แหม...ไม่ได้ “คุยกันฯ” ในโลกออนไลน์ซะนานโทษฐานที่มีอะไรหลายอย่างให้โทษ กลับมาอีกที ลิเวอร์พูลยุคเรอแนสซ้องซ์ (พยายามจะเป็น) เริ่มควานหาชัยชนะเจอแล้ว

และกลับมาอีกทีก็มีเรื่องที่ติดพันมาจาก “คุยกันฯ” ในสตาร์ ซอคเก้อร์ รายวัน ว่าด้วยเมกกะโปรเจกต์ที่อาเซียนจะเสนอตัวขอจัดฟุตบอลโลก 2030 ร่วมกัน
 
อ่า...แค่คิดก็มันซะแระค่ะ! จัดฟุตบอลโลกในนามอาเซียน ซึ่งมีตั้ง 10 ชาติรวมกัน แถมแต่ละชาติยังรักกันซะเต็มประดา เอาแค่ชาติเรากับเพื่อนบ้านขวา-ซ้าย ไหนจะอินโดนีเซียกับมาเลเซีย นี่ถ้าสิงคโปร์ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและปราศจากคอร์รัปชั่นเขาสามารถชุบแป้งทอดตัวเองให้ใหญ่ขึ้นซัก 10 เท่าได้ ผมจะสนับสนุนให้สิงคโปร์เสนอตัวแบบเดี่ยวๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
 
ว่าแล้วก็อยากจะถามใจคุณๆ ก่อนเลยว่า “คุณเห็นด้วยกับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก 2030 ของอาเซียนหรือไม่?” 
 
เห็นด้วย กด 1 
 
ไม่เห็นด้วย กด 2 
 
ยังไม่รู้ว่ากูจะเห็นด้วยดีหรือมิเห็นด้วยดี กด 3 
 
สำหรับคนที่ “เห็นด้วย” อาจจะนึกด่าคนเขียนในใจ มึงเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย เอะอะก็จะค้านยัน แต่คราวนี้ยิ่งมีเหตุผลสำหรับการคัดค้าน
 
ลำพังแค่เจ้าภาพร่วม 2 ชาติ ฟีฟ่าเขายังรับแฟ้มเอกสารไปแบบพะอืดพะอม นี่จะเสนอตัวยกภูมิภาค แถมหลายๆ ชาติก็มีปัญหาสอดไส้คาราเมลอยู่ในตัวเอง หรือไม่ก็ปีนเกลียวกับชาติข้างบ้าน งานมันจะเดินไปในทิศทางเดียวกันและพร้อมๆ กันหรือ
 
นี่ยังไม่คิดไปถึงขั้นว่าแล้วทีมเจ้าภาพ (ร่วม) ที่จะได้เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติจะมีกี่ทีมกันล่ะเนี่ย แล้วเกิดใครอุตริเสนอให้มี “ทีมฟุตบอลอาเซียน” สำหรับฟุตบอลโลก 2030 ก็จะยิ่งหนุกหนานไปกันใหญ่
 
คิดๆ แล้วก็ไม่เข้าใจ ทำไมผู้หลักผู้ใหญ่ถึงหมกมุ่นกับเรื่องฟุตบอลโลกมากเหลือเกิน ทั้งเรื่องทีมชาติไทยจะไปบอลโลก และเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ทีปัญหาบ้านเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่มันคุกคามชีวิตและสวัสดิภาพของชาวบ้านชาวช่อง ไม่เห็นจะหมกมุ่นเท่าเรื่องนี้
 
เข้าใจว่าคงจะมีคนนอนตายตาหลับถ้าทีมชาติไทยได้จัดฟุตบอลโลก หรือประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะเป็นแบบร่วมหรือไม่ร่วมก็ตามที แต่สำหรับผม อยากเห็นทีมชาติไทยเป็นแชมป์เอเชียให้ได้ซักครั้ง หรือคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ให้ได้ซักครั้ง ยังจะสร้างความปลาบปลื้มได้มากกว่า
 
อินเดียกับพม่าเขายังเคยได้เหรียญทองฟุตบอลเอเชียนเกมส์ อิรักกับคูเวตยังเคยเป็นแชมป์เอเชียน คัพ ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่ส่งเสริมกีฬาสู่ความเป็นเลิศด้วยการเคี่ยวเข็ญทีมฟุตบอลของชาติก่อน
 
เอาเถอะ...บรรดาผู้มองโลกในแง่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเมืองกับนักธุรกิจ ย่อมมองว่าการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกคือโอกาสในการทำมาหาแด๊กส์ และมีคุณอนันต์ต่อแดนดินถิ่นขวานทอง แม้ปลายด้ามขวานยังคงมีควันปืน ควันระเบิด ลอยขึ้นมาอยู่เนืองๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นจะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงให้เมื่อยทำไม จับพลัดจับผลูบุญหล่นทับอาเซียนได้จัดฟุตบอลโลก 2030 จริงๆ ก็ถือซะว่าตัวเองจะได้สบายตอนแก่ ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปดูฟุตบอลโลก
 
ไหนๆ ก็ตั้งท่า “ว่าจะบิดๆ” มาหลายครั้ง จะ “ตายเดี่ยว” หรือ “ตายหมู่” ก็ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป จะได้หายซ่ากันไปอีกนาน
 
ต่อต้านไม่ได้ก็ต้องเข้าร่วมดื้อๆ อย่างนี้แหละ!