โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดคนเดียวสองเม็ดช่วย "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้าน ต้อน "หมาป่า" วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-0 รั้งอันดับ2ห่างฝูงแมนฯยู 4 แต้ม ด้าน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไล่แซงเฉือน "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไปสนุก 2-1 ขยับแซงเชลซีขึ้นอันดับ4 ของตารางชั่วคราว

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554

อาร์เซน่อล 2 - 0 วูลฟ์แฮมป์ตัน

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

     ปืนใหญ่ ปรับตำแหน่งเดียวจากนัดก่อน ส่ง อเล็กซ์ ซง คืนตัวจริงแทน อาบู ดิยาบี้ ที่ติดโทษแบน แนวรุกยังใช้สามประสาน ธีโอ วัลค็อตต์, อังเดร อาร์ชาวิน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ขณะที่ วูล์ฟส์ ยังยึด 11 คนแรกชุดเดิมที่ล้ม แมนฯ ยูไนเต็ด

     ครึ่งแรก อาร์เซน่อล เปิดฉากบุกเข้าใส่ตามสไตล์ เพียงแค่ 5 นาทีแรก แจ็ค วิลเชียร์ ลากตะลุยเข้าหากรอบโทษแล้วโดน คริสตอฟ เบอร์ร่า ดักเท้าเอาไว้ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิกระยะ 22 หลากลางประตู โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ปั่นด้วยซ้ายข้ามคาน

      เจ้าถิ่นไม่เบาเครื่อง จนกระทั่งนาทีที่ 16 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ล้มตัวซัดด้วยเท้าขวากลางประตูผ่าน เวย์น เฮนเนสซี่ย์ เสียบตาข่าย

     ให้หลัง 4 นาที สกอร์น่าจะขยับเป็นสองสำหรับเจ้าบ้าน จากลูกเตะมุม เฮนเนสซี่ย์ ตัดสินใจไม่ดีแล้ว แต่ อังเดร อาร์ชาวิน ตวัดยิงเท้าซ้ายไม่เข้ากรอบ

     โอกาสลุ้นทำประตูแทบจะเป็นของ อาร์เซน่อล ฝ่ายเดียว นาทีที่ 31 โรนัลด์ ซูบาร์ เสียท่าให้ อาร์ชาวิน ในกรอบโทษฝั่งซ้าย ก่อนไหลให้ ธีโอ วัลค็อตต์ แปเหน่งๆ ไปติดเซฟ เฮนเนสซี่ย์ ยังเข้าทาง ฟาเบรกาส ซ้ำอีกทีติดบล็อค ริชาร์ด สเตียร์แมน ที่วิ่งลงไปขวางหน้าประตูพอดิบพอดี

     อาร์ชาวิน ร้องขอจุดโทษ คริส ฟอย ผู้ตัดสิน จากจังหวะโดน อดัม แฮมมิลล์ ดึงนิดเดียวแล้วทิ้งตัวล้มในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

     ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เจ้าบ้านพลาดการบวกประตูที่สองไปอีก จากจังหวะโต้กลับ อเล็กซ์ ซง รับบอลขึ้นทางซ้าย ก่อนไหลเข้าช่องในเขตโทษให้ ฟาน เพอร์ซี่ จับแล้วยิงมุมแคบเท้าซ้ายไปติด เฮนเนสซี่ย์ ใช้ขาเซฟหวุดหวิด จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำ 1-0

     ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล พลาดประตูที่สองไปอย่างไม่น่าเชื่อในนาทีที่ 46 แจ็ค วิลเชียร์ กระชากบอลสวยๆ เข้าเขตโทษ แล้วไหลถวายพานทองให้ ธีโอ วัลค็อตต์ หน้าปากประตูโล่งๆ แล้ว แต่ วัลค็อตต์ แประยะ 5 หลาหลุดเสา

     ถัดมานาทีเดียว แข้งปืนใหญ่ ขึ้นเกมรุกกันมาสวยๆ หลายทอด สุดท้ายเป็น วิลเชียร์ สอดขึ้นมารับบอลในกรอบโทษแล้วเลือกจ่ายให้เพื่อนอีกครั้ง แต่ถูก ริชาร์ด สเตียร์แมน เตะพลาดเข้าหากรอบประตูตัวเอง ทว่า เฮนเนสซี่ย์ ก็ยังใช้ขาเซฟเอาไว้อีก

     นาทีที่ 55 เจ้าบ้านยังคงใช้โอกาสเปลืองแบบต่อเนื่อง เชส ฟาเบรกาส ป้ายบอลคืนหลังให้ อังเดร อาร์ชาวิน จับแล้วยิงเท้าขวาเต็มเหนี่ยวระยะ 20 หลา บอลพุ่งถากเสานิดเดียว

     หลังจากบุกอยู่นาน อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จนได้ในนาทีที่ 56 จากจังหวะสวนกลับ ฟาเบรกาส เปิดให้ วัลค็อตต์ หลุดไปทางขวาตั้งแต่ครึ่งสนาม ก่อนจะไหลให้ ฟาน เพอร์ซี่ เลือกล่อเป้าเน้นๆ ด้วยเท้าซ้ายผ่าน เฮนเนสซี่ย์ ไม่เหลือ เป็นประตูที่สองของดาวยิงดัตช์ในเกมนี้

     ยังคงเป็น ปืนใหญ่ ที่บุกต่อ โดยเฉพาะจังหวะสวนกลับที่เล่นงานขึ้นด้วย นาทีที่ 63 แจ็ค วิลเชียร์ วางบอลยาวจากกลางสนามไปให้ ฟาน เพอร์ซี่ รอบอลเข้าเท้าซ้ายแล้ววอลเล่ย์ในกรอบโทษข้ามคาน

     นาทีที่ 72 เจ้าบ้านเปลี่ยนแนวรุกบ้างส่ง นิคลาส เบนท์เนอร์ กับ มารูอาน ชามัค ลงแทน อังเดร อาร์ชาวิน กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล เอาชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน ไปได้ 2-0 เก็บสามแต้มไล่จี้ แมนฯ ยูไนเต็ด 4 คะแนนเหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     อาร์เซน่อล : วอยเช็ก เซสนี่, บาการี่ ซานย่า, โยฮัน ฌูรู, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, กาแอล กลิชี่, ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ (เดนิลสัน น.77), เชส ฟาเบรกาส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (มารูอาน ชามัค น.72), อังเดร อาร์ชาวิน (นิคลาส เบนท์เนอร์ น.72)

     สำรองไม่ได้ใช้ : มานูเอล อัลมูเนีย, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, คีแรน กิ๊บบ์ส

     วูล์ฟแฮมป์ตัน : เวย์น เฮนเนสซี่ย์, โรนัลด์ ซูบาร์, ริชาร์ด สเตียร์แมน, คริสตอฟ เบอร์ร่า, จอร์จ เอโลโคบี้, อดัม แฮมมิลล์, คาร์ล เฮนรี่, เจมี่ โอฮาร่า (ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค น.63), เนนาด มิลิยาส (เควิน โฟลี่ย์ น.63), แม็ทธิว จาร์วิส,
เควิน ดอยล์ (สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ น.80)

     สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์คัส ฮาห์นีมันน์, โจดี้ แคร็ดด็อค, สตีเฟ่น วอร์ด, เดวิด โจนส์

     ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

ซันเดอร์แลนด์ 1 - 2 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

     ซันเดอร์แลนด์ ของกุนซือ สตีฟ บรูซ สามารถส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางตัวเก่งลงทำเกมได้เช่นเดียวกับ เคร็ก กอร์ดอน ที่เจ็บเข่ากับทีมชาติ ส่วนกองหน้าใช้ กียาน อซาโมอาห์ คู่ สเตฟาน แซสเซอญง

     ฝั่งทีมเยือน สเปอร์ส ของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ พัก ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ อารอน เลนน่อน ไว้เพื่อความสดในเหม แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ เลนน่อน ยังมีชื่อเป็นตัวสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด และให้ นิโก้ ครานชาร์ ทำเกมแดนกลาง ร่วมกับ กองหน้าอย่าง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ กับ เจอร์เมน เดโฟ

     เริ่มเกมมาได้ แค่ 4 นาที ทีมเยือน สเปอร์ส ทักทายทันทีจากลูกยิงของ เจอร์เมน จีนัส แต่บอลข้ามคานออกไป

     เกมในช่วงแรกค่อนข้างสูสี แต่ในนาทีที่ 11 เจ้าบ้านซันเดอร์แลนด์ ก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ คีแรน ริชาร์ดสัน เปิดบอลด้วยซ้ายเข้ามาให้ กียาน อซาโมอาห์ ในกรอบเขตโทษ จับบอลก่อนจะหมุมตัวยิงเข้าไปอย่างสวยงาม ซันเดอร์แลนด์ ขึ้นนำ 1-0

     หลังจากออกนำ 3 นาที ซันเดอร์แลนด์ ก็ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการยิงด้วยขวาของ สเตฟาน แซสเซอญง แต่ เอเรลโญ่ โกเมส เซฟเอาไว้ได้

     เกมผ่าน 20 นาทีของครึ่งแรก รูปเกมค่อนข้างสูสี ส่วนใหญ่จะต่อสู้กันในแดนกลางแต่เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ดูดีกว่าทีมเยือนเล็กน้อย ส่วนใหญ่จังหวะสุดท้ายมักจะทำเสียกันไปเอง

     นาทีที่ 33 ซัลลี่ย์ มุนตารี่ โดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม เมื่อไปทำฟาล์วใส่ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ เป็น นิโก้ ครานชาร์ ลองยิงลูกฟรีคิกแต่บอลไปติดกำแพงซะอีก

     สี่นาทีถัดมา พาฟลิวเชนโก้ ได้บอลหน้าประตูก่อนจ่ายให้ ครานชาร์ แล้วตอกส้นให้ ดาวยิงรัสเซีย อีกครั้งก่อนจะซัดด้วยซ้ายแต่บอลไม่ตรงกรอบออกข้างไป

     เกมของทั้งเจ้าถิ่นหลังจากขึ้นนำก็เน้นรับอย่างเหนียวแน่นปล่อยให้ สเปอร์ส บุกเข้าใส่จนกระทั่ง ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 1 นาที สเปอร์ส ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมของ นิโก้ ครานชาร์ โยนเข้ามาให้ ไมเคิ่ล ดอว์สัน เทกตัวขึ้
โหม่งคนเดียว บอลพุ่งลอดขา เคร็ก กอร์ดอน ที่โดน วิลเลี่ยม กัลลาส วิ่งตัดหน้าเข้าไปให้ ทีมเยือนตีเสมอเป็น 1-1

     ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น และเป็นทีมเยือน สเปอร์ส ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที แต่เจ้าบ้านยังป้องกันไว้ได้

     นาทีที่ 51 สเปอร์ส น่าได้ประตุแซงนำที่สุด เมื่อ สตีเฟ่น พีนาร์ โยนบอลมาหน้าประตูให้ ไมเคิ่ล ดอว์สัน โหม่งอีกครั้ง คราวนี้ เคร็ก กอร์ดอน ปัดไว้ได้ แต่บอลยังไม่พ้นหน้าประตูเป็น เจอร์เมน เดโฟ ยิงซ้ำแต่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สกัดเอาไว้ได้แต่บอลก็ยังมาเข้า วิลเลี่ยม กัลลาส พยายามยิงอีกครั้งแต่ กอร์ดอน ก็ยังบล็อกเอาไว้ได้ทัน

     นาทีที่ 57 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ แซงขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ซานโดร โยนบอลไปหน้าประตู แต่ จอห์น เมนซ่าห์ โหม่งสกัดออกมาได้ แต่บอลมาเข้าทาง นิโก้ ครานชาร์ วอลเล่ย์ ด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสุดสวยให้ ทีมเยือนขึ้นนำ 2-1

     ทีมเยือนเริ่มได้ใจ สามนาทีถัดมา สตีฟเฟ่น พีนาร์ ก็พาบอลแหวกกองหน้ามาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายแต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

     เกมผ่านเข้าสู่ 20 นาทีสุดท้ายกลายเป็นเจ้าบ้าน ซันเดอร์แลนด์ ที่ต้องวิ่งไล่แย่งบอลจาก สเปอร์ส ทีมเยือนเพราะนอกจากสกอร์จะตามหลังแล้ว รูปเกมก็ยังตกเป็นรองพอสมควร และเป็น สเปอร์ส ที่จ่ายบอลไปมาฆ่าเวลาไปเรื่อย

     ก่อนหมดเวลา 10 นาที คีแรน ริชาร์ดสัน ได้ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งผ่านมือ โกเมส ไปแล้วแต่ชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

     เข้าสู่ท้ายเกม สเปอร์ส หันมาเล่นเกมรับแล้วรอสวนกลับโดยปล่อยให้ ซันเดอร์แลนด์ เจ้าบ้านทำเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่แนวรับของ "ไก่เดือยทอง" ยังช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้หมด จบเกม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ บุกมาแซงชนะ ซันเดอร์แลนด์ ได้ถึงถิ่น 2-1 แซง เชลซี ขึ้นไปอยู่อันดับที่สี่และทำคะแนนจี้ แมนฯ ซิตี้ เหลือแค่สองคะแนนแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     ซันเดอร์แลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, จอห์น เมนซ่าห์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เนดุม โอนูโอฮา, สตีด มัลบร็องค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ซัลลี่ย์ มุนตารี่, คีแรน ริชาร์ดสัน, กียาน อซาโมอาห์, สเตฟาน แซสเซอญง 

     สำรอง : ซิมง มินโยเล่ต์, มาร์กอส อันเจเลรี่, คริสเตียน ริเวรอส, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, แจ็ค โคลแบ็ค, อาเหม็ด เอล-มูฮัมมาดี้, แอนทอน เฟอร์ดินาน

     สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูก้า, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้, สตีเว่น พีนาร์, เจอร์เมน จีนัส, ซานโดร รานิเอรี่, นิโก้ ครานชาร์, โรมัน พาฟลิวเชนโก้, เจอร์เมน เดโฟ 

     สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, วิลสัน ปาลาซิออส, อารอน เลนน่อน, ปีเตอร์ เคร้าช์, เซบาสเตียง บาสซง, บองกานี่ คูมาโล่, โจนาธาน วู๊ดเกต

     ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

ผลาการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี้  2-1
- อาร์เซน่อล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน  2-0
- เบอร์มิงแฮม ชนะ สโต๊ค ซิตี้   1-0
- แบล็คเบิร์น เสมอ นิวคาสเซิ่ล  0-0
- แบล็คพูล เสมอ แอสตัน วิลล่า  1-1
- ลิเวอร์พูล เสมอ วีแกน  1-1 
- เวสต์บรอมวิช เสมอ เวสต์แฮม  3-3
- ซันเดอร์แลนด์ แพ้ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 1-2