที่ทางทนายจะช่วยเพิ่มเติมว่า ''ข้อมูลบางส่วนยังเปิดเผยไม่ได้''

 

ส่วนตัวพอใจกับการไกล่เกลี่ยวันนี้มากน้อยขนาดไหน?

''วันนี้ยังไม่มีผลสรุปค่ะ มันยังสรุปไม่ได้เลยต้องเลื่อนเป็นนัดหน้า''

 

แล้วที่ทางนั้นบอกว่าจะมอบเงินให้จำนวนนึง พร้อมกับให้เล่นหนังของพี่พจน์ เราโอเคมั้ย กับข้อเสนอตรงนี้?

ทนายตอบแทนว่า ''จริงๆ ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดช่วงแค่วันเดียว ทำให้ต้องมีการคุยกันเพื่อให้ตกลงกับความเสียหายที่เกิดขึ้น''

 

เราจะยังไงต่อกับข้อเสนอที่อยากให้เค้าออกมาขอโทษผ่านสื่อ?

ทนาย ตอบแทนอีกว่า ''อันนั้นก็ต้องมาคุยกันอีกนัดนึง''

 

แล้วแอนนี่ว่ายังไงบ้าง?

''แอนนี่ไม่อยากจะมัดมือชกว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ใจเรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากจะได้อะไรบ้าง ก็จะคล้ายๆ กับคดีโน้น ความเสียหายมีอะไรบ้าง และเราต้องการฟ้องเพื่ออะไร''

 

ถ้าทางพี่พจน์ไปไกล่เกลี่ยให้ทางอาร์เอสถอนฟ้องได้จริง เราจะยอมมั้ย?

ทนายความ ชิงตอบแทนว่า ''อันนั้นเป็นข้อเสนอที่เราจะต้องกลับเอาไปพิจารณา เพราะมันเป็นการคุยกัน''

 

มีข้อเสนออะไร ที่พอจะเปิดเผยได้?

''จริงๆ มันเป็นการคุยกันทั้งสองฝ่าย ใช่ว่าแอนนี่จะไปเสนอจะเอาแบบนี้ พี่พจน์จะเอาแบบนั้น แต่เหมือนเป็นการคุยกันมากกว่าว่าแบบนั้นดีมั้ย แบบนี้ดีมั้ย''

 

แล้วที่จะให้ทางนั้นเค้าลงขอโทษลงนสพ.เป็นความตั้งใจของเราด้วยรึเปล่า?

''มันเป็นไปตามข้อกฎหมายท้ายฟ้องอยู่แล้วค่ะ มันเป็นเรื่องปกติทั่วไปในคดีหมิ่นประมาทอยู่แล้ว''

 

ส่วนเรื่องหนังกับเงิน 5 หมื่นเราพอใจมั้ย?

แอนนี่หัวเราะร่วนแทนคำตอบ

 

การไกล่เกลี่ยในวันนี้เป็นไปด้วยดีรึเปล่า พอใจมั้ย?

''ก็...อย่างที่แอนนี่บอก มันยังหาข้อสรุปไม่ได้ ก็เลยต้องคุยกันอีกครั้ง เดี๋ยวลองดูว่าจะเป็นยังไง ต้องคุยกันครั้งหน้า และในระหว่างที่เรารอคุยครั้งหน้า เราก็รอดูว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ย มันจะมีการดำเนินการอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า คือศาลท่านเว้นระยะเวลาให้เดือนนึง เค้ารอให้มีอะไรดีๆ เกิดขึ้น เพื่อที่ครั้งหน้าจะไม่ต้องเจอกันอีก''

 

บรรยากาศในห้องพูดคุยกันเป็นยังไงบ้าง?
แอนนี่ หัวเราะเบาเบา ก่อนแจงว่า ''ค่ะ ก็ดี ก็คุยกันดี''

 

กับตัวพี่พจน์ได้คุยกันยังไงบ้าง?

''ก็ บอกความในใจไปค่อนข้างมากเลยแหละ อยากให้แกรับรู้หลายๆ อย่างกับความรู้สึกของเรา แต่แกก็รับรู้อะค่ะ''

 

ถือเป็นการมาเจอกันครั้งแรกหลังจากที่ตกเป็นข่าวมายาวนาน?

''ใช่ค่ะ ใช่''

 

เค้าตอบสนองกลับมายังไงบ้าง?

''ก็ไม่ได้ยังไง คือก็บอกความในใจกับพี่พจน์ และพี่พจน์ก็บอกความในใจกับแอนนี่มาเหมือนกันว่าแกรู้สึกยังไง แกคิดยังไง''

 

อยากให้เรื่องมันจบยังไง?

''แอนนี่ก็อยากให้เรื่องมันจบลงด้วยดีอยู่แล้ว แต่มันจะเป็นยังไงต่อไป อย่างที่บอกต้องดูการกระทำ สำคัญกว่าคำพูด ก็ต้องดูการกระทำอีกหลายๆ อย่าง''

 

คิดว่ามันจะจบลงที่ครั้งที่สองมั้ย?

''อืมมม...ต้องรอดู แอนนี่ก็ตอบเรื่องอนาคตไม่ได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ''

 

แล้วที่ทางฟิล์มกับเฮียฟ้องเราล่ะ?

''อันนั้นก็ต้องต่อสู้กันต่อไปค่ะ เพราะถ้าเค้าฟ้องมาเราก็ต้องสู้ ถ้าศาลนัดไกล่เกลี่ยก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศาล''

 

ถ้าทางนั้นอยากไกล่เกลี่ย ก็คุยกันได้?

''มันเป็นนโยบายอยู่แล้วอะค่ะ''

 

นัดหน้าของทั้ง 2 คดีเกิดขึ้นเมื่อไหร่?

''วันที่ 21 ก.พ. เป็นในส่วนของเฮียฮ้อที่ต้องนัดพร้อมสอบคำให้การ ที่ศาลธัญบุรี เวลา 13.00 น. และวันที่ 22 ก.พ. เป็นการไกล่เกลี่ยนัด 2 กับพี่พจน์ เวลาเดียวกัน แล้วก็ 22 ม.ค. นี้เป็นนัดแรกของการไต่ส่วนมูลฟ้องของที่ฟิล์มฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท เวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ''
 

ชีวิตช่วงนี้เอารายได้จากตรงไหนมาจุนเจือครอบครัว?

''ก็กินเงินเก่า ประหยัดให้มากที่สุด ที่ผ่านมาก็อย่างที่บอกว่าความเสียหายก็อย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ คืออย่างที่เห็นไม่ได้มีงานเลย เราก็ยังอยู่บ้านเลี้ยงลูก''

 

ตอนนี้น้องเป็นยังไงบ้าง?

''น้องเริ่มพูดแล้วค่ะ เริ่มพูดหม่ำ คำว่าจ๋า จ๋า ค่ะ ก็น่ารักดี เริ่มนั่งแล้วอะค่ะ วันนี้ครบ 7 เดือนแล้วค่ะ (ยิ้ม)''

 

ถามเรื่องพ็อกเกตบุกที่ฟิล์มเขียนอธิบายส่วนหนึ่งว่าไม่ใช่ลูกเค้า?

''ก็....ก็ถ้าเค้ารู้สึกยังงั้นก็ต้องปล่อยให้รู้สึกไป เพราะเราห้ามความรู้สึกใครไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคิดแบบนั้นก็ต้องเป็นแบบนั้น เพราะเค้าฟ้องมาว่าไม่ใช่ เค้าก็ต้องเขียนหนังสือแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวมันจะตรงข้ามกับคำฟ้องรึเปล่า(หัวเราะ) ก็ไม่ได้คิดอะไร''

 

ทางคุณแม่ฟิล์มได้ช่วยเหลือ ดูแลอะไรบ้างมั้ย?

''เค้าบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเค้าจะตัดความช่วยเหลือทั้งหมด ก็คือไม่มีจริงๆ เค้าก็รักษาสัญญาดี (หัวเราะ)''

 

อย่างข้อมูลในหนังสือที่เค้าเขียน เราเอาไปใช้เป็นข้อมูลในชั้นศาลบ้างมั้ย?

''อืมมม...ก็มีบ้างค่ะ ก็พอใช้ได้''

 

อย่างที่พี่ลีน่าบอกว่าถ้าแอนนี่เคลียร์เองอาจไม่มีปัญหา แต่นี่ตัวประกอบเยอะ มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยว?

''มันไม่เกี่ยวหรอกค่ะ เพราะที่แอนนี้ทำทุกอย่าง เพราะเราตัดสินใจเอง ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวแล้วบอกให้ทำอะไร เพราะทุกอย่างก็ตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งนั้นค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงท้ายที่สุดที่ตัดสินใจทำก็คือเรา'' แอนนี่ กล่าว