"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวเล็งคว้า แอนดี้ คาร์โรลล์ กองหน้าตัวเก่งของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 1,440 ล้านบาท หากตัดสินใจปล่อย เฟร์นานโด ตอร์เรส ยอดดาวยิงเลือดกระทิงดุ ไปให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี วันนี้

       เดอะ ซัน หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เล่มดังของเกาะอังกฤษ ประโคมข่าว เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก เตรียมยื่นข้อเสนอ 30 ล้านปอนด์ (ราว 1.44 พันล้านบาท) คว้าตัว แอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ หากตัดสินใจขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน ให้กับ เชลซี ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวจะปิดลงในคืนวันจันทร์ที่ 31 มกราคมนี้
 
       ตามข่าวระบุว่า "หงส์แดง" พร้อมเพิ่มค่าเหนื่อยให้ดาวเตะวัย 22 ปี เป็น 3 เท่าจากที่ได้รับในปัจจุบัน 30,000 ปอนด์ (ราว 1.44 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ รวมทั้งมีแผนฉกตัว แอชลี่ย์ ยัง ปีกจอมเลื้อยของแอสตัน วิลล่า มาเสริมแนวรุกด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 720 ล้านบาท) และยื่นข้อเสนอใหม่ 8 ล้านปอนด์ (ราว 384 ล้านบาท) เพื่อดึง ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์ของ แบล็คพูล ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ
  
      ดาเมียน โคมอลลี่ ผู้อำนวยการฟุตบอลของลิเวอร์พูล ระบุตัว คาร์โรลล์ เป็นเป้าหมายอันดับ 1 และ ได้ใช้เวลา 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา เดินเรื่องคว้าตัวเขา นับเป็นสัญญาณอย่างชัดเจนว่าทีมดังแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ ได้วางแผนรับมือกรณีที่ ตอร์เรส ย้ายไปแล้ว ทั้งที่ยืนกรานอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าสตาร์วัย 26 ปีไม่ได้มีไว้ขาย
 
      ถึงไม่ได้ซื้อ คาร์โรลล์ ลิเวอร์พูล ก็อาจใช้เงินในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ไปถึง 45.5 ล้านปอนด์ (ราว 2.18 พันล้านบาท) ในเพียง 4 วัน ด้วยการเซ็นสัญญา ยัง มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ วัย 25 ปี และอดัม กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 25 ปีเท่ากัน หลังจากตกลงซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 22.5 ล้านปอนด์ (ราว 1.08 พันล้านบาท) ก่อนหน้านี้
 
      ซัวเรซ ได้ผ่านการตรวจร่างกายแล้ว แต่การไล่ล่าคว้าตัว คาร์โรลล์ ด้วยเงินก้อนโตจะทำให้บรรดาเดอะ ค็อป ตื่นเต้นมากที่สุด หลังจากเขาโชว์ฟอร์มโดดเด่น ด้วยผลงานทะลวงตาข่าย 11 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ รวมถึง 1 ประตูที่ทำได้ในเกมชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค และหาก โคมอลลี่ เดินเรื่องสำเร็จ ทีมของ ดัลกลิช เท่ากับจะมีการยกเครื่องด้วยเงิน 75.5 ล้านปอนด์ (ราว 3.62 พันล้านบาท) ภายในสัปดาห์เดียว