ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวเตะเลือดอาร์เจนไตน์ ยกย่องเป็นเกียรติยศสำคัญของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ชุดปัจจุบันที่ทำลายสถิติชนะรวดติดต่อกันในลีกกระทิงดุของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่ยืนยาวมานานครึ่งศตวรรษลงได้สำเร็จ ด้วยการเปิดบ้านต้อน "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คว้าชัยเป็นเกมที่ 16 จนทำให้เขาถูกนำไปเทียบชั้นกับ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานของคู่ปรับตลอดกาลทันที

     ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของบาร์เซโลน่า ออกมายอมรับว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่สามารถทำลายสถิติชนะ 15 นัดติดต่อกันในศึกลา ลีกา ของเรอัล มาดริด ที่ยืนยาวมาถึง 50 ปีลงได้สำเร็จ หลังจากระเบิดแฮตทริคในเกมเปิดรังคัมป์ นู ไล่ต้อน แอตเลติโก มาดริด 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
 
     ลูกทีมของโจเซป กวาร์ดิโอล่า ทำลายสถิติของทัพ "ราชันชุดขาว" ที่สร้างขึ้นในยุคของอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนตินา ในฤดูกาล 1960-61 ด้วยการยิง 60 ประตู และเสียเพียง 6 ประตู โดยเริ่มต้นด้วยการชนะ บาเลนเซีย ในบ้านของตัวเอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมปีที่แล้ว รวมทั้งโชว์ฟอร์มเหนือชั้นต้อน เรอัล 5-0, อัลเมเรีย 8-0 และเอสปันญ่อล คู่ปรับร่วมเมือง 5-1
 
     "นับเป็นเกียรติสำหรับ ทีมชุดนี้ที่สามารถข้ามผ่านสถิติที่คงอยู่มาเป็นเวลายาวนาน เพราะมันเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมากที่จะทำลายได้" เมสซี่ เผยความรู้สึก พร้อมพูดถึงการที่แซง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับของเรอัล ขึ้นมารั้งดาวซัลโวลีกกระทิงดุด้วยผลงาน 24 ประตู "ผมไม่ได้กังวลเรื่องการเป็นดาวยิงสูงสุด สิ่งที่ผมกังวลคือทีมจะอยู่ในเส้นทางแห่งความสำเร็จ และรักษาระยะห่างของคะแนนเพื่อแฟนบอลของเรา"
 
     อย่างไรก็ตาม เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า บัลลงดอร์ คนล่าสุด พยายามเตือนแฟนบอล "เจ้าบุญทุ่ม" ไม่ให้มองไกลถึงรอบชิงโกปา เดล เรย์ ที่จะพบ เรอัล มาดริด ในเดือนเมษายนนี้ "ตอนนี้เราควรจะคิดถึง ลา ลีกา และแชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น รอบชิงฟุตบอลถ้วยยังอีกยาวนาน"
     
     ทางด้าน กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส กุนซือแอตเลติโก มาดริด ยกย่อง เมสซี่ เทียบชั้นกับ ดิ สเตฟาโน่ หลังจากโดนฤทธิ์ของดาวเตะอาร์เจนไตน์ในเกมนี้ "สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเมสซี่ มากที่สุดในคืนนี้ไม่ใช่การทำประตู แต่เป็นการลงมาช่วยเกมรับ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเขามีคุณสมบัติในการเล่นทุกอย่างครบถ้วน แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง ดิ สเตฟาโน่ แห่งศตวรรษที่ 21 มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก"
 
     ขณะที่กวาร์ดิโอล่า กุนซือ "บาร์ซ่า" ยอมรับว่าเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่สำหรับ เมสซี่ ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ดิ สเตฟาโน่ วัย 84 ปี ที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ของเรอัล มาตั้งแต่ปี 2000 "ทุกทีมที่ยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์จะต้องมีผู้เล่นคนหนึ่งที่สามารถ สร้างความแตกต่าง ดิ สเตฟาโน่ คือผู้สร้างความแตกต่าง และนั้นคือสิ่งเดียวกับที่ เมสซี่ มอบให้กับเรา"
 
     "เราสามารถ เล่นได้ดีโดยปราศจาก เมสซี่ แต่เราคงไม่สามารถชนะ 16 เกมติดต่อกัน ผมคงต้องขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทุกคนจากการที่มันเป็นเรื่องยากลำบากกับ การชนะติดต่อกัน สิ่งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์ ผมไม่คิดว่าเราจะทำลายสถิติคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 5 สมัยติดต่อกันของพวกเขาได้ แต่อย่างน้อยเราก็ทำลายสถิตินี้ได้ สถิติมีไว้เพื่อทำลายเสมอ และสถิติใหม่นี้ไม่ช้าก็เร็วก็คงถูกทำลาย"
 
     สำหรับ สถิติชนะติดต่อกันสูงสุดของลีกยุโรปยังเป็นของ "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิก้า สโมสรดังของโปรตุเกส โดยชนะรวด 29 นัดติดต่อกันระหว่างปี 1971-73 ที่พวกเขามี "เสือดำแห่งโมซัมบิก" ยูเซบิโอ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส เป็นกำลังสำคัญ