“สมรักษ์” เผย “หยาด” ต่อสัญญากับช่อง3 ตั้งแต่สิ้นปี แต่ที่ค้างเติ่งเซ็นต์ช้าเพราะส่งไปที่บ้าน บอก ยินดีต้อนรับ “ธัญญ่า” หากต้องการกลับมาร่วมงานอีกครั้ง ส่วนเรื่อง “พิ้งกี้” เจ้าตัวอ้าง ไม่รู้ว่าจะกลับมาหรือเปล่า แต่ยันไม่มีอคติกับนางเอกสาว พร้อมโว ตอนนี้โฆษณาช่องขายหมดเกลี้ยง จนต้องเพิ่มเวลาฉายละครวันละ 15 นาที เพื่อโกยค่าโฆษณาเข้าช่อง 
      
เป็นประเด็นให้ติดตามกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว สำหรับกรณีที่มีข่าวว่า นางเอกเด็กปั้นช่อง3 "หยาดทิพย์ ราชปาล" น้อยใจที่ช่องป้อนงานน้อย แถมยังถูกลดบทบาทให้มาเล่นละครเย็น จนเจ้าตัวเตรียมชิ่งไปอยูกับช่อง 7 ล่าสุด ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอตัวบอส "สมรักษ์ ณรงค์วิชัย" ผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการของทางช่อง 3 ในงาน เปิดวิกบิ๊ก3 เจ้าตัวก็เลยขอเคลียร์ยาว ทั้งกรณีที่ "พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช" กลับไปเล่นละครให้กันตนาบ้านเก่า ทั้งที่ติดสัญญาอยู่กับช่อง รวมไปถึงเรื่องของ "ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล" เข้าไปพูดคุยในช่วงที่เจ้าตัวกลับเมืองไทย จนมีกระแสข่าวตามมาว่า ธัญญ่าเข้าไปสกัดดาวรุ่งไม่ให้ป้อนงานพิ้งกี้ งานนี้บอสสมรักษ์ก็เลยได้ทีเคลียร์ทุกประเด็นแบบม้วนเดียวจบ
      
“หยาดเซ็นสัญญาตั้งนานแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าจะมีข่าวออกมาทำไม เพราะว่าเอกสารเขา แม่เขาเอาไปไว้ที่บ้าน เขาก็เอาไปเซ็นต์และก็ส่งให้เราก็แค่นี้ เขาเซ็นต์ตั้งนานแล้ว แต่ที่มีข่าวออกมาแบบนั้น ก็คิดว่าคงวางไว้อยู่ที่บ้าน และก็ไม่ได้เซ็นต์ ให้ไปตั้งแต่ก่อนสิ้นปีแล้ว จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก ถามว่ามีอะไรกันมั้ยไม่มีหรอก เราก็ผู้ใหญ่ แต่จะกี่ปีเราก็ต่อกันปกตินะ ไม่ต้องรู้รายละเอียดเยอะขนาดนี้ก็ได้”
      
รับ ช่วงปีใหม่ “ธัญญ่า” เข้ามาสวัสดี พร้อมอ้าแขนรับหากต้องการมาร่วมงานอีกครั้ง
      
“ธัญญ่าบินกลับมา เขาก็มาสวัสดีปีใหม่เป็นเรื่องปกติ เพราะว่าธัญญ่าเขาก็มาไหว้ปกติ คือดาราเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่จะมาเจอกันปีละครั้ง แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะมาเล่นละครอะไรให้เราอีก คือเขาแค่มาสวัสดีปีใหม่เฉยๆ ก็ถามกลับมาทำอะไร เขาก็กลับมาทำงานโฆษณา เราก็คุยกันแค่นั้นครับ เราไม่ได้คุยเรื่องงาน แต่ถ้าเขากลับมาก็ยินดี มันไม่ใช่ปัญหาเลย แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องงานเลยครับ”
      
ส่วนเรื่องของนางเอก “พิ้งกี้” บอสสมรักษ์ยัน ไม่มีอคติ แต่เรื่องงานถ้าในอนาคตร่วมงานกันได้ก็ทำ
      
“พิ้งกี้กลับมา ก็ยังไม่ทราบว่าเขาจะกลับมาเล่นละครกับเราอีกหรือเปล่า ถ้าถามว่าเขากลับไปที่กันตนา ตรงนี้เราไม่อยากพูดอะไรแล้ว ปล่อย ถ้าอะไรจะเกิดก็เกิดแล้วกัน ทางเราตอนนี้ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าเราไม่ได้อคติอะไรกับเขา เราก็เฉยๆ คือใครมีศักยภาพในการทำงาน และคิดว่าเป็นงานที่ทำให้เราทำให้ได้ เราก็ทำ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องข่าวไม่ได้มีปัญหา มันอยู่ที่เรื่องของงาน จังหวะและก็คิว แต่ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่เรื่องของคิว เพราะต้องเรียนว่าบางทีจัดคิวมา และจะมีปัญหา”
      
“ซึ่งธัญญ่าไม่ได้มีส่วนในเรื่องนี้(เรื่องที่พิ้งกี้ถอนตัวจากเงาพราย) คือมันเป็นความต้องการของเขาเอง ที่ต้องการถอนตัว และไม่ได้เป็นไปตามข่าวว่าธัญญ่ามาขอว่า ไม่ให้น้องเล่น คืออันนี้ต้องนับถือเขาเพราะว่าเขามาขอถอนตัวไปเอง เราไม่ได้บีบคั้นอะไรเขา แต่พอมีข่าวออกมาเขาก็มาขอถอนตัว ส่วนทางช่องจะกดดันหรือเปล่า ในเรื่องข่าวของเขา ก็ไม่มีอะไร เราก็แฟร์กันทั้งคู่ ถ้าถามว่าน้องพร้อม เราจะเปิดรับหรือเปล่า ก็เอาเป็นเรื่องของระยะเวลาแล้วกัน เรื่องอื่นไม่มีอะไร ไม่มีอคติอะไร ก็ดูว่าถ้าทำงานด้วยกันได้ ก็ทำแค่นั้นเอง”
      
พร้อมปัดไม่รู้ “แอน ทองประสม” กับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” จะนั่งแท่นเป็นผู้จัดคนใหม่
      
“แอน กับ หนุ่ม กรรชัย จะขึ้นเป็นผู้จัดเอง อันนี้ไม่รู้ครับ เพราะว่าเขายังไม่ได้มีการคุยกับผม ผมไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนี้เรากำลังเพิ่มผู้จัดอยู่ ตอนนี้ก็ได้บททำมาแล้ว แต่ว่ายังไม่ลงตัว ทำเรื่องแหม่มแก้มแดง ตอนนี้ก็กำลังดูว่ามีใครจะมาเล่น ก็ยังไม่เรียบร้อย เดี๋ยวรอให้ทุกอย่างลงตัวก่อน อะไรมันยังไม่เกิดขึ้น เดี๋ยวรอให้มันเกิดขึ้นก่อน”
      
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ผู้จัดละครของช่อง3 ทะเลาะกันเอง เรื่องแย่งตัวนักแสดง เจ้าตัวก็เคลียร์ยาวว่า....
“ส่วนเรื่องผู้จัดทะเลาะกันเองในเรื่องแย่งนักแสดง มันไม่ได้ทะเลาะกันหรอก มันไม่ได้ทะเลาะกัน เพราะว่าเรื่องคิว เราเป็นคนบริหารให้ และเราก็ว่าไปตามลำดับอยู่แล้ว ใครมีคิวมาก่อน มีไอเดียมาก่อน เราก็ให้ก่อน มันต้องเคารพตรงนั้น เพราะฉะนั้นไม่มีสิทธิ์ทะเลาะกันอยู่แล้ว เพราะว่า ถ้ามีคนเสนอโปรเจ็กต์เข้ามา เราก็ต้องมาดูว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าเกิดมันไม่ใช่ เราก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่ เรื่องไหนที่ใช่ เราก็บอกว่าเรื่องนี้ใช่ แล้วเราก็มาดูลำดับคิวหนึ่งสองเท่านั้นเอง ตามลำดับการคุยก่อนคุยหลัง”
      
“และอีกเรื่องหนึ่ง คือการเขียนบท ต่อให้มีโปรเจ็กต์เข้ามา แต่บทยังไม่มา ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นเอาที่เขามีบทมาก่อนดีกว่า มันไม่มีการทะเลาะกัน มันไม่มีการแย่งกัน ยังไงเราก็ต้องดูก่อน เพราะว่ายังไงเรื่องเขียนบทมันก็ยาก อย่างณเดชณ์ กับญาญ่า ก็ไม่ได้มีการแย่งกัน ถึงเขาจะฮอต ไม่ได้แย่งเลย อย่าใช้คำว่าแย่ง และข่าวบอกว่าป้อนงานสองคนนี้เยอะ ไม่ใช่นะ ไปดูคิวได้เลยว่ามีใครว่างบ้าง ตอนนี้ไม่มีคิวว่าง ไปนั่งไล่คิวดาราช่อง3 ได้เลยนะ”
      
“คือตอนนี้ไม่ได้คิดปั้นนางเอกพระเอกอย่างเดียว ตอนนี้เราเอาหมดทั้งตลก คอมเมดี้ทุกอย่าง เพราะว่าเราจะปั้นแค่นั้นไม่ได้ ถ้าจะเอา เราต้องเอาทั้งหมด ต้องเล่นเป็นในวัยเดียวกัน และผู้จัดก็ต้องช่วยเราด้วย ก็ถือว่ามันเป็นงานหนักของเขาเหมือนกัน และจริงๆ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ สั่งเลยนะ ว่าให้หาคู่พระเอกมาคนละคู่ แต่ถ้ามีนักแสดงที่มีบุคลิกเราก็เอาหมด ถ้ามาต้องเอาหมดทั้งรุ่น เพราะว่ามันต้องมาในเวลาเดียวกัน”
      
ทั้งนี้ เรื่องเรตติ้งละครที่มักจะถูกมองว่าด้อยกว่าช่อง7 คู่แข่ง แถมการสำรวจจากโพลต่างๆ ยังมีผลไม่ตรงกัน งานนี้ทำเอาวิก3 ถึงกับมาเหนือเมฆ จัดการทำรีเสิร์ชเองเพื่อวัดเรตติ้งใหม่ด้วยตัวเอง
       
“ตอนนี้เรามีตัววัด เพราะว่าบางทีงานอวร์อดบางอย่างผลออกมาก็ไม่เหมือนกัน เพราะว่าเราก็อ่านหนังสือดารามาเยอะ แต่จริงๆ โพลหนังสือต่างๆ ที่ออกมามันก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็เลยไปทำรีเสิร์ชเรื่องมงกุฎดอกส้ม ทำทุกตอนหลายครั้ง ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลหลายครั้งเราชนะด้วย แต่ว่าเรายังไม่ได้สรุป แต่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งแล้ว ว่าผมพอใจกับกระแสมากกว่าเรตติ้ง ผมพอใจกับภาพจำของคนดูมากกว่าเรตติ้ง เรตติ้งจะเท่าไหนก็แล้วแต่ แต่บางทีคนยังจำไม่ได้เลยว่าละครเป็นแบบไหน ตัวละครแบบไหน ละครที่ได้กระแสเกิดความประทับใจ ต่อให้เรตติ้งจะลงสุดๆ แต่คนก็ยังพูดถึง”
      
“อย่างแอน (แอน ทองประสม) เคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ที่หนังสือลงว่าเรตติ้งต่ำสุดๆ เขาสองคนเวลาเล่นด้วยกันไม่เคยต่ำกว่าเลข 2 ตัวเลข 11-12 มาตลอด ถ้าไม่อย่างนั้น ต่ำสุดก็คือ 10 ไม่เคยได้เลขตัวเดียวเลย มันเสียหายตรงไหน แต่ผมยอมรับว่าละครที่เกี่ยวกับครอบครัว ตอนนี้มันกลับมาเยอะมาก บางทีช่อง 3 ทำไม่ได้มีแค่การแย่งผัวแย่งเมีย พอหนังสือเขียนการตลาดเล่นงานผมนะ ผมก็เอ๊ะ เรามาผิดทางหรือเปล่า ทำผิดทางหรือเปล่า เราก็คิดไปมันต้องดูละครที่ยังไม่ได้แต่งงานเหรอ คือละครเราก็ดูทุกตอน และเคนแอนเขาก็ไม่ใจเสียหรอก เพราะว่าเขารู้ตัวว่าเขาทำอะไรกันอยู่”
      
“แต่ว่าตอนนี้เราต้องรอให้กฎหมายออกมาก่อน รอให้ลองรับก่อน เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดการฟ้องร้องได้ คือเราอยากได้อะไรที่ถูกต้องชัดเจนและก็ตรง เราไม่อยากให้เกิดเป็นคดีความ และเกิดเรื่องมาฟ้องร้องกัน เราก็ทำให้มันถูกต้อง”
      
บอสสมรักษ์โว ตอนนี้โฆษณาขายหมดแล้ว จนต้องเพิ่มเวลาออกอากาศของละครเพื่อจะได้โกยเงินจากโฆษณาเพิ่ม
      
“ถ้าถามเรื่องการขายโฆษณา ผู้ซื้อต้องดูก่อนเลยว่าใครเป็นผู้จัด ตอนนี้เราไม่มีขายให้เขาแล้วนะ เต็มหมด ต้องเพิ่มอย่างเดียว เพิ่มเวลาออกอากาศของละคร ก็เพื่อรับเงิน เพื่อขายโฆษณาเพิ่ม ตัวเลขการซื้อขายโฆษณามันมีของมันอยู่แล้ว เรื่องการเพิ่ม การแถม การลด มันก็มีเป็นเทคนิคการซื้อขาย แต่ละอย่างมันไม่เหมือนกัน มันอยู่ที่ว่าใครจะได้ส่วนลด ส่วนแถม ก็แล้วแต่ครับ แต่ไม่รู้ตัวเลขกำไรจริงๆ เพราะว่าเราไม่ได้เช็ค ไม่เคยรู้เรื่องตัวเลข ก็พยายามใช้อย่างประหยัด”
      
เจ้าตัวเผยทิ้งท้ายเป็นการข่มขวัญช่องคู่แข่งให้ร้อนๆ หนาวๆ ว่า ปีนี้มีละครฟอร์มยักษ์ เรื่อง “ขุนศึก” ที่ทำร่วมกับ "ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรี เฉลิม ยุคล" โดยมีพระ-นาง ตัวแม่ "เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" กับ "พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์" มาเป็นตัวดูดเรตติ้ง
      
"ปีนี้ก็มีอีกอย่าง ตั้งใจทำเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ ก็มีเรื่องขุนศึกทำกับท่านมุ้ย(ม.จ.ชาตรี เฉลิม ยุคล) ตอนนี้ก็กำลังรองานอยู่ ตอนนี้ก็พยายามที่จะคุยกับท่านอยู่ และท่านก็รับปากเรามาแล้ว ก็ได้คิวพลอย(เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์) กับ เคน(ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) มาแล้ว ให้สองคนนี้มาเล่นในเรื่องนี้"
      
"ละครในปีหน้าเรามีอยู่ 40 กว่าเรื่องอยู่แล้ว แต่ไม่พอครับ ไม่พอในจำนวนการออกอากาศ จริงๆ ตอนนี้เราเพิ่มเนื้อจันทร์-อังคาร กับ เสาร์-อาทิตย์ และเราขอแก้ข่าวตรงนี้เลยว่า เราไม่เคยตัดเนื้อละครให้จบเร็วเลย ทุกอย่างฉายไปตามนั้นเลย มีแต่จะเพิ่มเวลามากกว่า ก็อย่างที่บอกไป ว่าเราต้องเพิ่มเวลาเพื่อการขายโฆษณา ต่อไปก็ต้องดูกันอีก แต่คิดว่าน่าจะเพิ่มทุกวัน วันละอีกประมาณ 15 นาที"