"นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" ปูด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่อปรับขึ้นราคาบัตรเข้าชมการแข่งขันอีก 5 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อหาเงินจำนวน 10,560 ล้านบาท มาลดยอดหนี้สินให้ลงมาเหลืออยู่ที่ 24,480 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้แฟนบอลต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีกคนละราว 3,840 บาท เพื่อครอบครองตั๋วปีของทีม

       ตระกูล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมพิจารณาขึ้นราคาตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันในสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีก 5 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาได้ปรับราคาบัตรเพิ่มไปแล้วถึง 67 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เข้ามาครอบครองกิจการของทีมเมื่อปี 2005 ก็ตาม

       สำหรับ "ปีศาจแดง" สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยในเมืองผู้ดี จนมีคนว่างงานถึง 2.5 ล้านคน ด้วยการเป็นสโมสรเดียวในศึกพรีเมียร์ลีก ที่ตัดสินใจปรับขึ้นราคาตั๋วเข้าชมการแข่งขันเกมเหย้าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนนำมาสู่การประท้วงของแฟนบอลอย่างกว้างขวาง และหากการขึ้นค่าตั๋วในครั้งต่อไปเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้กองเชียร์ต้องควักกระเป๋าเพิ่มขึ้นถึง 80 ปอนด์ (ประมาณ 3,840 บาท) เพื่อหาซื้อตั๋วรายปีซึ่งมีราคาเฉลี่ยเดิมอยู่ที่ 722 ปอนด์ (ประมาณ 34,656 บาท) ด้วยกัน

       ปัจจุบัน "เร้ด เดวิลส์" มีภาระที่จะต้องชำระหนี้เงินกู้สูงถึง 220 ล้านปอนด์ (ประมาณ 10,560 ล้านบาท) เพื่อที่จะลดจำนวนหนี้สินให้มาอยู่ในระดับที่จะสามารถรับมือได้ที่ 510 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,480 ล้านบาท) แม้ว่าอัตราการถือครองตั๋วรายปีของทีมจะลดลงเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นราคาในครั้งหลังสุด ส่วนการปรับราคาในครั้งต่อไปคาดว่าจะมีการตัดสินใจกันภายในเดือน เม.ย.นี้