จามเปาโล ปาซซินี่ ซัดคนเดียว2เม็ดพา"งูใหญ่"แซงกลับมาเชือดปาแลร์โม่สุดมันส์ 3-2 ด้านนาโปลีฟอร์มฮอตถล่มซามพ์โดเรีย 4-0 ส่วน "ม้าลาย" ยูเวนตุส นำก่อนแต่แผ่วปลายถูกอูดิเนเซ่ แซงชนะ 1-2 ในศึกกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา

ฟุตบอลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554

อินเตอร์ มิลาน 3 - 2 ปาแลร์โม่

สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า

     อินเตอร์ มิลาน ที่กำลังต้องการแต้มเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัวอีกครั้ง เปิดบ้านรับมือ ปาแลร์โม่ ที่วันนี้ส่ง ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ เป็นหอกตัวเป้า ส่วนเจ้าถิ่นวาง ดีเอโก้ มิลิโต้ จับคู่กับ ซามูเอล เอโต้ ในแดนหน้า

     น.5 เริ่มเกมมาไม่ทันไร ปาแลร์โม่ ก็ช็อคแฟนเจ้าถิ่นก่อนทันทีเมื่อ โยซิป อิลิซิช แทงทะลุช่องขวาให้ มัตเตีย คาสซานี่ หลุดขึ้นไปก่อนปาดไปที่เสาสอง ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ ชาร์จเข้าไปง่ายๆ เป็นประตู 1-0

     น.16 หลังเสียประตูงูใหญ่ก็บุกแหลกและมามีลุ้นจากจังหวะที่ ไมค่อน เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปให้ ลูซิโอ โหม่งกดลงพื้น แต่ลูกนี้ ลวาตอเร่ ซิริกู รับเอาไว้ได้

     น.36 แต่กลายเป็นทีมเยือนที่มาขยับหนีเป็น 2-0 เมื่อ มัตเตีย คาสซานี่ พาบอลขึ้นมาถึงสุดเส้นด้านขวา ก่อนเปิดไปหน้าประตู ชูลิโอ เซซาร์ ปัดไว้ได้ อันโตนิโอ โนเชริโน่ ตามไปเก็บบอลมาก่อนล็อกหลบ ไมค่อน แล้วสับด้วยซ้ายเสียบเสาแรกเข้าไป

     น.45 ปาแลร์โม่เกือบได้เพิ่มอีกลูกเมื่อ มิคโคลี่ เปิดบอลออกขวาให้ ปาสตอเร่ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ชูลิโอ เซซาร์ แต่เพลย์เมกเกอร์อาร์เจนไตน์ซัดไปชนเสาแรกอย่างจัง หมดครึ่งแรกทีมเยือนพลิกนำ 2-0

     น.55 เข้าสู่ครึ่งหลัง อินเตอร์ น่าจะได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ กระดกบอลให้ ดีเอโก้ มิลิโต้ หลุดขึ้นมาทางซ้าย แต่ลูกนี้ยังยิงไปติดเซฟ ซิริกู

     น.61 ในที่สุด เจ้าบ้านก็มาตีไข่แตกเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากการประสานงานของสองนักเตะใหม่ ฮูสซีน คาร์ช่า จ่ายบอลเข้าเขตโทษมาให้ จามเปาโล ปาซซินี่ พิงก่อนกลับตัวยิงตุงตาข่ายไล่มา 1-2

     น.73 กลายเป็นงูใหญ่ที่ตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ ไมค่อน โยนลูกฟรีคิกจากฝั่งขวามาหน้าประตูเข้าหัว ปาซซินี่ โขกตุงตาข่ายเข้าไปส่งทั้งสองทีมกลับมาเท่ากันที่ 2-2

     น.76 จากนั้นไม่กี่อึดใจ อินเตอร์ ก็มาพลิกแซงเป็น 3-2 จนได้จากจังหวะที่ เอเซเกล มูนยอซ ไปเหนี่ยวแขน ปาซซินี่ ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันที และเป็น เอโต้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด

     น.88 ช่วงท้ายเกม ปาแลร์โม่ น่าจะได้ประตูตีเสมอเมื่อ ปาตอเร่ โยนบอลจากกราบขวามาเสาไกลให้ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มข้อทันที แต่บอลพุ่งไปติดขา เซซ่าร์ เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ จบเกม อินเตอร์ พลิกกลับมาชนะสุดมันส์ 3-2

     รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อินเตอร์ มิลาน: ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ อันเดรีย ราน็อคเคีย, ดาวิเด้ ซานตอน (ฮูสซีน คาร์ช่า น.45) - เอสเตบัน คัมบิอัสโซ่ (โจเอล โอบี น.80), ติอาโก้ ม็อตต้า, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ - ฟิลิเป้ คูตินโญ่ (จามเปาโล ปาซซินี่ น.45) - ดีเอโก้ มิลิโต้, ซามูเอล เอโต้
สำรองไม่ได้ใช้ : ลูก้า คาสเตลัซซี่, มาร์โก มาเตรัซซี่, หิลิเซ่ นาตาลิโน่, โกรัน ปันเดฟ

     ปาแลร์โม่ : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - มัตเตีย คาสซานี่, เอเซเกล มูนยอซ, เชซาเร่ โบโว่, เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ - จูลิโอ มิยัชโช่, อาร์มิน บาชิโนวิช, อันโตนิโอ โนเชริโน่ - ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, โยซิป อิลิซิช - ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ (ปาจติม คาซามี่ น.62)
สำรองไม่ได้ใช้ : ฟรานเชสโก้ เบนุสซี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ซินิซ่า อันเดลโกวิช, ยัสมิน เคอร์ติช, ฟาบิโอ ลิเวรานี่, อุมแบร์โต้ นัปเปลโล่

นาโปลี 4 - 0 ซามพ์โดเรีย

สนาม : ซาน เปาโล

     นาโปลียังจัดสามประสานในแนวรุกชุดใหญ่ มีทั้ง เอเซเกล ลาเวซซี่, มาเร็ค ฮัมซิค และ เอดินสัน คาวานี่ วันนี้ต้องการสามแต้มเพื่อแซงลาซิโอกลับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงอีกครั้ง เจอกับซามพ์โดเรีย ที่มีสองกองหน้าตัวใหม่อย่าง มัสซิโม่ มัคคาโรเน่ กับ กีโก้ มาเคด้า ยืนคู่กัน และมี โจนาธาน เบียเบียนี่ ที่เพิ่งได้จากอินเตอร์ อยู่บนม้านั่ง

     น.3 ทีมเยือนทักทายน่ากลัวทีเดียว จากจังหวะนี้ ดานิเอเล่ มานนินี่ ไหลจากขวาเข้ามาให้ เฟเดริโก้ มาเคด้า ยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษไปถูก มอร์แกน เด ซานซ์ติส ล้มตัวเซฟไว้ได้

     น.16 แต่แล้วก็เป็นนาโปลีมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อ เอเซเกล ลาเวซซี่ แทงเข้าเขตโทษให้ เอดินสัน คาวานี่ ยิงเสียบมุมเข้าไป

     น.45 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษ หลังจากที่ คาวานี่ ไปถูก ปิเอโตร อัคคาร์ดี้ สอยล้มลงไป ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด หมดครึ่งแรกนาโปลีนำอยู่ 2-0

     น.48 ครึ่งหลัง ทีมอัซซูร่าหนีห่างไปอีกเป็น 3-0 ลูกนี้ มาเร็ค ฮัมซิค เลี้ยงจี้มาหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะกดด้วยซ้ายเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม

     น.56 ฮัมซิค ขึ้นเกมมาทางซ้าย ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้ คาวานี่ แปย้อนทางเสียบเสาแรกเข้าไปอีก ไปกันใหญ่แล้วนาโปลีฉีกเป็น 4-0 และเป็นแฮตทริกของหัวหอกอุรุกวัยไปเรียบร้อย

     น.82 เจ้าถิ่นได้ลุ้นส่งท้าย จากฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านซ้าย เป็น วอลเตอร์ การ์กาโน่ ปั่นไปถูก จานลูก้า คูร์ชี่ ปัดออกหลังไปได้ จบเกม นาโปลียำใหญ่ 4-0 เก็บสามแต้มกลับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงอีกครั้ง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
นาโปลี : มอร์แกน เด ซานซ์ติส, ฮูโก้ คัมปันยาโร่, เปาโล คันนาวาโร่ (ซานเชซ คริบารี่ น.70), ฟาเบียโน่ ซานตาโครเช่, อันเดรีย ดอสเซน่า, ฮวน ซูนญิก้า, ฮัสซาน เยบด้า, วอลเตอร์ การ์กาโน่, เอเซเกล ลาเวซซี่, มาเร็ค ฮัมซิค (เอร์เนสโต้ โซซ่า น.58), เอดินสัน คาวานี่ (คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ น.63)
สำรองไม่ใช้ : เจนนาโร่ เยซโซ่, คริสเตียน มาจโจ้, ซัลวาตอเร่ อาโรนิก้า, มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า,

ซามพ์โดเรีย : จานลูก้า คูร์ชี่, ลูชาโน่ ซาอูรี่ (ดานิเอเล่ เดสเซน่า น.50), มัสซิโม่ วอลต้า, ปิเอโตร อัคคาร์ดี้, เรโต้ ซี้กเลอร์, ดานิเอเล่ มานนินี่, อันเจโล่ ปาลอมโบ, แฟร์นานโด ติสโซเน่ (อันเดรีย โปลี่ น.69), สเตฟาโน่ กูแบร์ติ, มัสซิโม่ มัคคาโรเน่, เฟเดริโก้ มาเคด้า (โจนาธาน เบียเบียนี่ น.56)
สำรองไม่ใช้ : จูเนียร์ คอสต้า, วลาดิเมียร์ โคมัน, โซลท์ ลัคซ์โก้, เนน้าด เคอร์สติซิช

 

ยูเวนตุส 1 -  2 อูดิเนเซ่

สนาม : โอลิมปิโก สตาดิโอ

 

      ยูเวนตุส เจองานยากในการเปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก ที่ตูริน รอรับ อูดิเนเซ่ โดยเจ้าถิ่นได้ เฟลิเป้ เมโล่ พ้นแบนกลับมา แต่ยังขาดตัวเจ็บเพียบ ต้องดัน ฮอร์เก้ มาร์ติเนซ ไปเล่นหน้าคู่กับ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ส่วนทีมเยือนมาในแบบฟูลทีม ตัวทีเด็ดยังคงอยู่ที่ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ และ อเล็กซิส ซานเชซ

     โอกาสแรกเป็นของ อูดิฯ ก่อน เมื่อ เมาริซิโอ อิสลา โยนจากฝั่งขวาให้ ซานเชซ เหินโหม่งออกหลังไป

     เกมของ "ม้าลาย" ยังคงค่อนข้างตัน จนกระทั่ง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ มาตัดบอลได้จากบริเวณกลางสนาม ก่อนลากขึ้นมาเองแล้วยิงออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง

     จากนั้นนาทีที่ 36 เดล ปิเอโร่ ลองส่องไกลด้วยซ้ายระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งแฉลบพื้น ทำเอา ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ต้องพุ่งปัดออกหลังไป จากลูกเตะมุม ฟาบิโอ กรอสโซ่ เก็บตกซัดด้วยขวา บอลยังไปตรงตัวนายทวารชาวสโลวีเนีย

     ท้ายครึ่งแรก ผู้มาเยือนต่อเกมกันขึ้นมาสวย จังหวะสุดท้ายเป็น ดิ นาตาเล่ ที่จิ้มออกซ้ายให้ อิสลา ยิงหลุดเสาสองไปแบบได้เสียว จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อนแบบไร้สกอร์

     เริ่มครึ่งหลังไม่กี่วินาที เดล ปิเอโร่ ได้บอลทางซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นไซด์ด้วยขวามุมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งหลุดเสาสองไปไม่กี่คืบ

     ทีมเยือนตอบโต้ได้น่ากลัว ดิ นาตาเล่ หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรก แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังเซฟเอาไว้ได้ จากจังหวะต่อเนื่อง อิสลา เปิดให้ ดิ นาตาเล่ หลุดกัปดักล้ำหน้า แปสวนตัว "จิจี้" ถากเสาไปนิดเดียว

     เกมผ่านมาครบ 1 ชั่วโมง ยูเว่ มาได้ประตูไปก่อน เมื่อ มิลอส คราซิช จ่ายให้ เดล ปิเอโร่ ซัดไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือน บอลลอยมาเข้าทาง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่กระโดดฟาดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย ขึ้นนำ 1-0

     อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ ฟรานเชสโก้ กุยโดลิน ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 67 จากลูกเตะมุม ดิ นาตาเล่ วิ่งเข้ามากดเต็มข้อ บุฟฟ่อน เซฟเอาไว้ได้ แต่บอลยังมาเข้าทาง คริสเตียน ซาปาต้า ที่ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ

     โดนแบบนี้เข้าไปเจ้าบ้านตื้อไปเลย และเป็น อูดิฯ ที่มาพลิกแซงนำ 2-1 ในนาทีที่ 85 ซานเชซ กระดกบอลให้ อัลเมน อับดี้ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง จ่ายออกขวาให้ อิสลา ที่ปาดกลับเข้ากลาง และเป็น ซานเชซ ที่ชาร์จเข้าไปไม่พลาด

     2 นาทีต่อมา ยูเว่ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน หลัง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ไปจงใจเตะ ซานเชซ ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที และถัดมาไม่นาน ซานเชซ ไปทำฟาวล์ เดล ปิเอโร่ เชิ้ตดำควักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามเช่นกัน จบเกม อูดิฯ บุกมาพลิกแซงชนะ ยูเว่ 2-1 อูดิเนเซ่มี 36 คะแนนแซงหน้า ม้าลายไปอยู่อันดับ6 ส่วนยูเว่ล่วงมาอยู่อันดับ7 มี 35 คะแนน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; ซเดเน็ค กรีเกร่า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่; มิลอส คราซิช, เฟลิเป้ เมโล่, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ (โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ น.84), เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ (อัลแบร์โต้ ลิแบร์ตัซซี่ น.89); ฮอร์เก้ มาร์ติเนซ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่

     อูดิเนเซ่ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; เมห์ดี้ เบนาเตีย, คริสเตียน ซาปาต้า, เมาริซิโอ โดมิซซี่; เมาริซิโอ อิสลา, จามปิเอโร่ ปินซี่, โกคาน อินแลร์ (เกร์มัน เดนิส น.66), ควัดโว อซาโมอาห์, ปาโบล อาร์เมโร่ (อันเดรีย โคด้า น.90); อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ (อัลเมน อับดี้ น.70), อเล็กซิส ซานเชซ

ผลการแข่งขันกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
- เบรสชา แพ้ คิเอโว 0 - 3
- กายารี่ ชนะ บารี่  2 - 1
- เลชเช่ เสมอ เชเซน่า  1 - 1
- อินเตอร์ มิลาน ชนะ ปาแลร์โม่ 3 - 2 
- เจนัว ชนะ ปาร์ม่า 3 - 1
- โบโลญญ่า - โรม่า (ยกเลิกการแข่งขันเนื่องจากหิมะตกหนัก)
- นาโปลี ชนะ ซามพ์โดเรีย 4 - 0
- ยูเวนตุส เสมอ อูดิเนเซ่ 1 - 2